ดีเอสไอรับสอบ 'มัลลิกา' โพสต์ภาพตัดต่อนายกฯ คู่ป้าย 'เสือ สิงห์ กระทิง' เป็นคดีพิเศษ

'ธาริต รับคดีพิเศษทันที หลัง 'วิญญัติ' ทนาย นปช. ร้อง ดีเอสไอ สอบ 'มัลลิกา'  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  โพสต์ภาพตัดต่อข้อความ นายกฯ กับป้ายจุดชมวิว "เสือ สิงห์ กระทิง" ระบุเข้าข่ายความผิด ม.14  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ 
 
14 ส.ค.56 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  เดินทางเข้าพบนายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีดีเอสไอ  เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ให้สอบสวนและดำเนินคดีอาญา น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่มีการโพสต์รูปภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางไปอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  จ.ประจวบคีรีขันธ์  เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมาและได้ถ่ายภาพคู่กับป้ายอุทยานแห่งชาติกุยบุรีไว้เป็นที่ระลึกโดยมีภาพปรากฏในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ของ น.ส.มัลลิกา โดยป้ายชมวิวตามที่โพสต์นั้นมีคำว่า “เสือ สิงห์ กระทิง” และมีภาพนายกรัฐมนตรียืนข้างป้าย  ซึ่งเป็นข้อความที่คลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับความเป็นจริงของอุทยานฯ  เพราะข้อความเดิมเป็นป้ายที่เขียนข้อความว่าจุดชมวิว “ช้างป่า  กระทิง  กุยบุรี” สร้างความเสื่อมเสียกับนายกฯที่เป็นผู้นำประเทศ เห็นว่าเข้าข่ายความผิด ม.14  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  ว่าด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่วาจะทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ  โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชนและเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือขอมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และอาจเข้าข่าย ม.16 เกี่ยวกับการตัดต่อและทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง
 
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงไม่ไปยื่นเรื่องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นายวิญญัติ  กล่าวว่า เพราะนายกฯเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญในประเทศ และกฎหมายดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ ตนมองว่าดีเอสไอมีศักยภาพที่จะดำเนินการได้ ส่วนตนไม่ได้ประสงค์ที่จะเอาผิดไปถึงผู้ที่กดไลค์ แต่ในส่วนที่กดแชร์ภาพนั้นตนก็ขอให้ดีเอสไอตรวจสอบทั้งหมดด้วย
 
ด้านนายธาริต กล่าวว่าตนได้สั่งการให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษทันที เนื่องจากเป็นความผิดตามพ.ร.บ.แนบท้ายการสอบสวนคดีพิเศษ  ตนขอบอกเลยว่าให้ความสำคัญกับคดีนี้มากกว่าปกติ ซึ่งผู้ร้องระบุชัดเจนว่าหากมีผู้ใดเกี่ยวข้องก็ให้สอบสวนกลับไปทั้งหมด ดีเอสไอจึงจะเริ่มการสอบสวนตั้งแต่ น.ส.มัลลิกา  ทั้งนี้ ตนจะมอบหมายให้พ.ต.ต.ยุทธนา  แพรดำ  ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเพื่อเดินหน้าคดีดังกล่าวทันที
 
“ต้องรับเป็นคดีพิเศษแน่นอนเพราะบุคคลในภาพเป็นถึงนายกฯ  ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อหรือโพสต์เองถือว่ามีความผิดชัดเจน ผมไม่ได้รับใช้การเมืองแต่นายกฯเป็นถึงประมุข” อธิบดีดีเอสไอกล่าว และหลังจากยื่นหนังสือ นายธาริตได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ยุทธนา สอบปากคำนายวิญญัติทันทีด้วย
 
ทนาย นปช. เชื่อดีเอสไอมีศักยภาพในคดีบุคคลสำคัญ
Spring News รายงานด้วยว่า นายวิญญัติ กล่าวว่า ต้องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวทั้งหมด โดยมุ่งเน้นการจับกุมตัวการหลักที่ตัดต่อภาพและเผยแพร่ ส่วนเหตุที่ไม่ไปร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เรื่องจากเชื่อว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษมีศักยภาพมากกว่า ในการดูแลคดีของบุคคลสำคัญ
 
มัลลิกา ขอโทษ ระบุแชร์ต่อมาอีกที พร้อมโพสต์ภาพจริงชี้แจง
ด้าน น.ส.มัลลิกา ได้โพสต์ภาพที่มีการตัดต่อข้อความกับภาพที่ไม่มีการตัดต่อเพื่อเปรียบเทียบ พร้อมข้อความชี้แจงเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ "Mallika Boonmeetrakool" ว่า "ต้องขออภัย ลงภาพผิดไปจริงๆ ค่ะ เพราะภาพนั้นถูกแชร์มาต่ออีกทีหนึ่ง จึงขออนุญาตลงใหม่เทียบให้เห็นกันอีกครั้งค่ะ" 


ภาพที่ไม่มีการตัดต่อข้อความ

 

มาตรา 14 ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

มาตรา 14 ผู้้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท