Skip to main content
sharethis

สภาทนายความออกแถลงการณ์ติง ปอท. ตรวจสอบไลน์ ระวังละเมิดสิทธิฯ ปอท.ยันคุยกับไลน์จริง แจงไลน์บอกปัดเพื่อปกป้องธุรกิจ ด้านกรรมการสิทธิฯ เล็งเชิญ ปอท.แจงกรณีสอบไลน์

(15 ส.ค.56) สภาทนายความออกแถลงการณ์กรณีการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลบนโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยหน่วยงานของรัฐ อันสืบเนื่องมาจากกรณีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) มีแนวคิดที่จะตรวจสอบและออกกฎเกณฑ์ในการควบคุมการใช้แอปพลิเคชั่น Line (ไลน์) โดยอ้างว่าเพื่อการป้องกันปัญหาการกระทบกับความมั่นคงของชาติ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชนนั้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ เห็นว่า การที่ ปอท.จะทำการตรวจสอบและออกกฎเกณฑ์ในการควบคุมการใช้ไลน์นั้น เป็นการอ้างข้อยกเว้นของกฎหมายซึ่งจะต้องแปลความในทางที่แคบ เพราะหลักการที่สำคัญกว่าก็คือ การที่ ปอท. ต้องระมัดระวังการใช้อำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมายและโดยเฉพาะจะต้องไม่เป็นการก้าวล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ทั้งต้องให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่ได้กำหนดการใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมายของบุคคลและมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น

ดังนั้นการที่ ปอท.จะทำการตรวจสอบและออกกฎเกณฑ์ควบคุมการใช้ไลน์โดยลำพังตนเอง ไม่ผ่านการตรวจสอบของศาลยุติธรรม จึงไม่ชอบ การจะตั้งข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำผิดโดย ปอท. จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในแต่ละกรณี และจะต้องได้รับคำสั่งอนุญาตจากศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 105 เนื่องจากการส่งข้อความผ่านไลน์ ถือได้ว่าเป็นสิ่งพิมพ์หรือเอกสารอื่นซึ่งมีการส่งทางไปรษณีย์และโทรเลข ทั้งนี้ จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนคดีและการพิจารณาคดี หรือเพื่อประกอบการกระทำซึ่งเป็นการกระทำความผิดทางอาญา


ปอท.ยันคุยกับไลน์จริง แจงไลน์บอกปัดเพื่อปกป้องธุรกิจ
วานนี้ (14 ส.ค.56) พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตามที่ บริษัท ไลน์ คอร์ปอเรชั่น แถลงข่าวว่า ยังไม่ได้รับคำขออย่างเป็นทางการ จาก ปอท. ดังนั้น บริษัทไลน์ยังคงไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ในประเด็นดังกล่าวได้ในตอนนี้ และบริษัทไลน์ยังคงมีนโยบายหลักในการรักษาข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลนั้น ยืนยันว่า ตนเองได้พูดคุยกับบริษัทไลน์ไปก่อนหน้านี้จริง และทางบริษัทไลน์ก็ตอบรับพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ในการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายแล้วด้วย

ส่วนแถลงการณ์ที่ออกมานั้น ถือเป็นการปกป้องธุรกิจของเขา เพราะกลัวลูกค้าจะต่อว่าได้ ซึ่งทาง ปอท. จะทำการสอบในทางลับต่อไป ตามที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

ส่วนการที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การตรวจสอบไลน์นั้นเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนั้น ผบก.ปอท. ระบุว่า ได้พูดคุยกับทางบริษัทไลน์มาหลายครั้ง ว่าจะเป็นผู้คัดเลือกข้อความมาให้ตรวจสอบ ว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ คงบังคับให้ส่งตรวจสอบทุกเรื่องไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังพบความผิดในไลน์น้อย ส่วนมากพบทางเฟซบุ๊ก แต่เตรียมไว้ในอนาคตหากเป็นช่องทางทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการได้ทันท่วงที ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการในส่วนที่มีการร้องเรียน หรือเคยทำผิดในโซเชียลมีเดียอื่นๆ

ส่วนจะขยายผลการตรวจสอบไปยังแอปพลิเคชั่นแชทอื่นๆ ก็กำลังพิจารณา ยืนยันว่าไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพราะจะตรวจเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น ไม่ต้องขออำนาจศาล เพราะไม่ได้ดูข้อความ เพียงเป็นการขอข้อมูลจากต่างประเทศเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องขอผู้ใช้


กสม.เล็งเชิญ ปอท.แจงกรณีสอบไลน์
น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. กล่าวว่า ทางอนุกรรมการจะเชิญ ปอท. ตัวแทนของบริษัท ไลน์ และประชาชนผู้ใช้บริการมาให้ข้อมูล เพื่อรับฟังความคิดเห็นก่อนที่จะมีการวิเคราะห์สรุปว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่

ส่วนกรณีว่า ปอท.อ้างเรื่องความมั่นคงในการตรวจสอบ ถือเป็นการละเมิดสิทธิหรือไม่ น.พ.นิรันดร์ กล่าวว่า พนักงานสืบสวน มีอำนาจในการตรวจสอบอยู่แล้ว โดยต้องยึดหลักกฎหมายตามรัฐธรรมนูญไม่ไปละเมิดสิทธิ์ หรือหากจะมีการละเมิดหน่วยงานของรัฐก็ต้องรับผิดชอบและสามารถถูกฟ้องร้องได้ อีกทั้งภาคเอกชนก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ข้อมูลของผู้ใช้บริการ เพราะเอกชนมีหน้าที่ที่จะไม่ละเมิดสิทธิ์ ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้ว หน่วยงานของรัฐมีระบบในการสืบสวนหาข้อมูลในทางอื่นไม่ใช่เฉพาะไลน์ ถ้าหากจะต้องมีการตรวจสอบไลน์จริง ปอท.ต้องมีเหตุผลสามารถยอมรับได้ ทั้งนี้คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า กสม.จะเรียก พล.ต.ต.พิสิษฐ์ มาให้คำชี้แจงต่อ
กรณีดังกล่าว

 

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ และ ไอเอ็นเอ็น 1, 2

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net