Skip to main content
sharethis

จากเอกสารลับล่าสุดของสโนว์เดน เปิดเผยว่า NSA ได้จัดงบประมาณหลายล้านดอลลาร์ในการเตรียมชดเชยแก่บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ซึ่งร่วมมือกับโครงการสอดแนม ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่บางส่วนบอกว่าพวกเขาไม่ได้เงินชดเชยหรือไม่ได้ร่วมมือกับโครงการ

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2013 สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโครงการสอดแนมโดยบอกว่าสภาความมั่นคงของสหรัฐฯ (NSA) ใช้เงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อให้บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่เข้าร่วมกับโครงการสอดแนมที่ชื่อ Prism หลังจากที่ศาลตัดสินว่าพฤติกรรมบางอย่างขององค์กรความมั่นคงเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ

เดอะ การ์เดียน อ้างอิงจากเอกสารลับ ซึ่งเป็นจดหมายข่าวเดือน ธ.ค. 2012 ของ NSA ระบุว่าการมีการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการดำเนินการร่วมกับบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ได้แก่ กูเกิล ยาฮู ไมโครซอฟท์ และเฟซบุ๊ก เพื่อให้การดำเนินการสอดแนมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยค่าใช้จ่ายต่างๆ อยู่ภายใต้การดำเนินการของหน่วยปฏิบัติการแหล่งข้อมูลพิเศษ (Special Source Operations) ที่เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เคยกล่าวว่าเป็นทีมระดับสูงของ NSA ที่มีหน้าที่ในการจัดการกับโครงการสอดแนมทั้งหมดรวมถึง Prism ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากบรรษัทต่างๆ ในการเข้าถึงข้อมูล

เดอะ การ์เดียน ระบุว่า การเปิดเผยเรื่องการใช้เงินภาษีของประชาชนไปเป็นค่าใช้จ่ายสร้างความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ทำให้เกิดคำถามใหม่ว่ากลุ่มบรรษัทไอทีกับ NSA มีความสัมพันธ์กันอย่างไร โดยหลังจากการเปิดโปงเรื่องโครงการสอดแนมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน มิ.ย. กลุ่มบรรษัทไอทียักษ์ใหญ่ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนร่วมและบอกว่าพวกเขาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ทางการเมื่อมีการทำเรื่องร้องขอข้อมูลเท่านั้น

เดอะ การ์เดียน ขอให้บรรษัทอินเทอร์เน็ตต่างๆ แสดงความเห็นและเปิดเผยข้อมูลในกรณีล่าสุดนี้ โฆษกของ ยาฮู กล่าวว่า กฎหมายระบุให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องออกค่าใช้จ่ายชดเชยให้กับบริษัทเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อกระบวนการทางกฎหมายจากทางรัฐบาลได้ พวกเขาเรียกค่าชดเชยโดยอ้างอิงตามกฎหมายนี้เท่านั้น

เมื่อถามถึงจำนวนเงินค่าชดเชยให้กับบริษัท ทางเฟซบุ๊กกล่าวว่า พวกเขาไม่เคยได้รับค่าชดเชยใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการตอบสนองต่อคำร้องขอข้อมูลของรัฐบาลเลย ขณะที่กูเกิลไม่ตอบคำถามแบบเจาะจง แต่กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมโครงการ Prism หรือโครงการสอดแนมใดๆ และบอกว่ากำลังรอให้ทางการสหรัฐฯ อนุญาตให้พวกเขาเผยแพร่คำร้องต่อสาธารณชนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของกูเกิล

ขณะที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยว่า พวกเขาได้เรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาลเป็นรายกรณีและบอกว่าที่ไมโครซอฟท์ยอมทำตามคำสั่งศาล เนื่องจากมีกฎหมายบังคับ ไม่ใช่เพราะต้องการเงินชดเชย

เดอะ การ์เดียน กล่าวอีกว่าแม้ดูเหมือนจะมีช่องว่างระหว่างบริษัทไอทียักษ์ใหญ่กับ NSA แต่ก่อนหน้านี้สโนว์เดนก็เคยเปิดเผยว่ามีอีเมลของชาวอเมริกันจำนวนมากถูกสอดแนม และ วอชิงตันโพสต์ก็เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลจากเอกสารแสดงให้เห็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวหลายพันครั้งต่อปี


ศาลทางการสหรัฐฯ เคยตัดสินว่าการกระทำของ NSA ละเมิด รธน.

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เปิดเผยคำตัดสินของศาลเมื่อช่วงเดือน ต.ค. 2011 ที่ระบุว่าทาง NSA ละเมิดบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมที่ 4 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯจากการที่พวกเขาไม่สามารถแยกแยะการสื่อสารภายในประเทศจากการข้อมูลการสื่อสารต่างประเทศได้

ทุกๆ ปี หน่วยงานข่าวกรองต้องการให้ศาลการสื่บราชการลับ (Fisa court) เซ็นสัญญา "การรับรอง" เพื่อเป็นกรอบกฎหมายในการดำเนินการสอดแนม แต่หลังจากการตัดสินของศาล พวกเขาก็ได้รับการรับรองแบบชั่วคราวและกำลังดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาในข้อที่ถูกตัดสินว่าผิดกฎหมายอยู่

นอกจากนี้ หัวหน้าผู้พิพากษา จอห์น เบทส์ ยังได้กล่าวในการตัดสินของศาลอีกว่า NSA มีปัญหาใหญ่อยู่คือการเก็บข้อมูลของชาวอเมริกัน ภายใต้คำสั่งของหน่วยงานข่าวกรองต่างประเทศ โดยมีการเก็บข้อมูลการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ 56,000 ครั้งต่อปี เบทส์ยังบอกอีกว่าองค์กร NSA ให้ข้อมูลเท็จเรื่องขอบข่ายการสอดแนมในช่วง 3 ปีก่อนที่ศาลจะเข้าแทรกแซง

ในจดหมายข่าวของ NSA กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า NSA ได้ตอบรับต่อคำตัดสินในครั้งนี้ด้วยการทำงานที่รัดกุมขึ้น เนื่องจากการดักเก็บข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูงอาจทำให้เกิดผลตามมา ขณะเดียวกันที่ปรึกษาทั่วไปของ NSA ก็กล่าวว่ากำลังพิจารณายื่นอุทธรณ์ในเรื่องนี้อยู่

 


เรียบเรียงจาก

NSA paid millions to cover Prism compliance costs for tech companies, The Guardian, 23-08-2013
http://www.theguardian.com/world/2013/aug/23/nsa-prism-costs-tech-companies-paid

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net