ธาม เชื้อสถาปนศิริ เขียนบทความคัดค้านการที่นักแสดงสร้างข่าว แถลงข่าว-เผยคลิปหลุด ฯลฯ เพื่อกลบกระแสข่าวชุมนุมทางการเมือง โดยขอประณามนักแสดง และคนในวงการบันเทิงที่ออกมากลบเกลื่อนวาระทางสังคม

นักวิชาการสถาบันสื่อสาธารณะฯ ค้านดาราสร้างข่าวฉาวกลบข่าวชุมนุม

5 พ.ย. 2556 - เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ภายใต้องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ได้โพสต์บทความหัวข้อ "ค้านดาราสร้างเรื่องข่าวฉาวตนเอง กลบข่าวประชาชน!" พร้อมภาพประกอบในเฟซบุคของตนเองระบุว่า

"ผมขอคัดค้าน ดารา คนบันเทิง แถลงข่าวบ้าบอ คลิปลับ คลิปหลุด คลิปโป๊ ข่าวเลิกกับคนนู้น ได้กับคนนี้ ทะเลาะกับคนโน้น ดีกับคนนี้ และข่าวฉาว ข่าวคาวเรื่องราวของตนเอง"

"ไม่ต้องมาบอกประชาชน โพสต์ว่าจะเลิกกับใคร จะรักกับใคร จะกินข้าวกับใคร จะไปเที่ยวกับใคร เพื่อสร้างประเด็นกลบกระแสข่าวประชาชนชุมนุมทางการเมือง"

"ขอประณามดารา และคนบันเทิงทั้งหลาย ที่เอาเรื่องส่วนตัวของตนเอง มากลบเกลื่อนวาระของสังคมและประเทศชาติ ณ ห้วงเวลานี้!"

โ

จวกสื่อมวลชนกลบข่าวนิรโทษกรรม

โดยก่อนหน้านี้ เขายังได้โพสต์บทความหัวข้อ "8 รูปแบบการรายงานข่าวของสื่อโทรทัศน์ ในสถานการณ์การคัดค้านร่างพรบ.นิรโทษกรรม" โดยมีเนื้อหาว่า

"เท่าที่สังเกต, การรายงานข่าวช่องโทรทัศน์ต่างๆ ผมมีสมมติฐานและข้อสงสัยส่วนตัว ที่สื่ออาจทำในการรายงานข่าวเพื่อกลบข่าว "คัดค้านร่างพรบ.นิรโทษกรรม" ที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ ดังนี้

(1) "ไม่นำเสนอข่าวการร่วมคัดค้าน" ชุมนุม เดินขบวน ของประชาชน หรือหากนำเสนอ ก็จะอยู่เฉพาะในช่วงข่าวต้นชั่วโมงเท่านั้น

> ส่วนใหญ่ช่อง ฟรีทีวี (3,5,7,9) จะรายงานในลักษณะนี้

(2) "นำเสนอเฉพาะส่วนของบรรยากาศชุมนุม" แต่หลังจากนั้น จะไม่นำเสนอเนื้อหาสาระสำคัญอันเป็นเหตุให้ประชาชนร่วมออกมาคัดค้าน

> ส่วนใหญ่ช่อง ฟรีทีวี (3,5,7,9) จะรายงานในลักษณะนี้

(3) "นำเสนอข่าวในมุมมองของรัฐบาล" และมองว่า การชุมนุม คือ การ "ต่อต้านรัฐบาล" และสร้างความไม่สงบ เอารัฐมนตรี นักการเมืองฝ่ายรัฐมาพูดยัน แถลงยันอยู่ฝ่ายเดียว

> แบบนี้ดูได้ในช่อง 11 และ เอเชียอัพเดท

(4) "นำเสนอข่าวการชุมนุมต่อเนื่องในทุกช่วงข่าว" เกาะติดสถานการณ์ และเนื้อหาสาระของการชุมนุม โดยรายงานสาระสำคัญของผู้พูดแต่ละคน และมีเนื้อหาสาระพอจับต้องได้

> ส่วนใหญ่ช่อง ไทยพีบีเอส, เนชั่นชาแนล, ทีเอ็นเอ็น สปริงนิวส์ และ ทีนิวส์

(5) "มีรายงานพิเศษ มีข่าวที่เนื้อหาอธิบายสาเหตุ ที่มาของปัญหา" นอกจากรายงานสถานการณ์ชุมนุมปกติแล้ว จะมีรายงานข่าวที่แสดงถึงระบวนการพิจารณากฎหมาย ที่มาของการผ่านร่างพรบ.นิรโทษกรรม รายงานวิเคราะห์ทางการเมือง (แรงจูงใจ เกมการเมือง ผลลัพธ์ที่น่าจะเกิด) จากมุมมองนักวิชาการ นักการเมือง และฝ่ายที่เกีย่วข้อง

> ส่วนใหญ่ช่อง ไทยพีบีเอส, สปริงนิวส์ เนชั่น และ ทีนิวส์

(6) "ถ่ายทอดสดการชุมนุมตลอดเวลา"

> แน่นอนว่ามาจาก 3 ช่อง หลัก คือ บลูสกาย เอเอสทีวี และ ทีนิวส์

(7) "นำเสนอในแบบรักษาภาพ ระวังตัว" คือ นำเสนอข่าวการชุมนุม อาจมีความเห้นของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีรายการสนทนายาวๆ ที่พูดเรื่องพรบ. แต่ออกมาในแง่่มุมที่อาจคัดค้านรัฐบาลเล็กๆ แต่ไม่ค้านแรงสุดตัว

> ช่องที่กั๊กๆ แบบนี้ คือ ว๊อยซ์ทีวี (และบางรายการของ สปริงนิวส์ และ ทีเอ็นเอ็น)

(8) "ช่องที่นำเสนอข่าวด้านเดียว ด้านเดียว และด้านเดียว" คือ ช่อง เอเชียอัพเดท! ที่ตอนนี้ถอดผังรายการของแดงที่คัดค้านพรบ.นิรโทษกรรมออกจากผังจนหมด และพิธีกรบางคน หยาบคาย และวาจาร้ายจนแทบดูไม่ได้

....

โดยภาพรวม, ทิศทางข่าวของฟรีทีวี ยังคงมุ่งเน้น "ปรากฎการณ์ การชุมนุม" โดยเน้นไปที่ การเคลื่อนไหว การตั้งกำลังตรวจจับ รับมือของเจ้าหน้าที่รัฐ

ผมอยากจะเดาเอาว่า, การจะดูว่าสถานีโทรทัศน์ช่องไหน รายงานข่าวเรื่องนี้อย่างลงลึก มีรายละเอียด ที่เป็นสาระสำคัญของกฎหมายนั้น จำต้องดูกันมายาวนานก่อนการชุมนุมจะเริ่มขึ้น

ช่องที่รายงานและให้พ้นที่ข่าวเชิงลึก มี ไทยพีบีเอส ทีนิวส์ เนชั่น และบางรายการของสปริงนิวส์์

ส่วนเอเอสทีวี บลูสกาย เป็นช่องทีวีของกลุ่มการเมือง ซึ่งว่ากันตามจริง ก็ผิดรัฐธรรมนูญที่ไม่อนุญาตให้นักการเมืองเป็นเจ้าของช่อง แต่จะต่างอะไรกับช่อง ว๊อยซ์ทีวี เอเชียอัพเดท และช่องที่เป็นฐานเสียงกลุ่มทุนทางการเมืองอย่างทีเอ็นเอ็น สปริงนิวส์

และช่องที่รัฐสามารถควบคุมได้ทั้งทางตรงและอ้อม อย่าง ช่อง 3 5 7 9 และ ช่องกระบอกเสียงของรัฐบาล อย่างช่อง 11!

และตอนนี้ยังมีกระบวนการสร้างข่าว ใช้ข่าว กำหนดประเด้นข่าวอื่นๆ เพื่อมากลบกระแสข่าวบนหน้าสื่อ ทั้งข่าวดารา และ ข่าวฉาว คาวอื่นๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณชน

============================

ผมขอคัดค้านสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสารไร้สาระ เพื่อกลบเกลื่อน บิดเบือน เอนเอียงในสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองต่อการคัดค้านร่าง พรบ. นิรโทษกรรม!"

บทความของนักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ระบุ