ผบ.สส.ยันไทยไม่เสียดินแดน ด้านนายกฯ วอนหยุดวิจารณ์คำตัดสินคดีพระวิหาร

ผบ.สส.ชี้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบสภา ส่วนทหารพร้อมรักษาอธิปไตย ด้านนายกฯ ขอความร่วมมือฝ่ายค้าน หยุดวิพากษ์วิจารณ์-นำมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ห่วงกระทบการเจรจา พร้อมชี้แจงหากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
 
14 พ.ย.2556 เดลินิวส์รายงานว่า ที่วัดบุปผารามวรวิหาร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกมีคำตัดสินในคดีที่ประเทศกัมพูชาขอตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร เมื่อปี 2505 ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบรัฐสภา ซึ่งทางสภาฯ ได้มีการหารือถึงแนวทางกันอยู่ ซึ่งก็มีหลากหลายความคิดเห็นที่แนะนำรัฐบาลในการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ เราต้องมีการเตรียมตัว ในส่วนของทหารก็ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยเหมือนเดิม ส่วนแผนที่ก็ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000
 
เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าไทยไม่เสียดินแดน พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่คำพิพากษาของศาลโลกนั้นต้องนำมาแปลภาษา เพื่อให้เกิดความชัดเจน และได้นำรายละเอียดมาพูดคุย พร้อมทั้งนำเข้าสภาฯ เพื่อขอความเห็นชอบ เพราะฉะนั้นขอยืนยันว่าการดำเนินการต่างๆ จะไม่มีการตัดสินใจเพียงกลุ่มคน หรือเฉพาะรัฐบาล เพราะเมื่อได้รายละเอียดรัฐบาลต้องนำเข้าที่ประชุมสภาฯ เพื่อเก็บข้อมูลทุกอย่างไปดำเนินการให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
 
ทั้งนี้เราต้องรักษาอธิปไตย ภายใต้ความรักความสามัคคี ตนขอยืนยันว่าสถานการณ์ชายแดนยังเป็นปกติ ทหารก็มีการติดต่อสื่อสารกันทุกระดับชั้น อย่างไรก็ตามได้มีการหารือกับผู้นำทางทหารของกัมพูชาทุกระดับอยู่ตลอดเวลา
 
 
นายกฯ วอนหยุดวิจารณ์คำตัดสินคดีพระวิหาร
 
ขณะที่ VoiceTV รายงานวันเดียวกันนี้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอความร่วมมือฝ่ายค้าน หยุดวิพากษ์วิจารณ์และไม่หยิบยกคดีปราสาทพระวิหารมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการหารือกับกัมพูชา จึงอยากให้รับฟังข้อมูลเฉพาะส่วนที่ทีมทนายความได้ให้ข้อมูลในเบื้องต้น 
 
ทั้งนี้ภายหลังศาลโลกตัดสินคดี นายกรัฐมนตรี ยังไม่มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาแต่อย่างใด โดยให้ดำเนินการผ่านการทูต กระทรวงการต่างประเทศของ 2 ฝ่าย นายกรัฐมนตรียังยอมรับว่า การที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีในกรณีดังกล่าว ทำให้รัฐบาลทำงานได้ยากขึ้น จึงขอความร่วมมือเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะชี้แจงต่อรัฐสภา หากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
 
ขณะที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ  นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจํากรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องหลังคำพิพากษาของศาลโลก
 
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 19 พ.ย.นี้ คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมาเพื่อศึกษาผลการตัดสินของศาลโลก กรณีปราสาทพระวิหารจะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์สาระสำคัญของคำตัดสินของศาลโลก 
 
โดยเฉพาะการสรุปแนวเส้นและพื้นที่ ตามคำพิพากษาที่ศาลโลกระบุนั้นเป็นจุดใดบ้าง ก่อนที่จะไปหารือกับทางกัมพูชา พร้อมย้ำว่าก่อนที่จะไปหารือนั้น ประเทศไทยจะต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน จะต้องผ่านกระบวนการภายในของประเทศ และต้องฟังเสียงจากทุกภาคส่วนโดยผ่านกระบวนการรัฐสภา 
 
นายสีหศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กระบวนการเจรจาจะยึดแนวทางการแก้ไขโดยสันติวิธี ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก อีกทั้งต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทางกัมพูชาในฐานะเพื่อนบ้านและสมาชิกประชาคมอาเซียน รวมทั้งรักษาเกียรติภูมิของประเทศในสังคมโลก
 
ด้าน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจํากรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระบุ แม้ขณะนี้จะมีการคาดการณ์ถึงแนวเส้นเขตแดนและพื้นที่ ที่ศาลโลกได้ระบุแต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากคณะทำงานต้องศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีผลผูกพันต่อการเจรจากับกัมพูชาในอนาคต และเชื่อว่าจากการชี้แจงเรื่องกรณีปราสาทพระวิหารต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่ผ่านมาจะทำให้สมาชิกเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท