กปท.ลั่นพร้อมยุติชุมนุม หากยิ่งลักษณ์ยุบสภา

กปท.ลั่นพร้อมยุติชุมนุม หากนายกฯ ยุบสภา ด้าน คปท.ไปสีลม รณรงค์ต้านแก้ ม.190-บุก สตช. จี้ ตร.อย่าทำร้ายปชช. ขณะ วสันต์ พานิช ขึ้นเวทีราชดำเนิน ย้อนเหตุการณ์การเมืองไทย ชี้กระบวนยุติธรรมต้องเดินหน้า 

 
14 พ.ย.2556 เว็บไซต์เนชั่นทันข่าวรายงานว่า พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ หนึ่งในเสนาธิการร่วมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) กล่าวว่า กปท.จะปักหลักชุมนุมอยู่ในที่ตั้ง โดยไม่มีการเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่ใด ส่วนจะมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบอื่นๆ อีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ข้างหน้า ยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้ แต่จุดมุ่งหมายสูงสุดการชุมนุมของกลุ่ม กปท.มีสิ่งเดียว คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องยุบสภา ซึ่งหากรัฐบาลประกาศยุบสภา กปท.ก็จะยุติการชุมนุมทันที

ส่วนบรรยากาศการของ กปท. กองทัพธรรม และภาคีเครือข่าย 77 จังหวัด ที่บริเวณแยกผ่านฟ้า ถนนราชดำเนินนอก นั้นว่า ตลอดทั้งวัน บนเวทียังมีการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ผลการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลก โดยเฉพาะประเด็นที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ชี้แจงการแปลคำพิพากษา ต่อที่ประชุมรัฐสภายอมรับว่า ไทยเสียดินแดนยอดเขาพระวิหาร ไปทางทิศเหนือ เกินเส้นมติคณะรัฐมตรี ปี 2505 และบริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารทางฝั่งกัมพูชา แต่ไม่กินพื้นที่ยาวถึงภูมะเขือ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก

คปท.ไปสีลม รณรงค์ต้านแก้ ม.190-บุก สตช. จี้ ตร.อย่าทำร้ายปชช.
วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินขบวนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 จากแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ มายังบริเวณถนนสีลม โดยระหว่างทางมีการปราศรัยโจมตีการบริหารงานของรัฐบาล และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีประชาชนริมสองฝั่งถนน ให้ความสนใจ โบกมือทักทายให้กำลังใจและเป่านกหวีด

นิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. กล่าวบนเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ว่า ตำรวจเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ดังนั้นจากนี้ คปท.จะเดินขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะตำรวจต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน ไม่ใช่ระบอบทักษิณ และขอให้ตำรวจ อย่าทำร้ายประชาชน ซึ่งการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพื่อให้รัฐบาลรู้ว่า ประเทศนี้เป็นของประชาชน และปกครองประเทศโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่เป็นระบอบทักษิณ

จากนั้นเวลา 14.00 น. กลุ่ม คปท. เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยส่งตัวแทนมวลชน 10 คนนำธงชาติไทยปักด้านหน้าประตู สตช. พร้อมทั้งปราศรัย โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนึกถึงตราโล่ที่อยู่บนหมวกว่าเป็นตราของแผ่นดิน การมา สตช.เพื่อมาแสดงพลัง กรณีที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. สั่งการให้จับกุมประชาชนที่ติดธงชาติไทยที่รถ สร้างความปั่นปวน กีดขวางการจราจร จึงขอเรียกร้อง ไปยัง สตช. ตั้งคณะกรรมการสอบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถึงการออกคำสั่งดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ สตช.ดำเนินการปลดให้พ้นจากตำแหน่ง ผบช.น. เนื่องจากไม่รู้จักทดแทนบุญคุณแผ่นดิน

"กรณีที่ ผบช.น. กล่าวอ้างว่า ม็อบเป็นผู้สร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วน วุ่นวายนั้น แท้ที่จริงแล้ว ผู้ที่มาสร้างสถานการณ์คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลต่างหาก และ คปท. ไม่ได้เป็นม็อบที่สร้างความวุ่นวาย แต่คือกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับใช้ประชาชน ประชาชนก็พร้อมจะปฏิรูป สตช.ด้วย" อุทัย กล่าว

ต่อมาเวลา 15.30 น. กลุ่ม คปท.ได้เดินทางกลับมาถังแยกมัฆวานรังสรรค์ พร้อมประกาศว่าเป็นชัยชนะอีกครั้งหนึ่งของการชุมนุม
 

วสันต์ พานิช ขึ้นเวทีราชดำเนิน ย้อนเหตุการณ์การเมืองไทย ชี้กระบวนยุติธรรมต้องเดินหน้า  
ด้านข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 19.10 น. วันเดียวกัน ที่เวทีต้านกฎหมายนิรโทษกรรม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน นายวสันต์ พานิช อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ทนายความคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ปราศรัยเกี่ยวกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 เหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 และพฤษภาทมิฬ 2535 โดยระบุว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ผู้มีอำนาจในขณะนั้นได้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้กระบวนการยุติธรรมในการค้นหาความจริงต้องเป็นโมฆะไป ญาติผู้สูญเสียไม่สามารถพบว่าผู้ที่กระทำความผิดเป็นใคร รวมทั้งเหตุการณ์กรือเซะและตากใบ จนถึงการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ กับตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 กระทั่งเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่ายังไม่มีครั้งไหนดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ จึงไม่ควรมีการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง และเรียกร้องให้กระบวนยุติธรรมเดินหน้าต่อไปเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้สูญเสีย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า วสันต์ได้ปราศรัยพร้อมแสดงภาพถ่ายของ สมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ เฌอ ผู้เสียชีวิตจากปืนสไนเปอร์ที่ซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 ด้วย

 

 

ที่มา: เนชั่นทันข่าว (1, 2) และข่าวสดออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท