Skip to main content
sharethis

นายกฯ สิงคโปร์เผย รัฐบาลจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิดเหตุจลาจลเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการทำลายยานพาหนะและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย หลังจากที่คนงานอพยพในย่านลิตเติ้ลอินเดียไม่พอใจที่เพื่อนของพวกเขาเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารชน

9 ธ.ค. 2556 นายกรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์ประกาศว่าจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่มีส่วนร่วมในเหตุการจลาจลเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 18 คน

นายกรัฐมนตรี ลีเซียนหลง (Lee Hsien Loong) ของสิงคโปร์กล่าวว่า ทางรัฐบาลจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการระบุตัวผู้กระทำผิด และจะดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างเต็มอัตราต่อผู้กระทำผิดดังกล่าว

"ไม่ว่าสิ่งที่จุดชนวนให้เกิดการจลาจลจะมาจากเหตุการณ์ใดก็ตาม แต่ไม่มีข้ออ้างสำหรับการใช้ความรุนแรง ทำลายสิ่งของ และพฤติกรรมผิดกฏหมาย"  ลี เซียนหลง กล่าว

เมื่อช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์จลาจลครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ของสิงคโปร์ เหตุเกิดจากการที่ชายวัย 33 ปีคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุถูกชนรถโดยสารของเอกชนในย่านลิตเติ้ลอินเดีย ทำให้กลุ่มแรงงานอพยพกว่า 400 คนไม่พอใจพากันออกมาบนท้องถนนและมีการจุดไฟเผารถตำรวจและรถพยาบาล ภาพจากโซเชียลมีเดียส่วนหนึ่งยังได้แสดงให้เห็นยานพาหนะส่วนบุคคลหลายคันได้รับความเสียหาย

อธิบดีตำรวจของสิงคโปร์กล่าวประณามผู้ก่อเหตุว่ากลุ่มคนงานได้ก่อเหตุรุนแรงตามอำเภอใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจทนได้และไม่เป็นไปตามแนวทางแบบสิงคโปร์

สำนักข่าวบีบีซีระบุว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายในสิงคโปร์มักจะมีการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยรัฐ ขณะเดียวกัน ประเทศสิงคโปร์ก็ต้องพึ่งพาแรงงานจากต่างชาติอย่างมาก โดยมีกลุ่มแรงงานอพยพจากประเทศแถบภูมิภาคเอเชียใต้ส่วนใหญ่ทำงานในสายงานก่อสร้าง

กองกำลังป้องกันพลเรือน (SCDF) ของสิงคโปร์แถลงว่าหน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งอุบัติเหตุดังกล่าวในเวลา 21:25 น. ตามเวลาของสิงคโปร์ เมื่อทีมผู้ภัยเข้าไปถึงที่เกิดเหตุก็พบร่างชายอายุ 33 ปีติดอยู่ใต้รถโดยสารเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันก็มีคนขว้างปาสิ่งของเข้าใส่หน่วยกู้ภัยที่พยายามกู้ร่างของผู้เสียชีวิตจากตัวรถโดยสาร และมียานพาหนะของ SCDF 9 คันได้รับความเสียหาย

ใน 18 คนที่ได้รับบาดเจ็บมีตำรวจ 10 นาย เจ้าหน้าที่กองกำลัง SCDF 4 นาย ที่เหลือเป็นคนขับรถโดยสารและผู้ก่อเหตุ ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังหน่วยกุรข่า ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 27 ราย

ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ 12 ชั่วโมงถัดมาสถานการณ์ก็คลี่คลายลง มีนักท่องเที่ยว คนจับจ่ายซื้อหาสินค้า และคนงานก่อสร้าง ปฏิบัติกิจวัตรของตัวเองตามปกติ ขณะที่ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนเดินตรวจตราอยู่

พนักงานร้านอาหารในย่านที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุพวกเขาต้องปิดร้านอาหารและอยู่แต่ข้างในอาคารพร้อมกับลูกค้าในร้าน ซึ่งต่างก็อยู่ในความหวาดกลัวและไม่สามารถออกไปได้จนถึงช่วงเวลา 23.00 น. ตามเวลาของสิงคโปร์ ขณะที่เจ้าของร้านอีกรายหนึ่งบอกว่าพวกเขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น เห็นคนขว้างปาขวด ผลักรถโดยสารให้ล้มลง ขณะที่รถของเขาเองก็ได้รับความเสียหายด้วย

ย่านลิตเติ้ลอินเดียเป็นเขตที่มีอยู่อาศัยของผู้อพยพจากประเทศแถบ อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน เนปาล และศร๊ลังกา โดยมีร้านอาหาร และร้านค้าที่มาจากคนของประเทศดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก

เมื่อปีที่แล้วก็เคยเกิดเหตุการณ์ประท้วงของคนขับรถโดยสารชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่บอกว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างต่ำกว่าชาวสิงคโปร์ และมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีนัก แต่ก็ถูกจับกุมโดยทางการสิงคโปร์

 

เรียบเรียงจาก

Singapore bus death triggers riot, BBC, 09-12-2013 http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-25294918

Singapore PM sounds warning after riot, Aljazeera, 09-12-2013 http://www.aljazeera.com/news/asia-pacific/2013/12/singapore-pm-sounds-warning-after-riot-2013129489132684.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net