ศาลพิพากษา 'คดีเคนจิ' ผิดฐาน ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 6 ปี 8 เดือน

กรณี 'เคนจิ' โพสต์ข้อความ 2 ครั้ง และเตรียมโพสต์อีก 1 ครั้ง ศาลตัดสินให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 5 ปี 20 เดือน หรือประมาณ 6 ปี 8 เดือน เจ้าตัวไม่ขออุทธรณ์และเตรียมขออภัยโทษ

12 ธ.ค. 2556 - วันนี้ ที่ห้องพิจารณาคดี 715 ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้องนายกิตติธน (สงวนนามสกุล) หรือ 'เคนจิ' ในความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  และมาตรา 14 (2) (3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 คดีดังกล่าวศาลขึ้นบัลลังก์เวลา 09.55 น. และอ่านคำพิพากษาเวลาประมาณ 10.00 น.

ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(2) (3) เป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมตามกระทงความผิด ในความผิดฐานพยายามหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ประกอบ มาตรา 80 ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ส่วนในความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ และฐานนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 2 กรรม เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิจารณาลงโทษจำคุกในฐานความผิดสูงสุด ลงโทษกรรมละ 5 ปี รวมเป็น 10 ปี

จำเลยรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษกึ่งหนึ่งในฐานพยายามหมิ่นประมาทกษัตริย์ เหลือจำคุก 1 ปี 8 เดือน และในฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ เหลือจำคุกกรรมละ 2 ปี 6 เดือน เหลือโทษจำคุกทั้งสิ้น 5 ปี 20 เดือน (2,425 วัน) หรือ 6 ปี 8 เดือนโดยประมาณ ทั้งนี้หลังการพิพากษาจำเลยตั้งใจจะไม่ยื่นอุทธรณ์และขอพระราชทานอภัยโทษต่อไป

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2556 "เคนจิ" อายุ 51 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (ปอท.) กว่า 20 นายบุกจับกุมที่บ้านพักเมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2556 และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนปัจจุบัน

ในคำฟ้องระบุว่า จำเลยโพสต์ข้อความเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในเว็บไซต์ www.dangdd.com ใช้ชื่อล็อกอินว่าเคนจิ เมื่อวันที่ 1 และ 2 ส.ค.2556 นอกจากนี้ยัง “ตระเตรียมการและพยายามที่จะกระทำความผิด” ต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หมวด 1 โดยมีเจตนาที่จะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท โดยพบว่าจำเลยมีภาพและข้อความต่างๆ อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ติดต่อเผยแพร่สื่อสารเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่ภาพและข้อความดังกล่าวได้

“จำเลยได้ลงมือกระทำความผิดไปโดยตลอดแล้วแต่การกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นและยึดภาพถ่ายและข้อความต่างๆ พร้อมอุปกรณ์การสื่อสารทางระบบอินเตอร์เน็ตได้ก่อนที่จำเลยจะโพสต์ข้อความ ภาพ....เสียก่อนที่การกระทำความผิดได้สำเร็จตามเจตนาร้ายของจำเลย” ส่วนหนึ่งของคำฟ้องระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท