Skip to main content
sharethis
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เดินทางไปให้กำลังใจและดูพื้นที่ดินยุบใน จ.สกลนคร คาดสาเหตุจากการสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาทำนาเกลือ คนพื้นที่เล่าความหวาดกลัว แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดมารับผิดชอบ ตั้งคำถามเทียบโปแตชอุดร ใครจะรับผิดชอบปัญหาให้ชาวบ้าน
 
28 ธ.ค.2556 เวลา 11.00 น. กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี จำนวน 50 คน เดินทางไปให้กำลังใจและดูพื้นที่ดินยุบ ที่บ้านโนนสะแบง ต.หนองกวั่ง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร หลังจากที่มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ระบุว่า เกิดดินยุบเป็นหลุมกว้างประมาณ 4 เมตร ลึก 3 เมตร โดยอยู่ห่างรั้วโรงเรียนไม่ถึง 5 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ และมีการทรุดตัวของดินกระจายอยู่หลายจุด แต่ไม่มีหน่วยงานใดสนใจแก้ไข
 
ตามข่าว ไทยรัฐออนไลน์ ระบุว่า ชาวบ้านบอกว่าหลุมยุบตัว มีสาเหตุมาจากการสูบน้ำใต้ดิน ขึ้นมาทำนาเกลือ พื้นที่จำนวนหลายพันไร่ โดยมีผู้ประกอบการจำนวนหลายสิบราย และยังบอกอีกว่า มีการทำนาเกลือในพื้นที่มานานมากกว่า 30 ปี และชาวบ้านต่างพากันหวาดผวา เกรงจะไม่ปลอดภัย
 
เมื่อกลุ่มอนุรักษ์อุดรฯ เดินทางไปถึงหลุมดังกล่าวได้ถูกถมเรียบร้อยแล้ว โดยชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อราว 3 วันหลังจากเป็นข่าว ผู้ประกอบการนาเกลือก็ได้นำดินลูกรังมาถม ซึ่งกว่าจะเต็มก็ประมาณ 30 รถสิบล้อ แต่ยังมีการทำแนวเขตล้อมเอาไว้ และติดกระดาษเขียนข้อความว่า “อันตราย ห้ามเข้า” เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
 
 
หลังจากนั้น ชาวบ้านโนนสะแบง กว่า 10 คน ก็ออกมาพากลุ่มอนุรักษ์อุดรฯ เดินรอบหมู่บ้านเพื่อดูดินยุบอีกหลายจุด ซึ่งพบว่าบางจุดเกิดขึ้นใต้ถุนบ้าน บางจุดผืนดินเกิดเป็นรอยแตกเป็นแนวทางยาว นอกจากนี้มีบ้านหลายหลังแตกร้าว และลาดเอียงอย่างเห็นได้ชัดเจน พร้อมทั้งเล่าสถานการณ์ปัญหาให้ฟัง
 
นายรุ่งเรือง พันศิริ ชาวบ้านโนนสะแบง เล่าว่า ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวมาก เพราะในบริเวณหมู่บ้านเกิดดินยุบขึ้นบ่อยครั้ง แต่ละครั้งจะเกิดเสียงดังตูมตามขึ้นก่อน แล้วหมาจะเห่าหอนกันระงม นอนอยู่ก็ตกใจกลัวตื่นกันขึ้นมา บ้านบางหลังเกิดรอยแตกร้าวจนถึงที่นอน แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดมารับผิดชอบ
 
“มีเพียงผู้ประกอบการนาเกลือนำเอาก้อนอิฐประมาณ 50 ก้อน และปูนซีเมนต์ 2 กระสอบ มาให้ซ่อมแซมบ้าน แล้วก็เงียบหายไป”
 
 
ส่วนนางสวัสดิ์ เถาแก้ว ชาวบ้านโนนสะแบง ผู้ที่มีบ้านตั้งอยู่ห่างจากจุดดินยุบไม่ถึง 10 เมตร กล่าวว่า ดินยุบตรงจุดนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้ขอให้ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อบต. ของหมู่บ้าน พาไปร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายก อบต.หนองกวั่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการหยุดการทำนาเกลือ โดยนายก อบต.ก็รับปากว่าจะดำเนินการให้
 
“ยายพูดกับนายก อบต.หนองกวั่ง เพื่อขอให้แก้ไขปัญหานาเกลือ เขาก็รับปากว่าจะจัดการให้ ซึ่งหากว่า อบต.ไม่ดำเนินการยายก็จะล่ารายชื่อร้องเรียนกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะชาวบ้านทนทุกข์ และเดือดร้อนมานานแล้ว”
 
ด้านนางมณี บุญรอด แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจชาวบ้านโนนสะแบงเป็นอย่างมาก ที่ต้องเดือดร้อนมานานหลายปีจากการทำนาเกลือของผู้ประกอบการ โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาเหลียวแล เนื่องจากผู้ประกอบการกับข้าราชการเขาเอาด้วยกัน มีผลประโยชน์ร่วมกันแต่ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งนี้ กลุ่มอนุรักษ์ฯ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านเข้มแข็ง รวมกันเป็นกลุ่มเครือข่ายประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้ และช่วยเหลือกัน
 
“ตัวอย่างที่นี่สามารถนำไปเป็นบทเรียนเปรียบเทียบได้ว่าหากเกิดโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ที่ใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า และจะมีการขุดเป็นอุโมงค์ใต้ถุนบ้าน ผลกระทบย่อมมากกว่าอย่างมหาศาล แล้วพวกเราจะอยู่กันได้อย่างไร ซึ่งขนาดปัญหานาเกลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอุตสาหกรรมจังหวัด ผู้ว่าราชการ หรือแม้แต่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านได้” นางมณี กล่าว
 
 
 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net