Skip to main content
sharethis

รอง ผบ.ตร.ยอมรับ คนบนตึกกระทรวงแรงงานเป็นตำรวจจริง ปัดไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 2 ศพ เพราะวิถีกระสุนไม่ใช่ และไม่ได้พกกระสุนจริงขึ้นไป ส่วนกรณีทุบรถ พบเป็นการไล่ตามคนร้ายที่ยิง จนท. ซึ่งอาจเข้าใจผิด สั่งตั้ง กก.สอบแล้ว

2 ม.ค.2557 มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์  เมื่อเวลา 08.30 น.   พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศขีดเส้น 7 วันให้หาตัวกลุ่มบุคคลที่แต่งกายชุดตำรวจทุบรถของประชาชนบริเวณสนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดงและชายชุดดำที่อยู่บนตึกกระทรวงแรงงาน ว่า ทราบแล้ว และขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งมีการผลักดันผู้ชุมนุม โดยใช้เพียงโล่และกระบองจนทำให้ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งวิ่งไปบริเวณรถ

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบรถของประชาชนเป็นการดำเนินการเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น  พล.ต.อ.อดุลย์ ระบุว่า ตนก็ยอมรับ สำหรับชายชุดดำที่อยู่บนตึกของกระทรวงแรงงานหลังจากการตรวจสอบแล้ว จะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป

เมื่อถามว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันหรือไม่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า “ใช่ครับ อะไรที่เป็นจริงก็ต้องจริง ผมยอมรับ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องวินัย แต่สถานการณ์ในขณะนั้นมีความรุนแรงเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอยไปจุดตั้งรับ และมีผู้ชุมนุมเข้าไปยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และเสียชีวิตหนึ่งราย ทั้งนี้ผมจะชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน คนบนตึกกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์เป็นคนส่งขึ้นไป ส่วนคนที่ทุบรถก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร”

เมื่อถามถึงการดูแลกรณีการเคลื่อนขบวนของ กปปส.ในวันที่ 5 มกราคมนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องติดตามสถานการณ์อีกครั้ง

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า พลตำรวจเอกวรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับพลตำรวจเอกจรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ชี้แจงการเสียชีวิตของดาบตำรวจณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.ตลาดพลู และ นายวสุ ฉันทบุตร ผู้ชุมนุม กปปส.จากเหตุปะทะบริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยพลตำรวจเอกวรพงษ์ ยืนยันว่า ชายชุดดำบนดาดฟ้า อาคาร 3 ชั้น กระทรวงแรงงาน เป็นตำรวจจริง ซึ่งเป็นตำรวจชุดอารักขาและควบคุมฝูงชน ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 หมู่ หรือ 10 นาย ที่ขึ้นไปคุ้มกันระหว่าง กกต.ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ออกจากสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ดินแดง ช่วงเวลา 10.00-12.00 น.มีเพียงเครื่องยิงแก๊สน้ำตาและปืนลูกซองยิงกระสุนยาง อย่างละ 1 กระบอก และตำรวจทุกนายไม่พกพาอาวุธปืนจริง และไม่มีการส่งกำลังตำรวจขึ้นไปอยู่บนอาคารสูงอื่นอีก

ขณะที่ พลตำรวจเอกจรัมพร ชี้แจงประกอบคลิปวีดีโอ และภาพแผนผังจำลองสถานที่เกิดเหตุ พบว่า วิถีกระสุนที่ยิงดาบตำรวจณรงค์ เป็นการยิงจากบนลงล่าง ด้วยมุมกดประมาณ 15 องศา ขณะเกิดเหตุ ดาบตำรวจณรงค์ อยู่บริเวณใต้ต้นไม้ ใกล้ประตู 3 สนามกีฬาฯ เท่ากับว่า คนร้ายเพียงยืนอยู่ก็สามารถยิงได้ และจากการตรวจสอบซี่รั้วประตู 3 พบคราบตะกั่วลูกปืน และปลอกกระสุนขนาด .32 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับกระสุนที่พบในร่างของดาบตำรวจณรงค์ ส่วนวิถีกระสุนที่ยิงนายวสุ เป็นการยิงแนวราบ นอกรั้วด้านข้างซอยประชาสงเคราะห์ 1 ยืนยันว่า จุดที่ตำรวจอยู่ ไม่สามารถมองเห็นดาบตำรวจณรงค์ และนายวสุ เนื่องจากมีตึกสูงบัง และจุดที่ทั้งสองเสียชีวิต ไม่มีกำลังตำรวจอยู่ และจะมีการนำคดีการเสียชีวิตของนายวสุ เข้าสู่ขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 150 (4) โดยมีการอัยการร่วมพิจารณาคดี เพื่อความโปร่งใส และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กรณีผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณประตู 1 สนามกีฬาฯ

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืน ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืน 4 ชนิด ได้แก่ ขนาด 11 มม. 9 มม. .38 มม.หรือ ลูกโม่ และ .32 มม. คาดว่า มีการยิงออกมาจากอาวุธปืนทั้งหมด 16 กระบอก ส่วนระหว่างการชุมนุม ที่มีเสียงดังคล้ายระเบิดต่อเนื่อง พบว่า ส่วนหนึ่งมาจากประทัดยักษ์พันหัวน็อต ที่ผู้ชุมนุมใช้ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ หลังจากนี้ จะตั้งศูนย์รับแจ้งความ ที่ สน.ดินแดง กรณีที่ประชาชน ผู้ชุมนุม และตำรวจ ได้รับความเสียหายจากการชุมนุม

ส่วนกรณีคลิปวีดีโอตำรวจทุบรถ ยืนยันว่า เป็นตำรวจจริง อยู่ระหว่างการตรวจสอบหน่วยงานและสังกัด และจากการสอบถามเหตุผลเบื้องต้น ทราบว่า ระหว่างนั้นมีกลุ่มคนร้ายปล้นทรัพย์และยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องตอบโต้ และตามจับกุม ซึ่งภาพที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ มีเพียงด้านเดียว จึงอาจเป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อน จึงขอเวลาตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net