สุเทพ เทือกสุบรรณนัดหมาย 9 ม.ค. เดินขบวนไปวงเวียนใหญ่ ชุมนุมใหญ่ 13 ม.ค. ตั้ง 7 เวที 'แจ้งวัฒนะ-ห้าแยกลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัย-ปทุมวัน-ลุมพินี-ราชประสงค์-อโศก' จะเดินขบวน-ปิดล้อมสถานที่ราชการทุกวัน แต่กลางคืนกลับที่ตั้งป้องกันถูกซุ่มโจมตี ส่วนใครจุดเทียนค้าน กปปส. ถือเป็น นปช.

สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขณะเดินขบวน 9 สาย ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 ล่าสุดประกาศว่าจะเดินขบวนไปฝั่งธนบุรีในวันที่ 9 ม.ค. นี้และจะมีการตั้งเวที 7 จุดในการชุมนุม "ปิดกรุงเทพฯ" 13 ม.ค. นี้ (ที่มา: แฟ้มภาพ/ประชาไท) 

นัดหมายเดินขบวนฝั่งธนบุรี 9 ม.ค. มุ่งวงเวียนใหญ่ - พรานนก - ปิ่นเกล้า

9 ม.ค. 2557 - เมื่อคืนวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ปราศรัยที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยกล่าวถึงการเดินขบวนวันศุกร์นี้ (9 ม.ค.) ว่า "จะเริ่มเดินขบวนตั้งแต่เวลา 9.00 น. ไปตาม ถ.ดินสอ ตรงไปถึงสะพานพุทธ ข้ามสะพานพุทธไปสี่แยกบ้านแขก ไปสามแยกลาดหญ้า เลี้ยวขวามาที่วงเวียนใหญ่ ได้ไหว้ทั้งสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระเจ้าตากสิน และจะเดินมาอีกทางกลับมาที่สี่แยกบ้านแขก ไปตาม ถ.อิสรภาพ ล่อง ถ.ไปเรื่อย ผ่านวัดชิโนรส ไปจนถึงพรานนก ที่สี่แยกพรานนก เราจะเลี้ยวขวามุ่งหน้ามายัง รพ.ศิริราช มาแยกอรุณอัมรินทร์ จนมาถึงเชิงสะพานปิ่นเกล้า แล้วจะข้ามสะพานปิ่นเกล้ากลับมาที่ ถ.ราชดำเนิน โดยจะเป็นการเดินขบวนนัดสำคัญ เชิญชวนชาวฝั่งธนบุรีให้มาร่วมปิดกรุงเทพฯ ขับไล่ระบอบทักษิณให้พ้นแผ่นดินไทย ในวันที่ 13 ม.ค."

ลดเป้าหมาย 'ปิดกรุงเทพฯ' 20 จุด เหลือตั้งเวที 7 จุด ศูนย์กลางอยู่ที่แยกปทุมวัน

ส่วนจุดที่จะปิดถนนในวันที่ 13 ม.ค. ตามที่เคยประกาศไว้ 20 จุดนั้น ล่าสุดสุเทพได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เหลือการตั้งเวที 7 แห่ง และจะยุบเวทีที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยประกาศพื้นที่ 7 แห่งนี้ประกอบด้วย จุดที่ 1. ถ.แจ้งวัฒนะ แกนนำคือ กปปส.นนทบุรี ราชบุรี นครปฐม มี กปปส.นนทบุรี เป็นผู้ประสานงาน "จะปิดถนนแจ้งวัฒนะเพื่อไม่ให้ข้าราชการในศูนย์ราชการทำงานได้" มีราเชนทร์ ตระกูลเวียง กรรมการ กปปส. และหลวงพ่อพุทธะอิสระอยู่ที่นั่น จุดที่ 2. ห้าแยกลาดพร้าว มีพี่น้องมวลมหาประชาชนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาสมทบ มีผู้ชุมนุมจำนวนมากมาสมทบ มีอิสระ สมชัยเป็นแกนนำ จุดที่ 3. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ "ตรงนี้ คราวที่แล้วคนแน่นมาก คราวนี้ก็คาดว่าจะมีมวลมหาประชาชนไปรวมตัวจำนวนมาก มีถาวร เสนเนียม เป็นผู้ประสานงานเวที"

จุดที่ 4. แยกปทุมวัน "กำลังของมวลมหาประชาชนหลักคือพี่น้องชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และก็จะมีคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็นผู้จัดการเวทีร่วมกับคณาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะใช้เวทีแยกปทุมวัน เป็นเวทีถ่ายทอดสดทางบลูสกาย เฉพาะเวทีปทุมวันจะดำเนินรายการตลอด 24 ชั่วโมง เหมือนเวทีราชดำเนินทุกวัน"

จุดที่ 5. เวทีลุมพินี ที่ตัดกับ ถ.สีลม "จะมีมวลมหาประชาชนสีลมเป็นหลัก และมีคุณวิทยา แก้วภราดัย" ย้อนขึ้นมาจุดที่ 6 แยกราชประสงค์ ชุมพล จุลใส หรือลูกหมี และเสรี วงศ์มณฑา เวทีนี้จะคึกครื้นมากที่สุด" ถัดไปทางตะวันออก จุดที่ 7 เวทีอโศก จะมีชุมชนชาวอโศก ชาว จ.ตราด ระยอง ชลบุรีมาสมทบ นอกจากนี้สุเทพระบุว่าจะมีณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และสกลธี ภัททิยกุล บุตรชายเลขาธิการ คมช. เป็นแกนนำ

จะเดินขบวน-ปิดล้อมสถานที่ราชการทุกวัน กลางคืนกลับที่ตั้งป้องกันการซุ่มโจมตี

สุเทพกล่าวด้วยว่า "ผม และกรรมการ กปปส. ก็จะตระเวนไปทุกเวที หมุนเวียนไปพบกับมวลมหาประชาชน ทุกเวที และทุกเวทีก็มีกิจกรรมเหมือนกันทุุกวัน คือเช้ามืดยกขบวนไปปิดล้อมกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ไม่ให้ทำงานได้ ไม่ให้เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป ไปแต่เช้ามืด และกลับค่ำ ที่ทำอย่างนี้เพราะไม่ต้องการไปนอนอยู่ที่กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ป้องกันไม่ให้พวกคนร้าย ซึ่งไม่รู้ข้างไหนจริงหรือปลอม ไม่รู้ตำรวจปลอมเป็นคนร้าย หรือคนร้ายปลอมเป็นตำรวจ"

"เราเคยเจอประสบการณ์ตอนที่อยู่กระทรวงคลังมาแล้ว เพราะฉะนั้นเราใช้วิธีไปเช้าเย็นกลับ อย่างนี้ทำงานไม่ได้เหมือนกัน และเราไม่นอนเฝ้ากระทรวงให้เขา เพราะเขาไม่จ่ายให้เราอยู่แล้ว สำหรับผมเองจะชวนพี่น้องประชาชนเดินขบวนทั่วกรุงเทพฯ ทุกวัน เชิญพี่น้องประชาชนร่วมปิดกรุงเทพฯ กับพวกเรา มาเลยทุกสาย"

"เพราะฉะนั้นปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯ คราวนี้ คึกคักแน่นอน ฝ่ายรัฐบาลพอรู้ข่าวเรื่องนี้ก็สุมหัวกันใหญ่ คิดขัดขวางมวลมหาประชาชนเรา คิดที่จะสลายพลังของมวลมหาประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ นานา รายงานข่าวว่า ยิ่งลักษณ์สั่งเลยให้ฝ่ายรัฐบาลต้องเดินเกมรุกมากกว่าเดิม ให้เราปฏิบัติการไม่ได้ ทำงานไม่สำเร็จ ผมบอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าเชิญเลย มีฤทธิ์ มีแรงเท่าไหร่ใส่มาให้หมดเที่ยวนี้ เพราะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่พวกคุณจะได้ออกฤทธิ์ออกแรง แล้วจะได้รู้กันเสียทีว่าฤทธิ์แรงระบอบทักษิณ กับมวลมหาประชาชนฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน"

คนจุดเทียนค้าน กปปส. ถือว่าเป็นลูก นปช. โดยจะรอดูว่าออกมาเท่าไหร่

สุเทพกล่าวด้วยว่า ได้มีการสั่งให้ขึ้นป้ายในจังหวัดต่างๆ ต่อต้าน กปปส. และอ้างว่าในกรุงเทพฯ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จะให้ตั้งป้ายตั้งแต่พรุ่งนี้ เรียกร้องให้ออกมาต่อต้านมวลมหาประชาชนในครั้งนี้ และนัดหมายกันว่าในวันที่ 10 ม.ค. จะให้ตำรวจชวนคณะกรรมการตำรวจ ชวนครอบครัว ชวนประชาชนออกมาร่วมกันจุดเทียนต่อต้าน กปปส.

"ผมก็จะดูว่าจะออกมาสักเท่าไร แล้วยังบอกอีกว่าในป้ายที่จะออกมาตั้งแต่วันพรุ่งนี้นั้น จะเตือนพี่น้องประชาชนให้หยุด ไม่ให้ทำต่อ ให้เราเลิก เพราะถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ก็อยากจะเรียนว่าทั้งหมดพวกเขาคิดและพวกเขาทำทั้งสิ้น ตอนแรกๆ ก็ออกข่าวว่าจะมีประชาชนกรุงเทพฯ กลุ่มที่เห็นแตกต่างจะออกมาต่อต้านพวกเรา จะมาคัดค้านพวกเรา ที่จะปิดกรุงเทพฯ ว่าแล้วเอา นปช. ใส่เสื้อสีอื่นๆ แถลงข่าว แสดงตัว คนจำได้ว่านี่ลูกสาว เสธ.แดง นี่ลูก นปช. คราวนี้ตำรวจแสดงเองเป็นเจ้าภาพใหญ่ เชิญคนมาต่อต้านพวกเรา"

"ผมเลยโฆษณาให้เลยว่าใครรักคำรณวิทย์ ใครรักระบอบทักษิณ วันที่ 10 ม.ค.ออกมาให้มืดฟ้ามัวดินเลย จะได้รู้ว่ามีสักเท่าไร" สุเทพกล่าว และบอกว่าสงสารตำรวจโรงพักต่างๆ ที่จะติดป้ายทั่วกรุงเทพฯ ต้องออกสตางค์กันเอง

เผยมีคนคิดระยำทุกวัน วางแผนเผามาบุญครองแล้วป้ายสี กปปส.

สุเทพกล่าวด้วยว่า ที่มาบอกว่าจะเกิดเหตุรุนแรง ผมประกาศเลยว่าถ้าตำรวจไม่ทำไม่มีรุนแรง ถ้ารุนแรงก็พวกนี้ทั้งสิ้น และกล่าวว่า "ข่าวที่ได้มา พี่น้องตำรวจส่งมาให้ บอกมาเลยพยายามไปรวบรวมทีมสไนเปอร์ชุดนั้นชุดนี้ เตรียมไว้ที่จะให้มาจัดการผม แต่ว่า ยังไม่มีพี่น้องตำรวจรับทำงานนี้ให้ ไม่รู้ว่าละความพยายามหรือยัง พยายามจะระดมกำลังตำรวจทั่วประเทศ กะจะให้ได้ 80,000 คนเอามาสลายการชุมนุม ผมบอกว่าถ้าตำรวจ 80,000 คน มาเจอมวลมหาประชาชน 8 ล้านคน จะทำอย่างไร"

"คือวันนี้ ตำรวจที่เป็นตำรวจเลวๆ มีอยู่ 3 คน อดุลย์ วรพงศ์ คำรณวิทย์ กำลังแข่งขันกันทำแผนประจบทักษิณ ต่างคนต่างเสนอแผนนี้ เพื่อแสดงว่าแต่ละคนเก่งกว่าคนอื่น ที่จะมาจัดการประชาชน ผมบอกเลยว่าใครคิดทำร้ายประชาชน คิดจัดการประชาชน มันสาระเลวทั้งนั้น ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ชั่วเหมือนกัน และขอให้พี่น้องข้าราชการตำรวจดีๆ ที่เป็นตำรวจอาชีพ มีอุดมการณ์ อย่าเป็นเครื่องมือตำรวจเลวๆ 3 คนนี้ มาอยู่ข้างประชาชนเถิด"

"แล้วที่เตรียมการไว้ มีไอ้ตู่จตุพร ไอ้ณัฐวุฒิ คุณธิดา แกนนำ นปช. ทั้งหลาย สุมหัวกัน จะเอาตำรวจปลอมปนเข้ามาในตำรวจจริง เพื่อที่จะก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย แล้วป้ายสีใส่พวกเรา บังอาจเหิมเกริมว่าให้คนของมันใส่เสื้อสีธรรมดา ถ้าบางคนใส่สีชมพูได้ให้ใส่สีชมพูไปเลย แล้วไปร่วมชุมนุมปะปนที่ปทุมวัน เมื่อได้อาณัติสัญญาณให้เผาศูนย์การค้ามาบุญครอง โธ่ไอ้พวกระยำ มึงระยำจริงๆ คิดระยำได้ทุกวัน นึกว่าคนจะไม่รู้หรือ แค่พวกมึงปรึกษากันก็มีคนมาบอกเราแล้ว"

ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นคือฝีมือระบอบทักษิณ ส่วน กปปส. จะเคลื่อนไหวเปิดเผย

"เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนครับ สังเกตคนที่มาร่วมชุมนุมให้ดี พฤติกรรมเป็นอย่างไร และยืนยันว่าเราไม่ใช่ณัฐวุฒิ อริสมันต์ ไม่ใช่ทักษิณ ที่คบคิดกันเผาบ้านเผาเมือง เราไม่เผาอะไรทั้งสิ้น ใครจะอ้างมวลชนของเราไปเผาอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่พลเมืองดีของเรา ประชาชนพวกเราเป็นคนดี ไม่ตั้งใจทำลายอะไรทั้งสิ้น ยืนหยัดต่อสู้ด้วยสันติวิธี อหิงสา ไม่รุนแรง สำคัญว่าพี่น้องทั้งหลายที่ไม่ได้มานั่งชุมนุมกับเรา ดูทีวีที่บ้าน เกิดเห็นเหตุการณ์ตึงเครียด มีพวกชวนตามสื่อออนไลน์ อย่าไปร่วมกับเขาเด็ดขาด ให้มาเวทีเราเท่านั้น อย่าไปตามใคร พี่น้องประชาชน ต้องการมาร่วมกับพวกเรา เลือกได้ทุกเวที ตั้งแต่แจ้งวัฒนะ ห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ลุมพินี ปทุมวัน ราชประสงค์ อโศก เวลาเราไปไหนเราก็จะประกาศอย่างเปิดเผยชัดเจน เช่นว่าจะไปปิดกระทรวงการคลังอีกแล้ว ใครไปบ้างมาด้วยกัน ชัดเจน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเราก็จะปิดอีกคราวนี้ ดูสิว่าอดุลย์ แสงสิงแก้วมันจะว่าอย่างไร"

"เราจะไปแบบเปิดเผย ไปปิด ไปกันอย่างอึกทึกครึกโครม เดินร้องเพลงให้ลั่นกรุงเทพฯ ว่าจะไปปิดแล้ว ไม่มีแบบไปแอบๆ ทำ ไม่มีที่จะแต่งชุดดำ คลุมหัวเป็นไอ้โม่ง ปิดบังใบหน้า ไม่มี เราเปิดหน้าแล้ว เปิดหน้าชกแล้ว แสดงตัวทั้งหญิงและชาย ไม่กลัวพวกมึงทั้งนั้น กูเปิดเผยแน่นอน พวกที่มาทำ ไม่ใช่มือที่สาม ไม่ใช่มือที่สี่ มือเดียวคือของระบอบทักษิณ มือสมุนบริวารยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่มืออื่น บอกพี่น้องไว้ ไม่ต้องมาอ้างมือที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ไม่มีหรอก มีมึงที่กูรู้แล้ว"

อัดรัฐบาลมีแผนใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าปราบจริงจะนั่งสวดมนต์-แผ่ส่วนกุศล

สุเทพกล่าวด้วยว่า ตามที่อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที แถลงว่าผู้ชุมนุมเป็นพวกเสพยาเสพติด ผมก็ท้าไปแล้วว่าถ้ามาแล้วเจอใครติดยา ก็กราบเลย แต่ผมก็ต้องขอโทษ เมื่อคืนพบแล้วคนติดยาเสพติด ติดยาไอซ์ และพกปืนมาด้วย มาอยู่ในที่ชุมนุมของเรา การ์ดค้นตัวได้กลายเป็นตำรวจ ส่งตำรวจปะปนมาพกอาวุธมียาเสพติดมาเป็นห่อเลย พวกเราเลยส่ง สน.สำราญราษฎร์ เช้านี้คลุมหน้าแถลงว่าปลดตำรวจนั้นออกจากราชการไว้ก่อน

เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนเราต้องคอยสังเกตให้ดี ใครก็แล้วแต่พกอาวุธเข้ามาในที่ชุมนุมของเราจับทั้งนั้น เพราะเราคนดีไม่มีอาวุธ มันเห็นกิเลสความชั่วร้ายของฝ่ายรัฐบาล คิดเรื่องชั่วๆทั้งนั้น ไม่มีคิดอะไรดีๆขึ้นมาได้ พยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงจะได้เอาเป็นเหตุประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และระดมกำลังมาใช้อาวุธกับพวกเรา เราซักซ้อมกันก่อนถ้าเมื่อไรก็ตามยกกำลังมา ทุกเวที ให้เรานั่งอยู่กับที่ให้สวดมนต์พร้อมๆ กัน โดยจะให้เจ้าหน้าที่พิมพ์บทสวดมนต์แจก แผ่ส่วนกุศลให้มัน เราจะสู้แบบสันติ สงบ อหิงสา แล้วมันจะรุนแรงได้อย่างไร

สุเทพกล่าวด้วยว่า ที่รุนแรงเพราะพวกมันทั้งนั้น ยิงตรงนั้น ตรงนี้ ส่งคนพวกอาวุธ ยาเสพติดปะปนมาในพวกเรา พวกมันทั้งนั้น และเราก็จะไม่บรรลุโทสะไม่ทำร้ายจับส่งให้ตำรวจไปสอบสวนกันเอง แล้วเราค่อยไปตามผล และเราก็อยู่แน่นอย่างนี้เสมอทุกเวที มันจะลุยมาก็นั่งสวดมนต์ของเรา จะจับไปก็เอาไปให้หมด ไปเตรียมที่ขังไว้ก็แล้วกัน จับไปหมดนี่ที่เหลือทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดก็จะออกมาอีกไม่รู้อีกกี่เท่า เราต้องเอาอย่างนี้ เพราะพวกนี้มันดิ้นกันเต็มที่แล้ว พยายามสร้างสถานการณ์ จะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทหารเขาก็ไม่เอาด้วย เขาปฏิเสธหมด นี่ต้องขอบคุณพี่น้องทหาร

ลั่นการยึดราชประสงค์ของ กปปส. จะต่างจาก นปช. เพราะมีสตางค์ซื้อและค้าขายได้เหมือนเดิม

สุเทพกล่าวด้วยว่าจะนำคลิปเหตุการณ์ปี 2552 และ 2553 มาฉายให้ผู้ชุมนุมชม เพื่อให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกรุงเทพมหานครด้วย ทั้งนี้สุเทพเล่าด้วยว่าในปี 2552 เกิดเหตุร้ายขึ้นจึงต้องไปกระทรวงมหาดไทยเพื่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลถูกล้อมไว้หมด แต่คนเสื้อแดงก็บุกไปในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งวันนี้รอดเนื่องจากเขาและอภิสิทธ์ นั่งรถกันกระสุน ที่ทักษิณซื้อเอาไว้ ได้ขับชนประตูออกไปรอดมาได้ แต่เลขาฯ นายกรัฐมนตรี นิพนธ์ พร้อมพันธ์หนีไม่ทัน ถูกทำร้ายหามกระร่องกระแร่ง และหลังเหตุการณ์ก็มีการตัดต่อคลิปเสียงอภิสิทธิ์กล่าวหาว่าสั่งการสลายการชุมนุม

ส่วนในปี 2553 ทันทีที่ศาลพิพากษายึดทรัพย์ทักษิณ ผู้ชุมนุม นปช. ก็มาชุมนุมวันที่ 12 มี.ค. เนื่องจากนายถูกยึดทรัพย์ แต่ปากอ้างเพื่อประชาธิปไตย วันนั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการ ไม่ได้ทำอะไรผิดเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ก็เอามาเป็นข้ออ้าง สร้างวาทะกรรม "อำมาตย์-ไพร่" แต่ นปช. มีการเอาอาวุธสงครามมาด้วย ขณะที่กำลังชุมนุมกันที่สะพานผ่านฟ้า ก็ส่งคนร้ายออกไปยิง เอ็ม-79 ใส่สถานที่ราชการ วัดพระแก้ว ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ค่ายทหารก็ยิงใส่

สุเทพกล่าวด้วยว่า การยึดแยกราชประสงค์ของ นปช. แตกต่างจาก กปปส. เพราะเวลา นปช. ไปยึดพ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนเพราะโจรมันยึด การค้าขายเจ๊งหมด แต่ที่ กปปส. จะไปยึดวันที่ 13 ม.ค. นี้ให้ค้าขายได้เหมือนเดิม คนมีสตางค์มาซื้อด้วย

"และบอกเลยไม่มีพังร้านใคร ไม่เผาห้าง ไม่เหมือนพวกมันที่เผาวินาศสันตะโรหมด ไม่เผาเปล่าก่อนเผา วิ่งไปเอาของเค้าเพราะไอ้ณัฐวุฒิมันสั่งว่าตกใจให้วิ่งเข้าไปเอาของแพงๆ ผมจะเอาภาพมาให้ดูว่าคนชั่วกับคนดีมันต่างกันเยอะ แต่เป็นกรรมของประเทศไทย คนชั่วมันซื้อเสียง แล้วเอาโจรไปเป็นรัฐมนตรี คนที่ทำร้ายประเทศไทย ทำร้ายคนกรุงเทพ"

ทั้งนี้คนเหล่านี้วันนี้ไปอยู่ข้างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทุกคน ถึงได้สุมหัวกันคิดเรื่องชั่วได้ทุกวัน สุเทพกล่าวหาด้วยว่า "ทั้งนี้ขนาดมีการฆ่ามีการเผา ไฟไหม้กันเห็นๆ แต่พอเลือกตั้งมันก็ชนะ เพราะมันซื้อเอา มันโกงเอา วันนี้มันไม่ต้องใช้วิธีการยึดอำนาจด้วยกำลังอาวุธแล้ว ยึดอำนาจด้วยสตางค์ได้ง่ายกว่า อ้างหลอกชาวโลกว่านี่เป็นประชาธิปไตย" สุเทพกล่าวตอนหนึ่ง