Skip to main content
sharethis

คุยกับเสียงเล็กๆ ในกิจกรรม "จุดเทียนสันติภาพ เพื่อหยุดเงื่อนไขสู่ความรุนแรงและรัฐประหาร" ที่เชียงใหม่ โดยในงานมีการปล่อยลูกโป่งสันติภาพ การเขียนไปรษณียบัตรส่งไปยัง กกต. เพื่อเรียกร้องให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ด้วย

เมื่อช่วงเย็นถึงหัวค่ำวันนี้ (11 มกราคม 2557) ที่ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ มีกิจกรรม "จุดเทียนสันติภาพ เพื่อหยุดเงื่อนไขสู่ความรุนแรงและรัฐประหาร" ซึ่งประกอบด้วยการปล่อยลูกโป่งสันติภาพ การเขียนไปรษณียบัตรส่งไปยังกกต. เพื่อเรียกร้องให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ และการจัดขบวนจุดเทียนแปรรูปเป็นเครื่องหมายสันติภาพ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน ด้วยเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ที่เกิดบรรยากาศอันงดงามอบอุ่นช่วงสั้นๆ เสียงของคนกลุ่มหนึ่งเริ่มดังขึ้นแผ่กระจายไปทั่ว แต่เสียงเล็กๆ ในของผู้มาร่วมงานก็เป็นส่วนสำคัญที่พอจะสะท้อนภาพบางอย่างที่สมควรจะถูกได้ยินบ้าง เราจึงขอชวนคุยกับเขาเหล่านี้ในขณะที่กิจกรรมกำลังดำเนินไป

ภาพจากเฟซบุคของ Pipob Udomittipong

----------------

สุนีย์ จินตนะดิลกกุล แม่บ้าน อายุ 50 ปี

แนวคิดทางการเมือง : ไม่ใช่เสื้อแดง

รู้ข่าวจาก : ประชาไท

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : ไม่ชอบความรุนแรง อยากให้มีการเลือกตั้ง และต้องการไปใช้สิทธิ์

หวังผลอะไรบ้าง : ไม่แน่ใจว่ามาทำกิจกรรมอย่างนี้แล้วจะช่วยหยุดความรุนแรงได้หรือไม่ แต่ว่าทำให้เราได้แสดงออก เพราะจะไปทำกิจกรรมอื่นที่กรุงเทพคงไม่สะดวก ถ้าเราจัดกันเองได้ ก็จะทำให้คนที่เห็นด้วยกับเราออกมา เราก็จะได้รู้ว่าแนวร่วมของเรามีมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำกันเยอะทั่วประเทศคิดว่าจะได้ผล

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : พยายามให้ข่าวสารที่เป็นจริง พยายามให้เขาได้ข้อมูลที่รอบด้าน อย่าเชื่ออยู่ด้านเดียว และเราเองก็ไม่เชื่อว่าสิ่งที่เราฟังอยู่ด้านเดียวมันจะถูกต้อง ต้องเช็คแล้วเช็คอีกหลายๆ ทาง สื่อแบ่งขั้วกันชัดมาก เราค่อนข้างจะเหนื่อยเหมือนกัน เพราะว่าคนที่เชื่ออะไรอยู่แล้วจะไปเปลี่ยนความคิดเขานั้นค่อนข้างยาก

----------------

วรัญรัตน์ แก้วคำสี อายุ 42 ปี ค้าขาย

แนวคิดทางการเมือง : เสื้อแดง

รู้ข่าวจาก : อินเตอร์เนต

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : วันนี้มาอย่างไม่มีสี วันนี้มาเพราะอยากเลือกตั้ง

หวังผลอะไรบ้าง : ก็มีหวัง เพราะว่าถ้าเราไม่เรียกร้องหรือไม่ทำอะไรเลย เขาก็จะไม่เห็นว่าประชาชนคิดอย่างไร อยากให้สื่อมวลชนเป็นกลางบ้าง ทุกวันนี้ดูแล้วบอกไม่ถูก

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : เมื่อวานนี้มากินข้าวรอเลือกตั้งที่นี่ เป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่ง ลาบอร่อย เราไม่เคยเห็น ตอนแรกก็งง คิดว่าเขาจะเข้าข้างฝั่งที่ไม่เอาเลือกตั้ง เราเป็นประชาชนเล็กๆ ไม่มีการศึกษา กว่าจะเข้าใจก็โอ้โห

----------------

จารุวิทย์ คงนคร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อายุ 21 ปี

แนวคิดทางการเมือง : ไม่เรียกตัวเองว่าเสื้อแดง นิยามตัวเองว่าหัวก้าวหน้า

รู้ข่าวจาก : เฟซบุค

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : ต้องการแสดงออกว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการเลือกตั้ง ต้องการใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตัวเอง ที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์มีเสียง แต่ทำไมคนกลุ่มหนึ่งถึงมากีดกันการเลือกตั้ง

หวังผลอะไรบ้าง : คิดว่าอย่างน้อยก็เป็นการแสดงออกเชิงสัญญะว่าทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน คนจะออกมาเลือกตั้งก็เป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนจะได้ผลไหมนี่ยังไม่แน่ใจ

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : คงจะเป็นการใช้สื่อของตัวเอง อาจจะจัดเสวนาวิชาการเผยแพร่ว่าเราไม่ต้องการความรุนแรง ไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลาย

----------------

สุริยา แสนแก้วฝั้น (เยล) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อายุ 23 ปี

แนวคิดทางการเมือง : ไม่นิยามตัวเองเป็นเสื้อแดง แต่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่มีการนองเลือด ไม่มีรัฐประหาร อยู่ในกติกาประชาธิปไตย

รู้ข่าวจาก : การประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัย

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะบอกหรือให้สติกับสังคมว่า เราไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงหรือการนำไปสู่ความรุนแรงของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายต่อต้าน อยากเห็นสันติภาพในประเทศไทยโดยเร็ว

หวังผลอะไรบ้าง : อย่างน้อยได้เตือนสติหลายๆ คนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มาทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่ผู้ชุมนุมหรือฝ่ายรัฐบาลเองทำไป มีคนจำนวนมากไม่เห็นด้วย ในการใช้ความรุนแรงเข้าประหัตประหารกัน

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : เราต้องช่วยกันรณรงค์ให้ถึงที่สุด ไม่ใช่เฉพาะจุดเทียนวันนี้แล้วจบ เราต้องมีกิจกรรมอย่างเช่นเดินรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนที่มีความเห็นที่แตกต่างกัน ให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่ทำไปไม่เกิดอะไรนอกจากการล้มตายของพ่อแม่พี่น้องประชาชนไทยด้วยกัน ทำได้หลายวิธี เช่น สวดมนต์ ผมเชื่อว่าเราต้องใช้ศาสนาเข้ามาเชื่อมโยงระหว่างความคิดที่แตกต่างของกันและกัน ยิ่งเราเป็นเมืองพุทธ เราต้องใช้ศาสนาบอกให้สังคมไทยเรียนรู้ มีสติและเกิดปัญญา แล้วความสงบร่มเย็น ความเป็นสุขก็จะบังเกิดขึ้น ผมเชื่อแบบนั้น

 

----------------

เมวิกา นวลสม อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่

แนวคิดทางการเมือง : ไม่มีสีเสื้อ

รู้ข่าวจาก : เว็บเพจต่างๆ

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : อยากเลือกตั้ง อยากให้มีสิ่งที่ถูกต้องตามกฎระเบียบแล้วก็ระบอบของประเทศเรา

หวังผลอะไรบ้าง : อาจจะมีผลในส่วนหนึ่ง อาจไม่เยอะ แต่ก็ทำให้เราได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า คนไทยส่วนหนึ่งต้องการเลือกตั้ง ไม่อยากให้นอกระบบประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยอมรับกัน

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : ทำเหมือนปกติ รณรงค์การเลือกตั้งเหมือนที่เคยทำกันมาอยู่แล้ว ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งมากขึ้นให้สอดคล้อง การเลือกตั้งคือเรื่องจริง มันคือสิทธิของเราตามระบอบ ตามหน้าที่ของเรา อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องไปเลือกตั้ง

 

----------------

ณัตชา อนันตา ช่างภาพ อายุ 37 ปี

แนวคิดทางการเมือง : ไม่มีสีเสื้อ แต่รักประชาธิปไตย รักในสิทธิและเสรีภาพ อยากให้อยู่บนความถูกต้อง

รู้ข่าวจาก : เฟซบุค สปป.

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : รู้สึกว่าต้องหาหนทางที่เราจะแสดงออกให้คนอื่นรู้ว่ายังมีคนอีกเยอะที่ไม่ได้เห็นด้วยกับทางนั้น อยากมาปกป้องสิทธิตัวเอง ถ้าเราไม่ทำวันนี้เราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำอีกไหม

หวังผลอะไรบ้าง : อย่างน้อยคงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่อาจจะกระตุกความคิดของคนบางส่วนที่ยังอยู่เฉยๆ คิดว่าคงมีอีกเยอะที่เขาไม่เห็นด้วยและไม่ได้อยู่สีไหน แต่ต้องการความถูกต้อง อยากเห็นสันติภาพ อยากจะกระตุกให้คนเหล่านั้นออกมาเหมือนกัน

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : เพื่อนๆ ส่วนมาก 95 เปอร์เซ็นต์จะเห็นทางนู้นเขาดีหมดเลย แต่ว่าเราคิดว่าการมาเริ่มรณรงค์อย่างนี้ก็อาจจะเป็นเทียนเล่มแรก แล้วก็จะต่อเป็นแสงเทียนไปให้กับคนหลายๆ คนที่เขายังไม่กล้า อยากจะให้เขาหันมามองข้อมูลทางนี้บ้าง คิดว่าการเผยแพร่ของสปป. หรือว่าที่พวกเราพยายามทำ ถึงจะยังไม่ได้เยอะอะไร แต่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การแก้ปัญหาคงต้องเริ่มจากการให้ความรู้ ถ้าคนเรามีความรู้ มีจริยธรรม มีคุณภาพมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้เขาไม่จำเป็นจะต้องไปอยู่สีเสื้ออะไร เริ่มจากตัวเรา แล้วก็เริ่มบอกให้เพื่อนๆ รู้ การให้ความรู้คนเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

----------------

ชินดนัย แปงพิศ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

แนวคิดทางการเมือง : ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง ไม่เห็นด้วยกับเผด็จการ ไม่มีสีเสื้อ

รู้ข่าวจาก : เพื่อน

มาร่วมกิจกรรมเพราะ : ไม่อยากเห็นสงครามกลางเมืองที่จะเกิดขึ้นถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่หยุด เพื่อสันติภาพครับผม

หวังผลอะไรบ้าง : อยากน้อยเสียงเล็กๆ ก็กระเพื่อมได้ น่าจะได้ผล การปล่อยลูกโป่งคนทั่วไปน่าจะได้เห็นกัน น่าจะเอะใจว่ามาทำอะไรกัน อ๋อ สันติภาพ อะไรอย่างนี้

หยุดความรุนแรงทำอะไรได้อีก : เดินขบวนรณรงค์ แบบศศิน (เฉลิมลาภ) ไอด้อลของผม จากเชียงใหม่ไปที่ไหนก็ว่าไป ส่วนคาดหวังว่า.. ก็เฉยๆ นะครับ ถ้าไม่มีรัฐประหารก็ไม่เป็นไร

 

----------------

ปณิธาน พุ่มบ้านยาง อายุ 24 ปี สมาชิกกลุ่มวันใหม่ หนึ่งในทีมผู้ร่วมจัดกิจกรรมวันนี้

“หลายคนได้เห็นปัญหาหลายๆ อย่าง มีความรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว จะต้องแสดงให้เห็นว่ากำลังจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น คุยกับหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษา นักวิชาการ อาจารย์ แล้วก็เริ่มจัดงานนี้เป็นกลุ่มเล็กๆ ค่อยๆ ดึงเครือข่ายต่างๆ เข้ามาได้ประมาณ 20 คน

“เราได้เห็นฟีดแบคจากกิจกรรมพอกันทีที่กรุงเทพ เราก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงพลัง ซึ่งตอนนี้กระจายไปทั่ว ถ้าจัดพร้อมๆ กันก็จะได้เห็นว่า มีหลายคนที่เขาไม่อยากเห็นความรุนแรง อยากให้ประเทศเราอยู่ในกติกา

“กิจกรรมที่ต้องการภาพสวยๆ ด้วยความที่เพิ่งจัดที่นี่ครั้งแรก เวลาจัดการกลุ่มก็อาจจะยากหน่อย แต่ก็ค่อยๆ แก้ไขกันไป คิดเผื่อเรื่องว่าจะมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็คุยๆ กัน มีการวางคนกระจายไปอยู่แต่ละตำแหน่ง นอกจากจะนั้นยังจัดทีมให้ดูฟีดแบค ดูอารมณ์ของผู้เข้าร่วมด้วย ปัญหาหลักๆ คือเรื่องการคุมเวลา เพราะคนมาเยอะ ตอนแรกไม่คิดว่าคนจะเยอะ แต่คนที่มาร่วมก็ให้ความร่วมมือกันดี มีการแลกเปลี่ยนกัน ติชมกัน ก็จะเก็บไว้พัฒนาในครั้งต่อไป”.

 

ภาพจากเฟซบุค Noppon Archamas

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net