เพจ สปป. แพร่คำชี้แจงหลัง ผบ.ทบ.สั่งเอาผิด 'สปป.ล้านนา' ยืนยัน สปป.ล้านนา ชื่อเต็มคือ 'สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา' สนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ไม่มีแนวทางแบ่งแยกประเทศ พร้อมแนะการข่าวกองทัพต้องรอบด้าน และผู้มีอำนาจกลุ่มต่างๆ ต้องตั้งคำถามและตอบคำถามด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศแตกแยกมากไปกว่านี้

3 มี.ค. 2557 - ตามที่มีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ คาดผ้าขาวที่ศีรษะเขียนข้อความ "สปป.ล้านนา" เพื่อมารอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และมีสื่อบางฉบับรายงานว่าหมายถึง "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลานนา" นั้น ผู้สื่อข่าวตรวจสอบแล้วเป็นกลุ่มชาวบ้านใน จ.เชียงใหม่ - ลำพูน ที่ตั้งกลุ่ม "สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา" เพื่อให้กำลังใจนักวิชาการกลุ่ม "สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย" หรือ สปป. ในส่วนกลาง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) แต่ในเวลาต่อมายังคงมีการนำข่าวดังกล่าวไปปราศรัยโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. กล่าวหาว่ากลุ่มดังกล่าวต้องการแยกประเทศ และสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เตือนว่า "สงสัยเวที กปปส. จะ "เงิบ" นะฮับ" นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ผบ.ทบ.กำชับแม่ทัพภาค 3 ดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มที่ต้องการแยกประเทศ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มี.ค. สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้พบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนบางกลุ่มในพื้นที่ภาคเหนือ มีการแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการแสดงออกในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมายไม่สร้างสรรค์ และไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 ดำเนินการทางกฏหมายแล้ว จึงขอให้ประชาชนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมใดๆ เพราะในบางลักษณะเป็นการทำผิดกฎหมายร้ายแรง ซึ่งการแสดงออกถึงความแตกต่างทางความคิดเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้ภายใต้กรอบ แต่การแสดงออกถึงความต้องการจะแบ่งแยกประเทศถือว่าอยู่นอกกรอบ คงไม่สามารถกระทำได้

ส่วนกรณีที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ปลุกระดมและประกาศออกรายการทางวิทยุ มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เป็นการแสดงออกถึงความกร้าวร้าว นั้น ทางกองทัพบกจะเร่งตรวจสอบและพิจารณาดำเนินการให้ถึงที่สุด รวมถึงจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งติดตามความคืบหน้ากรณีอาจเป็นผู้ต้องสงสัยความผิดในคดีอื่นๆ ด้วย

คำชี้แจง สปป.ล้านนา คือสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา หนุนเลือกตั้ง 2 ก.พ. ไม่มีของแถม

ล่าสุดเพจ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย หรือ สปป. ได้เผยแพร่คำชี้แจง "คำชี้แจงสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยต่อผู้บัญชาการทหารบก กรณี กลุ่ม สปป. ล้านนา หรือสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา" โดยมีรายละเอียดดังนี้

"คำชี้แจงสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยต่อผู้บัญชาการทหารบก
กรณีกลุ่มสปป. ล้านนา หรือสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา

จากกรณีที่มีข่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้พลโท ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ดำเนินการตามกฎหมายเอาผิดกับกลุ่ม สปป.ล้านนา เพราะเข้าใจว่า สปป.ล้านนาเป็นชื่อย่อของ “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา และจึงเท่ากับมีพฤติกรรมต้องการแบ่งแยกประเทศนั้น สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ขอชี้แจงดังต่อไปนี้

• ชื่อเต็มของ สปป.ล้านนาคือ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนแนวทางของสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย นั่นคือ สนับสนุนให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่มีนโยบายแบ่งแยกดินแดนใด ๆ ทั้งสิ้น โดยท่านสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จากข่าวตามลิงค์นี้ (1) และ (2)

อนึ่ง สปป.เห็นว่าระบบการข่าวของกองทัพบกควรตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ให้รอบด้านมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อข่าวนั้นมาจากสื่อที่มีพฤติกรรมบิดเบือนข้อมูลเป็นนิจศีล

• เป็นความจริงที่ว่าในปัจจุบันเริ่มปรากฏความเห็นของประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ต้องการแยกออกจากกรุงเทพฯและภาคใต้ และแม้ว่า สปป.จะเห็นว่าความคิดเห็นดังกล่าวยากที่จะเป็นจริงได้ และไม่ใช่วิถีทางที่จะช่วยแก้ไขวิกฤติการณ์ของสังคมไทยได้ก็ตาม แต่ สปป. เห็นว่าทัศนะดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อย เพราะมันสะท้อนความรู้สึกคับแค้นใจของประชาชนจำนวนมากต่อความอยุติธรรมทางการเมืองที่ดำเนินต่อเนื่องมานับตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 เป็นความอยุติธรรมที่เกิดจากการไม่เคารพในสิทธิทางการเมืองอันเท่าเทียมกันของประชาชน การทำลายระบอบประชาธิปไตย นิติรัฐ นิติธรรมโดยกลุ่มผู้มีอำนาจตามอำเภอใจ

ฉะนั้น สปป.เห็นว่าแทนที่จะมุ่งเอาผิดทางกฎหมายต่อประชาชนธรรมดา ผู้มีอำนาจและกลุ่มการเมืองต่างๆ พึงพิจารณาปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ด้วยการตั้งคำถามว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดความรู้สึกดังกล่าว สปป.เห็นว่ามีแต่การตั้งคำถามและตอบคำถามนี้ด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศไทยแตกแยกมากไปกว่าที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย"