Skip to main content
sharethis

นายกรัฐมนตรีให้ฝ่ายกฎหมายยื่น ป.ป.ช. คัดค้าน "วิชา มหาคุณ" เป็นคณะกรรมการสอบจำนำข้าว และขอเพิ่มพยาน 4 ปาก ขณะที่ ป.ป.ช. เตรียมเรียกเอกชนสอบเพิ่มอีก 89 ราย

วิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. (ที่มา: วิกิพีเดีย)

8 เม.ย. 2557 - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานวันนี้ (8 เม.ย.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้มอบให้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาใน 2 เรื่อง คือการขอคัดค้านนายวิชา มหาคุณ ในการเป็นคณะกรรมการพิจารณากรณีที่ถูกกล่าวหาปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นการยื่นครั้งที่ 3

นอกจากนี้ขอให้พิจารณาสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายพิชัย จุนหวัชระ ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าข้าวในตลาดข้าว เนื่องจากเป็นผู้ดูแลอยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติ และให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเพื่อขอดูข้อมูลในการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกตคดีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคดีที่ที่ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว และคณะรัฐมนตรี ปฏิบัติตามคำตัดสินแล้วเหตุใดศาลรัฐธรรมนูญยังรับพิจารณาว่าเป็นการกระทำให้สิ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่อีกทั้งขณะนี้คณะรัฐมนตรี มีการยุบสภาถือว่าสิ้นสภาพแล้ว ทั้งนี้ หวังว่าองค์กรอิสระที่มีหน้าที่พิจารณาจะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีของตนเองเช่นเดียวกับการพิจารณาคดีของผู้ดำรงตำแหน่งอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นบรรทัดฐานกับสังคม

ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส ประกาศตั้งรัฏฐาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากการประกาศนั้นอยู่ภายใต้กฏหมายคงไม่มีคำถามเกิดขึ้น พร้อมย้ำว่าขณะนี้จะต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศ และต้องใช้แนวทางการพูดคุยเพื่อให้เกิดความสันติ ขณะที่บทบาทผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ก็เชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกจะมีจุดยืนเป็นของตนเอง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงต้องมีแนวทางปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ส่วนการดูแลความเรียบร้อยพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้มอบให้กองทัพบกดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งต้องมีการประสานงานกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้ สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาในคดีรับจำนำข้าว เพิ่มอีก 89 ราย ตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหา นายบุญทรง เตยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวเสนอ และให้คณะอนุกรรมการฯ แจ้งคำสั่ง ไต่สวนให้ทราบต่อไปโดยเร็ว

นายสรรเสริญ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ไต่สวนพบว่า มีบุคคลซึ่งมิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 89 ราย ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในเรื่องที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง กล่าวคือเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องอันเป็นเหตุที่ทำให้มีการสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็ค เจ้าของบัญชีที่นำเงินไปซื้อแคชเชียร์เช็ค ซึ่งนำไปมอบให้กับกรมการค้าต่างประเทศ จึงได้เสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขยายการไต่สวนเพิ่มเติม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net