ครอบครัวแห่โลงศพประท้วงเรือนจำรัตนบุรี จ.สุรินทร์ ข้องใจเหตุลูกชายเสียชีวิตในคุก

ประธาน นปช.อำเภอรัตนบุรีนำญาติร่วม 100 คนแห่โลงศพประท้วงเรือนจำรัตนบุรี-พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าเร่งสั่งติดตามคดี หลังครอบครัวติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย อ้างถูกซ้อมในเรือนจำแต่เรือนจำกลับปิดบังไม่ยอมบอก

18 เม.ย. 2557 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หน้าศาลากลาง จ.สุรินทร์ นางคำนวน แสงสว่าง อายุ 62 ปี พร้อมด้วย พระสุวรรณ แสงสว่าง อายุ 63 ปี พระลูกวัดบ้านโนนสะเดา อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.11 บ.โนนสะเดา ต.หนองเทพ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้นำโลงศพบุตรชาย คือนายครรชิต แสงสว่าง อายุ 22 ปีขึ้น บรรทุกใส่รถตู้ของหน่วยกู้ชีพสลักได เดินทางมาพร้อมญาติพี่น้องและชาวบ้านด้วยรถกระบะอีกนับ 10 คัน รวม กว่า 100 คน มายังศาลากลาง จ.สุรินทร์ เพื่อแห่โลงศพประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับบุตรชาย พร้อมนำเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมใบผ่าชันสูตรของแพทย์ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี กรณีการเสียชีวิตที่แท้จริง ของบุตรชาย โดยทั้งหมดได้นำป้ายเขียนข้อความโจมตีและขอความตอบที่ชัดเจนจากเรือนจำรัตนบุรีต่างๆนาๆถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของนายครรชิต แสงสว่าง

นายประยงค์ สร้อยศรีหา ประธาน นปช.อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนขอร้องเรียนของความเป็น ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัพเดท และช่องทางสื่อของคนเสื้อแดง ตนเป็น นปช.รุ่นแรกนำพาพี่น้องมาร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เพราะขณะนี้เกิดความเป็นเป็นธรรมเกิดขึ้นกับประชาชน ซึ่งเขาเหล่านั้นยังไม่ถึงเวลาอันควรที่จะต้องถึงแก่ความตาย เมื่อมีคดีความได้ถูกจับติดคุกจองจำตามกฎหมายแล้ว พอกำลังจะได้ขึ้นศาลเพื่อพิพากษาคดี ที่เรือนจำรัตนบุรี ได้นำผู้ต้องหาไปคุมขัง มีการซ้อมจนตับแตกตาย วิงวอนของความเป็นธรรมถึงท่านณัฐวุฒิ ใส่เกื้อ และท่านจตุพร พรหมพันธุ์ ขอให้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา เพราะพี่น้องชาวรากหญ้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักไทยในอดีต ขอให้ท่าดูแลความเดือนร้อนของชาวบ้านและพี่น้องคนเสื้อแดงด้วย

นางดวงจันทร์ แสงทอง อายุ 41 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต อยู่บ้านเลขที่ 37 /3577 หมู่บ้านพฤกษา 13 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 เม.ย.57 ที่ผ่านมา นายครรชิต แสงสว่าง ผู้เสียชีวิตถูกคุมขังด้วยคดีตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด เนื่องจากตรวจพบปัสสาวะสีม่วง และถูกนำตัวออกจากเรือนจำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ก่อนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ อาคาร 4/3 โดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันเดียวกันครอบครัวและญาติพี่น้องพึ่งได้รับแจ้งจากเรือนจำรัตนบุรีว่า ผู้ตายถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยระบุว่าเกิดอาการลงแดง อยากยาเสพติด อย่างรุนแรง จากนั้นครอบครัวและญาติพี่น้องจึงเดินทางไปเยี่ยมผู้ตายที่โรงพยาบาลสุรินทร์ พอไปถึงผู้ตายพูดไม่ได้แต่ยังรู้สึกตัว และถามว่าเจ็บปวดตรงไหน ผู้ตายจึงชี้ให้ดูว่า เจ็บบริเวณท้อง และซี่โครง รวมทั้งที่คางและแก้ม พวกตนจึงถามหมอที่รักษา ก็บอกว่าเอ็กซเรย์สมองแล้วไม่เป็นอะไร ทั้งที่ผู้ตายไม่ปวดหัว บอกปวดท้องและที่อื่น ก็ไม่ยอมเอ็กเซรย์ดู และขอย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ก็ไม่ให้ย้ายอีก

จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.นายครรชิต จึงเสียชีวิตลง ญาติพี่น้องจึงติดใจ ต้องการให้แพทย์ผ่าพิสูจน์ สุดท้ายแพทย์จึงผ่าพิสูจน์และลงความเห็นเพื่อลงบันทึกในใบมรณะบัตรว่า ตับแตกเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตรงกันกับที่ผู้ตายเคยบอกกับพ่อและแม่ของผู้ตายขณะนำอาหารเข้าเยี่ยมลูกชายเมื่อวันที่ 31 มี.ค.โดยนายครรชิต ได้บอกกับพ่อแม่ขณะนั้นว่า ช่วยประกันตนเองออกไปที เพราะถูกซ้อม จนอ้วกเป็นเลือด แต่พ่อและแม่ของผู้ตายไม่ได้ถามว่าถูกใครซ้อม ประกอบกับเงินประกันตัวไม่มีต้องใช้เงินประกันตัวออกมาถึง 4.9 แสนบาท โดยที่มารดาเองก็รู้สึกสงสารและอยู่ระหว่างหาเงินประกันตัวแต่ลูกชายกลับต้องมาตายเสียก่อน

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุก็ไม่พบว่ามีการแสดงความรับผิดชอบจากเรือนจำ แม้แต่พวงหรีดสักอันก็ไม่มี มาทราบตอนหลังจากเรือนจำว่าได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วว่า สาเหตุของการตายเกิดจากการทะเลาะวิวาทย์ของผู้ตายกับผู้ต้องขังรายอื่น แต่ครอบครัวติดใจทำไมต้องปกปิดตั้งแต่แรก บอกว่านายครรชิตลงแดงอยากยา ทำไมต้องปิดบังแม้กระทั่งไปถึงโรงพยาบาลสุรินทร์ก็ไม่ยอมบอกจนเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้าที่ผู้ตายจะถูกส่งตัวมาคุมขังไว้ที่เรือนจำรัตนบุรี ก็ถูกคุมขังที่เรือนจำโคกตะบัล อ.เมือง จ.สุรินทร์ ถึง 21 วันแล้ว ก็ไม่เห็นมีอาการลงแดงอยากยา เป็นไปไม่ได้ที่นายครรชิตจะพึ่งมาลงแดงที่เรือนจำรัตนบุรี แถมหลังนายครรชิต เสียชีวิต จากการตรวจปัสสาวะก็ไม่พบว่ามีสารเสพติดอีกด้วย

และหากถูกผู้ต้องขังด้วยกันซ้อม แล้วทำไมผู้คุมจึงไม่ช่วยและห้ามปราบ ก็แค่พูดความจริงมาครอบครัวคงไม่ติดใจอะไรกับเรือนจำ จึงทนไม่ได้ที่เรือนจำนิ่งเฉยเกินไปและไม่ให้ความชัดเจนตั้งแต่แรก ครอบครัวและญาติพี่น้องจึงต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากเรือนจำรัตนบุรีในวันนี้ และต้องการตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง

จากนั้น นายวรชัย ศรีสุวรรณวัฒนา ป้องกันจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ ลงมารับหนังสือแทน พร้อมรับปากว่า หลังจากได้รับหนังสือแล้วจะนำเสนอถึง นายนิรันทร์ กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ เพื่อให้รับทราบ พร้อมส่งเรื่องถึงศูนย์อำนวยความเป็นธรรม ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและต้องรู้ผลภายใน 15 วัน

หลังจากนั้นครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต จึงพอใจและได้นำโลงศพนายครรชิต กลับบ้านเกิด เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตอไป และจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 20 เม.ย.57 นี้ สำหรับนายครรชิต มีบุตรสาว 1 คน และได้แยกทางกันกับภรรยาแล้ว

ทั้งนี้ครอบครัวผู้ตายได้เข้าแจ้งความร้องทุกต่อ ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ นิลจันทร์ ร้อยเวร สภ.โนนนารายณ์ อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ แล้ว เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่เรือนจำรัตนบุรีเพื่อสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท