หลังจากที่เคยสั่งประหารไปแล้วกว่า 500 คน ศาลอียิปต์ตัดสินประหารเพิ่มอีก 683 คน ผู้ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ท่ามกลางการคัดค้านจากทนายและนักสิทธิมนุษยชน ผู้มองว่าศาลดำเนินคดีไม่เป็นไปตามกระบวนการ โดยไม่ให้จำเลยโต้แย้ง

28 เม.ย. 2557 สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานจากจังหวัดมินยา ประเทศอียิปต์ ว่าตุลาการอียิปต์ตัดสินประหารชีวิตผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกภราดรภาพมุสลิมเพิ่มอีก 683 คน รวมถึงผู้นำองค์กรชื่อโมฮัมเหม็ด บาดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยสั่งดำเนินคดีด้วยโทษประหารกับจำเลย 529 คน ศาลอียิปต์ยังได้ยืนยันใช้โทษประหารกับคน 37 คนจากผู้ถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้

 

กลุ่มภราดรภาพมุสลิมถูกทางการอียิปต์ประกาศว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายหลังจากมีการรัฐประหารโค่นล้มประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ซึ่งกลุ่มภราดรภาพมุสลิมให้การสนับสนุน และมีหลายคนในจังหวัดมินยาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุรุนแรงช่วงที่มีการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร

 

อัลจาซีร่าเปิดเผยอีกว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ครอบครัวของจำเลยที่รออยู่ภายนอกห้องพิจารณาคดีหลังจากได้รับทราบข่าวการตัดสินคดีแล้วก็พากันกรีดร้องมีผู้หญิงหลายคนเป็นลมลงล้มลงไปที่พื้น

 

โมฮัมเหม็ด เอลเมสซีรี นักวิจัยขององค์กรแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนลที่คอยติดตามคดีนี้อยู่กล่าวว่าจำเลยคดีนี้ไม่ได้รับการไต่สวนที่เป็นธรรมตามหลักการพื้นฐาน

 

ทนายความฝ่ายจำเลยเปิดเผยว่าในการดำเนินคดีครั้งแรกมีทั้งคนที่ถูกตัดสินประหารชีวิตและอีกส่วนหนึ่งที่ไม่โดนโทษประหารชีวิตจะถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 25 ปี

 

อย่างไรก็ตามทนายฝ่ายจำเลยจำนวนมากแสดงการต่อต้านการดำเนินคดีในครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีนี้คือซาอิด ยุสเซฟ บอกว่าผู้พิพากษาคดีนี้เป็น "คนโหดเหี้ยมอำมหิต"

 

ทนายความที่ชื่อโมฮัมเหม็ด อับเดล วาเฮบ ผู้เป็นทนายให้กับจำเลย 25 คนในคดีนี้กล่าวว่า มีการลงคำสั่งตัดสินคดีด้วยเวลาเพียง 5 นาที วาเฮบบอกอีกว่าการพิจารณาคดีครั้งหนึ่งกินเวลาเพียง 4 ชั่วโมงและผู้พิพากษาปฏิเสธที่จะรับฟังข้อโต้แย้งจากฝ่ายจำเลย

 

อับเดล นาสเซอร์ ฮัสซันเนน ยืนรออยู่นอกห้องพิจารณาคดีในขณะที่ญาติของเขา 5 คนตกเป็นจำเลยถูกสั่งประหารชีวิต เขาบอกว่าหนึ่งในญาติ 5 คนนี้มีคนเดียวเท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม แล้วเขาก็ไม่ได้ทำความผิดอะไร

 

ผู้พิพากษายุสเซฟเคยถูกนานาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนประณามก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ค. หลังจากตัดสินให้จำเลยมากกว่า 500 ชีวิตต้องโทษประหาร โดยคดีในครั้งนั้นก็ถูกกล่าวหาว่ามีการใช้เวลาพิจารณาคดีไม่นานรวมถึงไม่เป็นไปตามระเบียบหลักการการไต่สวนคดี

 

ใน 683 คนที่ถูกพิจารณาคดีล่าสุด มี 77 คนที่ถูกกุมขังอยู่ส่วนที่เหลือได้รับการพิจารณาแบบไม่ปรากฏตัวในศาล (In absentia) ซึ่งพวกเขามีสิทธิที่จะขอพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง

 

กฎหมายของอียิปต์ระบุว่าการพิพากษาประหารชีวิตต้องได้รับการยืนยันการตัดสินอีกครั้งหลังจากที่มุฟตีซึ่งเป็นผู้นำศาสนาสูงสุดในอียิปต์ ซึ่งความเห็นของมุฟตีที่ให้กับผู้พิพากษาจะถือเป็นความลับไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งนี้การตัดสินยังต้องผ่านศาลอุทธรณ์อีกขั้น

 

เอลเมสซีรี จากองค์กรแอมเนสตี้ฯ กล่าวว่า "คดีนี้ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบยุติธรรมอียิปต์อย่างย่อยยับ"

 

จำเลยในคดีนี้ถูกหล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ปีที่แล้ว หลังชาวจังหวัดมินยาได้ยินข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกวาดล้างปราบปรามผู้ประท้วงในกรุงไคโรซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี  โดยในมินยามีผู้สนับสนุนมอร์ซีอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นไปได้ว่าจะเป็นฝ่ายก่อเหตุรุนแรงหลังจากนั้น

 

 

Egyptian court sentences 683 people to death, Aljazeera, 28-04-2014