Skip to main content
sharethis

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยกตัวอย่าง พฤษภา 35-อิตาลี 54 มีนายกฯ แต่งตั้งเพื่อแก้วิกฤติ หากพรรคการเมืองทั้งหลายยินยอมพร้อมใจ "นายกฯ คนกลาง" เป็นคำตอบดีที่สุด เพื่อเดินหน้าประเทศ-รักษาประชาธิปไตย พร้อมท้า "นักเลือกตั้ง" เปิดทางให้ประเทศ หรือจะอ้าง "ประชาธิปไตย" บังหน้า

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่โรงแรมสุโกศล (ที่มา: เพจ Abhisit Vejjajiva/แฟ้มภาพ)

11 พ.ค. 2557 - วันนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์บทความ "วีรบุรุษประชาธิปไตยกับนายกฯ จากการเลือกตั้ง" ลงในเพจของเขา โดยชี้ว่ามีความจำเป็นในการมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากแต่งตั้งในช่วงวิกฤต โดยมีรายละเอียดบทความดังนี้

000

วีรบุรุษประชาธิปไตยกับนายกฯ จากการเลือกตั้ง

ในขณะที่หลายฝ่ายเริ่มมองเห็นทางออกของประเทศว่าน่าจะต้องมีรัฐบาลเฉพาะกาลหรือนายกฯคนกลาง เสียงคัดค้านจากฝ่ายรัฐบาลและ นปช.จะตอบโต้ว่านายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่เป็นประชาธิปไตย

ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตทั้งในประเทศและในต่างประเทศ

เหตุการณ์แรก คือวันที่คนไทยออกมาต่อสู้ให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และพลเอกสุจินดา ลาออกจากนายกรัฐมนตรี ระหว่างมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้นายกฯมาจากการเลือกตั้งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเคยเป็นผู้สนับสนุนพลเอกสุจินดา ก็หันมาสนับสนุนพลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ให้เป็นนายกรัฐมนตรีท่ามกลางเสียงคัดค้านจากประชาชนที่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

วันนั้น ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่าทางตัน ด้วยการทูลเกล้าเสนอชื่อนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส.ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เข้ามาสะสางปัญหาจากเหตุการณ์ความไม่สงบและยุบสภาเมื่อรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติมมีผลบังคับใช้

วิกฤติจึงคลี่คลายลง ดร.อาทิตย์ได้รับการขนานนามว่าเป็น "วีรบุรุษประชาธิปไตย" ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ท่านเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

มาดูอิตาลี เมื่อปี พ.ศ. 2554 บ้าง

ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางการเมือง หลังจากนายเบอร์ลุสโคนีลาออก ประธานาธิบดีอิตาลีได้แต่งตั้งนายมาริโอ มอนติ ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส. มาเป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาหลังจากหารือกับพรรคการเมืองทุกพรรค นายมอนติได้แต่งตั้งครม.ที่ปลอดนักการเมืองมาคลี่คลายปัญหาต่างๆ แล้วจึงลาออกและมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2556

ไม่มีใครบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นประชาธิปไตย

ยกทั้งสองเหตุการณ์นี้ขึ้นมาไม่ได้หักล้างหลักการว่า ในระบอบประชาธิปไตย นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง

ผมยังสนับสนุนหลักการดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า ในสถานการณ์วิกฤติ เพื่อมาคลี่คลายสถานการณ์ในระยะเวลาสั้นๆ หรือเมื่อพรรคการเมืองทั้งหลายยินยอมพร้อมใจ นายกฯ คนกลางอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพื่อเดินหน้าประเทศและรักษาประชาธิปไตยได้ นำบ้านเมืองไปสู่การเลือกตั้งที่เรียบร้อย ให้ประชาชนมั่นใจว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งจะนำพาประเทศไปสู่ความสงบ ทำงานให้ประชาชน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน

วันนี้จึงต้องถามนักเลือกตั้งไทยว่า
พร้อมจะเปิดทางให้ประเทศหรือไม่
หรือจะอ้างประชาธิปไตยบังหน้ารักษาอำนาจตัวเองต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net