Skip to main content
sharethis

ภาคีประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!  แถลงการณ์ ‘ประชาชนคือคนกลาง’ เสนอเดินหน้าและปกป้องการเลือกตั้ง วอน ส.ว. ฟังเสียงประชาชนกลุ่มอื่นด้วย นอกจาก กปปส.และ นปช. ย้ำประชาชนกำหนดอนาคตเองได้


14 พ.ค. 2557 ที่ห้องสมุดเดอะรีดดิ้งรูม ภาคีประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide! ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มขั้วที่ 3 คัดค้านความรุนแรง, เครือข่ายพลเมืองเพื่อความหวัง Citizen for Hope, กลุ่มพอกันที!, กลุ่ม Respect My Vote, กลุ่ม My Freedom, กลุ่มสภาหน้าโดม, กลุ่มคนเท่ากัน, กลุ่มเพื่อนรักกัน, กลุ่ม We Vote และ กลุ่ม Ant’s Power จัดแถลงข่าวเปิดตัวภาคี พร้อมด้วยออกแถลงการณ์ฉบับแรก เรื่อง ‘ประชาชนคือคนกลาง’ โดยเสนอต่อทุกภาคส่วนให้เดินหน้าเลือกตั้งให้เร็วที่สุดตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ปกป้องการเลือกตั้ง และเรียกร้องให้องค์กรที่พยามหาทางออกของประเทศ เช่น วุฒิสภาให้ฟังประชาชนกลุ่มอื่นๆ นอกจาก กปปส. และ นปช. ด้วย

นอกจากนี้ ภาคีประชาชนคือคนกลางฯ ได้เชิญชวนให้ประชาชนรณรงค์ด้วยการเขียนป้าย “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide” ถ่ายรูปกับป้าย แล้วติด tag #ประชาชนคือคนกลาง #Let_the_People_Decide ในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ส่งต่อจากเพื่อนถึงเพื่อนให้มากที่สุด เพื่อประเทศไทยที่คิดต่างได้และอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

กิตติชัย งามชัยพิสิฐ จากกลุ่มพอกันที! กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังกับผู้มีอำนาจเท่าใด เพราะเชื่อว่าพวกเขาคงจะมีธง มีความตั้งใจบางอย่างอยู่แล้ว เพียงแต่หวังว่าเสียงวันนี้จะไปถึงประชาชนจำนวนมากที่จะออกมาทำให้เสียงที่สนับสนุนการขับเคลื่อนประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้งดังขึ้น จนไปถึงผู้มีอำนาจที่จะต้องทำตามเสียงของประชาชนในที่สุด

เอก อัตถากร ตัวแทนกลุ่ม Respect My Vote กล่าวว่า ไม่ว่าประเทศไหน เมื่อเกิดความขัดแย้ง สิ่งที่จะทำให้ประชาชนสงบได้ดีที่สุดคือการคืนอำนาจให้ประชาชนทั้งประเทศ  เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสิน แม้กระทั่งประเทศที่มีประชาธิปไตยเต็มใบ เมื่อเกิดข้อขัดแย้งด้านกฎหมาย ก็จะโยนให้ประชาชนได้ตัดสิน ทั้งนี้ ส่วนตัวอาจจะมีความเห็นต่างจากภาคีเล็กน้อยเรื่องการปฏิรูป โดยมองว่าการนำแผนปฏิรูปของแต่ละฝ่ายมาเป็นนโยบายหาเสียงเพื่อแข่งขันกันปฏิรูปคือทางออกที่ดีที่สุด

เอก อัตถากร  กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน มีกลุ่มคนบางคนกำลังดึงอำนาจอธิปไตยจากประชาชนทั้งประเทศไป เพื่อเถลิงอำนาจและสถาปนาอำนาจกันเอง จนจะทำให้นายกฯคนกลาง หรือนายกฯ มาตรา 7 ขึ้นมาได้ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่สามารถปกครองหรือบริหารประเทศได้แม้แต่วันเดียว และจะนำสู่ความขัดแย้งของคนทั้งประเทศ

"ถ้านายกฯมาตรา 7 ขึ้นมาสู่อำนาจเมื่อไหร่เราจะไล่เขาโดยวิธีการที่เขามา" ตัวแทนกลุ่ม Respct My Vote กล่าว

เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ตัวแทนกลุ่มขั้วที่ 3 คัดค้านความรุนแรง กล่าวว่า กลุ่มขั้วที่ 3ฯ ไม่เห็นด้วยกับเส้นทางการสรรหานายกฯ ที่ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง วุฒิสภาเองก็พูดถึงการสรรหานายกฯ ทั้งที่วุฒิสภาเองก็ไม่ใช่ตัวแทนของภาคประชาชน ครึ่งนึงมาจากการสรรหา อีกครึ่งนึงมาจากการเลือกตั้งก็จริงแต่เป็นการเลือกตั้งรายจังหวัด

เจษฎา กล่าวว่า ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าอยากให้ขั้วที่ 1 ที่ 2 ฟังเสียงของพวกตนบ้าง ย้ำว่าอยากให้เกิดการเจรจาในสังคม แต่ก็ยังไม่เกิด จนถึงวันนี้มีผู้เสียชีวิต 20 กว่าคน บาดเจ็บเป็นพันคนแล้ว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากยังไม่ไปต่อในจุดที่ถูกทางจะน่ากลัวมากๆ

"แม้ว่าการเลือกตั้งอาจจะได้คนที่ไม่ได้ถูกใจที่สุดของท่าน แต่เรายังสามารถดูแลกำกับเขาได้ ถ้าใครแต่งตั้งใครเข้ามา เราจะดูแลกำกับเขาได้อย่างไรในอนาคต"  เจษฎากล่าว

หลิ่มหลี สมาชิกกลุ่มเครือข่ายพลเมืองเพื่อความหวัง Citizen for Hope ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่วมจุดเทียน และปล่อยลูกโป่ง รณรงค์เรื่องการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมา กล่าวถึงความคาดหวังของกลุ่มว่า เราหวังให้มีการเจรจาของคนทุกฝ่าย หวังว่าทหารจะถอนบังเกอร์จากกรุงเทพฯ หวังว่า กปปส.จะหยุดการเคลื่อนไหว และหยุดกระทำรุนแรงต่อคนที่ผ่านทางไปมา หวังแม้กระทั่งให้ นปช.พาประชาชนกลับบ้าน กกต.จัดการเลือกตั้งตามหน้าที่ตัวเอง ศาลทำหน้าที่ตามกฎหมาย และหวังให้สังคมไทยกลับสู่สังคมปกติ 
 
สมาชิกกลุ่มเครือข่ายพลเมืองเพื่อความหวัง กล่าวว่า ในอนาคต ทางกลุ่มฯ จะมีกิจกรรมจัดอบรมให้ประชาชนเรียนรู้วิธีแสดงออกต่อต้านกลุ่มที่ต้องการยึดอำนาจประชาชนด้วยตัวเอง อาทิ การอบรมวิธีต่อต้านความรุนแรงด้วยสันติ เป็นต้น
 
 



รายละเอียดของแถลงการณ์ :

แถลงการณ์

“ประชาชนคือคนกลาง”

"ภาคีประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!" เป็นการรวมตัวของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ปรารถนาจะเห็นประเทศเดินหน้าต่อไปได้ด้วยการเคารพสิทธิและเสียงของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย จึงได้มาร่วมกันนำเสนอทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้

เราขอพูดด้วยเสียงของประชาชนผู้ต้องการอยู่อย่างสงบสันติ คิดแตกต่างแต่ไม่แตกแยก ไม่เอาปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ต้องการเห็นการบิดเบือนกฎหมายและหลักนิติธรรมอีกต่อไป และปรารถนาจะเห็นการปฏิรูปร่วมกันของคนทั้งสังคมบนพื้นฐานประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน

ท่ามกลางสถานการณ์ขณะนี้ เราเห็นว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะนำประเทศเข้าสู่สุญญากาศทางการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งนายกฯ คนกลางที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถือเป็นวิธีการนอกระบอบประชาธิปไตย เป็นการลิดรอนสิทธิเสียงของประชาชนพลเมืองในประเทศนี้อย่างชัดเจน

เราขอยืนยันว่าทางออกของความขัดแย้งครั้งนี้ คือให้ประชาชนได้กำหนดอนาคตตนเอง ได้มีส่วนในการตัดสินใจต่อชะตากรรมประเทศด้วยสิทธิเสียงที่มีอยู่เท่ากันทุกผู้นาม เพราะ “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!”  เราขอเสนอต่อทุกภาคส่วนดังนี้

  1. เดินหน้าเลือกตั้งให้เร็วที่สุดตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพราะการเลือกตั้งคือทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติในระบอบประชาธิปไตย
  2. ขอให้เตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดปกป้องการเลือกตั้ง ด้วยวิถีทางต่างๆ เท่าที่แต่ละคนแต่ละกลุ่มจะทำได้บนพื้นฐานของการเคารพความเห็นที่แตกต่างและไม่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ 
  3. ขอให้องค์การต่างๆ ที่พยายามหาทางออกให้กับบ้านเมืองในขณะนี้ ดังเช่นวุฒิสภา กรุณาให้โอกาสเราชี้แจง รับฟังและเคารพในความเห็นของภาคประชาชนนี้อีกฝ่ายหนึ่งด้วย ไม่ใช่เพียงแค่ กปปส. หรือ นปช. เท่านั้น

 

เราเชื่อว่าไม่มีใครอยากเห็นความขัดแย้งลุกลามบานปลายรุนแรงจนไปสู่สงครามกลางเมือง ก่อนจะถึงวันนั้นทุกฝ่ายต้องกลับสู่การเลือกตั้งเท่านั้น เพราะ “ประชาชนคือคนกลาง Let the People Decide!”

 

แถลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2557
ณ ห้องสมุด The Reading Room

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net