สุเทพยืนยัน ผบ.ทบ.เป็นคนนอบน้อม-ย้ำ กปปส.ยังต้องชุมนุมใหญ่ 23-26 พ.ค.นี้

เลขาธิการ กปปส. เข้าใจ กอ.รส. สั่งปิดสื่อเพื่อระงับเหตุ-ตัดพวกยุยง "พวกกูยังไม่ได้ดูเลยบลูสกาย มึงจะบ่นอะไรกันนักหนา" พร้อมเชียร์คำสั่งห้ามนักวิชาการออกทีวีเพราะเป็นพวกเสื้อแดง ใช้วิชาการหลอกๆ ต้มประชาชน - ก่อนเตือน กปปส. อย่าเพิ่งคิดว่าชนะ ยังต้องชุมนุมใหญ่ 23-26 พ.ค. ขอให้มากันมากๆ - มาน้อยไม่มีความหมาย

21 พ.ค. 2557 - เมื่อเวลา 20.10 น. ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนิน สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นปราศัยบนเวที โดยก่อนจะเล่ารายละเอียดการไปหารือกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ตามของคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. นั้น สุเทพได้กล่าวถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ ที่เขียนบทความวิจารณ์กฎอัยการศึกและวิจารณ์การที่ ผบ.ทบ. เชิญฝ่ายต่างๆ มาประชุม

 

สุเทพอัดบทความ 'จาตุรนต์' บ้านเมืองวิกฤต 7 เดือน แต่ไม่เคยออกมารับผิดชอบอะไร

โดยนายสุเทพได้อ่านบทความของนายจาตุรนต์ก่อน จากนั้นนายสุเทพกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่จาตุรนต์เขียน อยากถามว่าในขณะที่มีวิกฤติการเมืองต่อเนื่องมา 7 เดือน นับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เรามวลมหาประชาชนพยายามจะเรียกร้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ ออกมาแก้ไข ไม่มีใครแสดงตัวอออกมาแก้ไข รับผิดชอบ เมื่อ ผบ.ทบ. กล้าแสดงตัวออกมาแบกรับภาระ แก้ไขปัญหาบ้านเมือง ผมต้องถามว่ามันผิดตรงไหนวะ ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึก พยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ผมชื่นชม ผมเห็นว่าเขาเสี่ยงและกล้าหาญมาก ที่เอาปัญหาทั้งหลายมาแบกไว้ ในขณะที่คนฝ่ายอื่นกลุ่มอื่นไม่ยอมแบกรับปัญหานี้ เพราะฉะนั้นที่ไปกล่าวหาว่า ผบ.ทบ. สับสน ไม่เข้าใจฐานะตัวเอง ผมว่าคนสับสนคือจาตุรนต์ และคนใน ครม. นี้ ต้ั้งแต่เกิดปัญหามาเกินครึ่งปีแล้ว ไม่เคยเห็นจาตุรนต์แสดงความรับผิดชอบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

"ผมไปนั่งในที่ประชุม ไม่เห็นว่า ผบ.ทบ.แกกำลังสับสนหรือเข้าใจฐานะตัวเองผิด ผมเห็นว่าเขาเข้าใจฐานะตัวเอง ในฐานะที่เป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศ เป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ท่านบอกชัดวันนี้ว่าที่ต้องทำเพราะมันมีเหตุการณ์รุนแรง มันฆ่ากัน มันขนอาวุธจะมาทำสงครามกัน มันกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง แล้วถ้าท่านไม่ออกมา คนทั้งหลายจะตำหนิติเตียน จาตุรนต์ไม่รู้สึกนี่ ลองเขาเอาปืนมายิงบ้านพ่อมึงบ้างสิ จะได้รู้สึกรู้สาขึ้นมาบ้าง นั่งอยู่ใน ครม. มีสมุนบริวาร เอาปืน เอาอาวุธสงครามมาประทุษร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ บาดเจ็บ 700 ตาย 23 คน ไม่เห็นออกมาพูดสักแอะเดียวว่าต้องรับผิดชอบอย่างไร ไม่เคยเห็นคนใน ครม. นี้รับผิดชอบอะไรเลย วันนี้ออกมาทำเป็นอวดดี ผมคิดว่าอย่างนี้ต้องตำหนิว่าเป็นคนใช้ไม่ได้"

 

อัดจาตุรนต์พวกหลงตัวเอง ผูกขาดว่าการเมืองเป็นเรื่องของนักการเมือง

"ที่จาตุรนต์ตำหนิ ผบ.ทบ. ว่ามีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ขาดความรู้ความเข้าใจในการแก้ปัญหาการเมือง ไม่ควรเป็นผู้แก้ปัญหา ผมขอถามว่าเรื่องการเมืองนี่จำกัดเฉพาะพวกมึงกับพวกกูหรือวะ ไม่ใช่โว้ย การเมืองเป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ถ้าการเมืองดี คนทุกคนก็ได้ประโยชน์ ถ้าชั่วเหมือนที่พวกมึงทำอยู่ คนไทยเดือดร้อนทั้งประเทศ อย่ามาอวดรู้ว่าเก่งการเมืองพวกเดียว วันนี้คนไทยรู้เช่นเห็นชาติ เขาจึงไม่ไว้วางใจนักการเมืองยังไงละโว้ย"

"อวดฉลาด อวดดี มึงนั่นแหละสับสน พวกหลงตัวเอง ผูกขาดว่าเรื่องการเมืองต้องเป็นนักการเมือง คนที่จะข้าใจการเมืองต้องนักการเมือง แล้วที่บ้านเมืองวิบัติเสียหาย ไม่ใช่เพราะนักการเมืองหรือไงวะ แล้วนักการเมืองที่ทำให้ประเทศวิบัติเสียหายคือคนในระบอบทักษิณ ซึ่งมีมึงด้วย"

 

เห็นกับตา ผบ.ทบ.พูดจาเรียบร้อยไม่ใช่หัวหน้าคณะรัฐประหาร เพราะถ้ารัฐประหารคงเรียบร้อยไปแล้ว

นายสุเทพกล่าวว่า วันนี้เห็นกับตา ผบ.ทบ.พูดจาเรียบร้อย นอบน้อม อดทน แม้นักการเมืองจะตีโวหารท่านก็ทน ผมเห็นว่าเขานอบน้อมดี ผมยืนยันว่าเขามีสติและคุมสติได้ ว่าเขาเป็นแค่ผู้รับผิดชอบตามกฎอัยการศึก ไม่ใช่หัวหน้าคณะรัฐประหาร เพราะถ้าเขาเป็นหัวหน้ารัฐประหาร วันนี้เรียบร้อยหมดแล้ว ไม่ได้มาเห่าอยู่ต่อไปแล้ว

"แล้วที่มาบอกว่า ผบ.ทบ. ประกาศกฎอัยการศึก เป็นการละเมิดเสรีภาพสื่อมวลชน และประชาชน ปิดสถานีโทรทัศน์ ผมบอกตรงๆ ไม่เห็นด้วยกับการปิดสถานีบลูสกาย แต่ผมเข้าใจว่าเขาต้องปิดทุกสถานี เพราะว่าสถานีของมันปลุกระดมให้คนเกลียดกัน ลุกขึ้นฆ่ากัน มันปลุกระดมทุกวัน ทั้งวิทยุ ทั้งทีวี ทุกสถานี เมื่อเขาต้องการระงับเหตุ ไม่ให้เหตุร้ายมันรุนแรงบานปลายไป เขาต้องตัดตัวยุตัวยงทั้งหลายเสียก่อน พวกกูยังไม่ได้ดูเลยบลูสกาย มึงจะบ่นอะไรกันนักหนา"

"แล้วที่มาบอกว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย ถามหน่อยเถอะวะกระบวนการประชาธิปไตยของมึงคือโกงเลือกตั้ง ซื้อเสียง แล้วกลับมาครองอำนาจ ปล้นแผ่นดิน นั่นคือประชาธิปไตยของพวกมึงหรือไง ประชาธิปไตยที่มีนายทุนเป็นเจ้าชีวิต นายทุนเป็นเจ้าของพรรครวมทั้งตัวมึงเป็นขี้ข้ารับใช้เขา"

 

ต้องปฏิรูปประเทศ เพราะไม่ต้องการประชาธิปไตยอุบาทว์อีกแล้ว

"กูบอกเลยนั่นไม่ใช่ประชาธิปไตย เราประชาชนจึงได้บอกไงครับว่าต้องปฏิรูปประเทศไทยเสียก่อน จัดการพรรคการเมือง ทุนสามานย์เสียก่อน ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก เพราะมันเป็นเผด็จการตั้งแต่ในพรรคของมันแล้ว ตอนที่อยู่ในพรรค ทักษิณสั่งอะไรกูไม่เห็นใครขัดเลยสักครั้งเดียว ทักษิณทำปู้ยี้ปู้ยำอะไร พวกนักการเมืองไม่เคยต่อต้านเลย แต่ข่มเหงน้ำใจประชาชนจนเกิดการต่อต้านในวันนี้ไงเล่า ประชาธิปไตยเฉพาะเปลือก จอมปลอม บอกเลยพวกเราประชาชนไม่เอาละโว้ย เข็ดละโว้ย ถ้าประชาธิปไตยมันจะร่อยหรอไป ประชาชนอย่างเราสาธุ เพราะไม่ต้องการประชาธิปไตยอุบาทว์ของพวกเอ็งแล้ว"

สุเทพกล่าวด้วยว่า "จำเป็นต้องพูดประเด็นเหล่านี้ เพราะเป็นตัวอย่างของการบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง เพราะมีนักการเมืองอวดดี บอกว่าเรื่องการเมืองต้องเป็นเรื่องของไม่กี่คน ไม่กี่พรรค บ้านเมืองถึงวุ่นวาย ยับเยิน อย่างที่เราต้องออกมาร่วมกันต่อสู้"

 

เห็นด้วยกับการห้ามนักวิชาการแสดงความคิดเห็น เพราะเป็นพวกเสื้อแดง-พวกทักษิณ

ส่วนการห้ามแสดงความเห็นทางวิชาการนั้น สุเทพกล่าวว่า "และต้องยอมรับความจริงพี่น้องครับ ที่อ้างว่าให้ความเห็นทางวิชาการน่ะ มันเป็นนักวิชาการแดงแต่ใส่เสื้อสีอื่น แล้วโผล่หน้าสลอนทางทีวี เป็นขี้ข้ารับใช้ทักษิณ เอาวิชาการหลอกๆ มาต้มประชาชน นี่ก็ยังออกอยู่ ไปแหลนอยู่ตามหน้าสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ผมอยากฝากบอกท่าน ผบ.ทบ. ไหนๆ ปิดสถานีไปแล้ว ก็ขอให้สั่งไปตามสถานีต่างๆ ว่าพวกนักวิชาการส้นตีนอย่างนี้อย่าให้ออกทีวีอีก ไม่มีประโยชน์ เพราะมันยิ่งพูดยิ่งทำให้ประชาชนสับสน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด แล้วมันเอาเปรียบพวกเรามวลมหาประชาชน เพราะสถานีเหล่านั้นมันไม่เชิญนักวิชาการเราไปออกเลย เชิญแต่นักวิชาการขี้ข้าหางแดงทั้งนั้นไปออก"

 

ยืนยันข้อเสนอ กปปส. ในที่ประชุม ต้องตั้งรัฐบาลใหม่-ปฏิรูปประเทศ

สุเทพกล่าวด้วยว่าวันนี้ไปประชุมโดยไม่ได้รับหนังสือเชิญ เพราะท่านประกาศในฐานะ ผอ.กอ.รส. เราได้ยินเราก็ได้ไป เพราะถือว่าใครก็ตามอาสามาเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาชาติ บ้านเมือง สมควรที่เราจะให้ความร่วมมือทั้งสิ้น และผมเห็นว่าเขาไม่ได้แสดงอำนาจ บาตรใหญ่อะไร และฟังทุกคน ทุกคณะ และเขาจดไว้ด้วย เขาไม่ได้ตัดสินว่าใครพูดผิดพูดถูก แต่การประชุมยังไม่ยุติ เขานัดประชุมต่อพรุ่งนี้บ่ายสองโมง ท่านขอร้องว่าประชุมแล้ววันนี้ใครพูดอย่างไรในที่ประชุม ขออย่าได้เอาไปให้สัมภาษณ์ อย่าเอาเผยแพร่ ขอให้เก็บไว้เฉพาะในที่ประชุม เพราะการประชุมยังไม่ยุติ ต้องประชุมพรุ่งนี้อีกวันหนึ่ง ผมเลยไม่พูดวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอคนอื่น แต่ผมมีหน้าที่รายงานพี่น้องมวลมหาประชาชน ว่าวันนี้ผมและคณะได้ไปเสนออะไรในที่ประชุมแห่งนั้น ผมต้องรายงาน เป็นสิทธิของผม เป็นร่างทรงต้องมาบอกเจ้าของร่าง

เลขาธิการ กปปส. กล่าวว่า "ในการประชุมไม่ได้กล่าวเสียดสีใคร แต่ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า มวลมหาประชาชนเห็นว่า ประเทศไทยวันนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรัฐบาลที่จะมารับผิดชอบการบริหารประเทศ การไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรัฐบาลที่จะมีอำนาจบริหารประเทศนี้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ใหญ่หลวงต่อประเทศไทย เพราะฉะนั้น"

"ข้อเสนอของผมข้อแรกคือ ต้องมีนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจเต็มมาแก้ไขปัญหาของประชาชน เช่น ปัญหาของชาวนา เป็นต้น และจะต้องแก้ไขปัญหาอื่นของประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่จะรุนแรงขึ้น จำเป็นต้องมีรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็ม 100%"

"ข้อสอง ผมเสนอว่าเมื่อได้นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ต้องตั้งคณะรัฐมนตรีที่ไม่มีฝ่ายการเมือง ไม่มีนักการเมืองอยู่เลยแม้แต่คนเดียว"

"ข้อสาม นายกรัฐมนตรี และ ครม. ต้องรีบปฏิรูปประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชน ผมเรียนต่อที่ประชุมว่า อย่าเอาข้อกฎหมายมาโต้เถียงกับผม อย่าเอารัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาโต้เถียงกับผม ผมพูดในภาพรวม ว่าถ้าทุกคนเห็นด้วยก็มาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้นายกรัฐมนตรี ได้คณะรัฐมนตรีที่ไม่เป็นนักการเมืองแล้วรีบปฏิรูปประเทศไทย"

 

เทียบเชิญ นปช. ให้มาร่วมกับ กปปส. และกองทัพ เพื่อแก้ไขปัญหา

สุเทพกล่าวต่อไปว่า "ข้อสี่วันนี้ ผมได้เชิญฝ่าย นปช. และมวลชนคนเสื้อแดงกลางที่ประชุม ผมได้กราบเรียนว่าเราประชาชนด้วยกันทั้งนั้นทุกฝ่าย โปรดมาร่วมมือกัน วันนี้ทหารกับข้าราชการเขาร่วมมือกันแล้ว ถ้าประชาชน ฝ่าย นปช. เสื้อแดงและประชาชนฝ่ายเราเข้าไปร่วมมือกับทหารและข้าราชการ เราจะแก้ปัญหาของประเทศได้ เอาฝ่ายการเมืองออกไปก่อน ผมพูดกลางที่ประชุมอย่างนี้ ผมบอกฝ่ายการเมืองถอยไปก่อน วันนี้ให้เป็นเรื่องประชาชน ทหาร ข้าราชการ จับมือกันแก้ปัญหาชาติ บ้านเมือง ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเสนอไปนี้คงตรงกับหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เข้าทรงผมอยู่ใช่ไหมครับ พี่น้องครับ"

สุเทพกล่าวด้วยว่า "ผมยืนยันเรื่องนี้ ไม่โต้เถียงกับใครเลย แม้จะคันปากยุบยิบ คันจนถึงข้างล่างแล้ว แต่ว่ายืนยัน ทนเอาเท่านั้น พรุ่งนี้ (23 พ.ค.) ไปประชุมต่อบ่ายสองโมง ผมขออนุญาตยืนยันตามข้อเสนอนี้ ถ้ามีอะไรใหม่กว่านั้นมาบอกผมได้ก่อนบ่ายสองโมง"

 

กปปส. อย่าเพิ่งคิดว่าชนะแล้ว ยังต้องชุมนุมใหญ่ 23-26 พ.ค. ขอให้มากันมากๆ - มาน้อยไม่มีความหมาย

"พี่น้องทั้งหลาย เราต้องพร้อมเปิดใจกว้าง ยอมรับความพยายามแก้ไขปัญหาของข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร รู้สึกขอบคุณที่เขาแสดงตัวชัดเจน เราเรียกร้องตลอดถ้าทุกคนในบ้านเมืองออกมาช่วยกันทำหน้าที่ ด้วยสำนึกว่าเป็นคนไทย เป็นเจ้าของประเทศไทย เราจะหาทางออกให้ประเทศได้ จะแก้ไขปัญหาประเทศชาติ แต่ถ้าท่องกันอย่างเดียวว่าไปเลือกตั้งนั้น ประชาชนอย่างเราไม่เอาแล้ว นี่พูดกับเขาชัดขนาดนี้ ผมได้กราบเรียนพี่น้องว่าวันนี้ การรวมพลังของมวลมหาประชาชนมีความหมาย มีความสำคัญ อย่าไปคิดนะครับว่าชนะแล้ว ไม่ใช่ ผมได้กราบเรียนไปเมื่อคืนแล้ว มันไม่ง่ายครับ มันมีหนทางเดียว พี่น้องประชาชนคนไทย ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางที่ผมเสนอไปนั้น ต้องออกมาร่วมการชุมนุมกันหลายๆ ล้านคน ไม่ออกมาก็จะถูกคนอื่น ฝ่ายอื่นบิดเบือน ว่าเป็นคนหยิบมือเดียวกลุ่มน้อย เรามันคนธรรมดาสามัญชนที่เขาเห็นว่ากระจอก ถ้าเราออกมาน้อย ไม่มีความหมาย ไม่มีความสำคัญพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่เราต้องช่วยกันปฏิบัติให้ได้"

"กราบเรียนกับพี่น้อง เราอึดอัดใจกับทุกคน พูดกับพี่น้องประชาชน คืนก่อนๆ โน้น คนได้ยินได้ฟังกันทั่วประเทศหลายล้านคน วันนี้ได้ยินได้ฟังเฉพาะคนที่อยู่เวทีที่ชุมนุม ถ.ราชดำเนิน ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะดูทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ค อย่างมากก็เป็นแสนๆ คน เราเสียเปรียบ เรามีแผนชุมนุมหลายๆ ล้าน ใช้เนื้อที่มาก แต่เมื่อกองอำนวยการรักษาความสงบ เขาบอกให้เราชุมนุมเฉพาะถนนราชดำเนิน นปช. ชุมนุมถนนอักษะ ผมก็เห็นว่าเราต้องเคารพเขา ร่วมมือกับเขา อย่างน้อยในช่วงที่เราเห็นว่าเขาพยายามที่จะแก้ไขปัญหาชาติ บ้านเมือง เราต้องยอมเสียสละในส่วนของเราบ้าง พี่น้องที่ไม่ได้ดูบลูสกาย ทนไม่ไหวต้องมาที่นี่ครับ และผมขอยืนยันว่าที่เรากำหนดเอาไว้ว่าจะชุมนุมใหญ่ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสามทุ่ม เรายังยืนยันจะจัดการชุมนุมอยู่ เพราะฉะนั้นใครเห็นด้วยต้องออกมา เพียงแต่ว่าผมขออนุญาตเปลี่ยนสถานที่เล็กน้อย ที่เคยประกาศว่าจะเชิญมาชุมนุมบนถนนราชดำเนิน และบนถนนสุขุมวิท เพื่อไม่ให้ต้องขัดใจกับ กอ.รส. ผมขอโทษพี่น้องชาวสุขุมวิท โปรดเสียสละออกมาชุมนุมบนถนนราชดำเนิน เอาให้ตลอดสายถึงสนามหลวงเลย"

"แต่ถ้าออกมาเยอะๆ หลายๆ ล้าน มันจะล้นไปถึงสนามม้า ราชเวที ปทุมวัน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ต้องยึดหลักว่าเราชุมนุมถนนราชดำเนิน จะได้ไม่ผิดใจกัน และจะได้เห็นว่าเราให้ความร่วมมือ เพราะเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย แก้ปัญหาได้ เพราะฉะนั้นผมขอเรียนย้ำ ช่วยกรุณาบอกต่อกันไปว่าแม้จะมีกฎอัยการศึก เราก็มีนัดหมายกันทุกวัน วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ โปรดสละเวลามาชุมนุมกันบนถนนราชดำเนินจนถึงสนามหลวง ตั้งแต่ห้าโมงเย็น หกโมงเย็นร้องเพลงชาติ เป่านกหวีด แสดงพลังประชาชน เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง สามทุ่มคนที่อยากกลับบ้านเชิญกลับบ้าน คนที่นอนฝ้าก็นอนที่นี่ ทำอย่างนี้ติดต่อกันสามวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนวันจันทร์ที่ 26 เรายังนัดหมายกันเหมือนเดิม ตั้งเวที ที่ท้องสนามหลวง แล้วก็ประกาศอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย เวลา 1 ทุ่มตรงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นขอใช้โอกาสนี้กราบเรียนพี่น้องได้ทราบ พรุ่งนี้ตอน 11 โมงเช้า ขอนัดหมาย ผู้แทนเครือข่ายทั้งหลาย กปปส. ทั้งหลาย ประชุมพร้อมกัน ที่เต๊นท์หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 11.00 น. นะครับ เพื่อจะได้กำหนด มอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ในวันชุมนุมใหญ่"

"ขออนุญาตให้พี่น้องทั้งหลาย ส่งข่าวสารถึงผู้แทนแกนนำทุกเครือข่ายที่ร่วมต่อสู้กันมา และบ่ายสองโมงวันพรุ่งนี้ผมจะนำคณะไปประชุมตามคำเชิญของ ผบ.ทบ. ได้ผลอย่างไร วันพรุ่งนี้ผมจะกลับมารายงานบนเวทีแห่งนี้ ในเวลาประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง ถ้ามาได้ทัน ถ้าช้าจะบอกว่าเขาประชุมกันนาน" จากนั้นสุเทพปราศรัยเสร็จในเวลาประมาณ 21.15 น."

 

ย้ำเป้าหมาย 4 ข้อ กปปส. มีกฎอัยการศึกก็ยังไม่เลิก-ต้องชุมนุมต่อจนกว่าจะชนะ

อนึ่งก่อนหน้านี้ หลัง ผบ.ทบ.ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ต่อมาในช่วงค่ำ สุเทพ ได้ปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า "ถึงแม้จะมีการประกาศ กฏอัยการศึก พี่น้องอย่าสับสน ไม่ได้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ประกาศกฏอัยการศึกแล้ว รัฐธรรมนูญยังอยู่มวลมหาประชาชน ยังมีสิทธิ์ และเสรีภาพตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะต่อสู้ ต่อสู้ชุมนุม ต่อต้านรัฐบาลทรราชทุกประการ แต่ขอให้พี่น้องอย่าเพิ่งพูดถึงชัยชนะ ถ้าพูดถึงชัยชนะ ต้องหมายถึง ชัยชนะของประเทศไทยของประชาชนทั้งประเทศ"

โดยสุเทพกำหนดเป้าหมาย 4 ข้อได้แก่ หนึ่ง ระบอบทักษิณต้องหมดสิ้นจากแผ่นดินไทย สอง ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มีอำนาจเต็ม 100% เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ สาม ตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีนักการเมือง เพื่อมาปฏิรูปประเทศไทย สี่ นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล ต้องเป็นของประชาชน ปฏิรูป เปลี่ยนแปลงประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของประชาชน

ก่อนหน้านี้ เอกณัฐ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. เปิดเผยถึงมติการหารือของแกนนำ กปปส.ว่า ในวันที่ 22 พ.ค. แกนนำ กปปส.จะนัดประชุมกับเครือข่ายตัวแทน กปปส.ทั่วประเทศใน เวลา 11.00 น. ที่ถนนราชดำเนินกลาง บริเวณเต๊นท์หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่จะส่งตัวแทนแกนนำ กปปส. เข้าร่วมประชุมกับ กอ.รส. เป็นครั้งที่ 2 เวลา 14.00 น. และขอเชิญชวนผู้ชุมนุมมาชุมนุม ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 21.00 น. ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. เสาร์ที่ 24 พ.ค. และ อาทิตย์ที่ 25 พ.ค. ตามที่ได้กำหนดไว้ แต่เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขในประกาศ กอ.รส. จึงขอเปลี่ยนเป็นการนัดชุมนุมเฉพาะ ถ.ราชดำเนินเท่านั้น ยกเลิกการชุมนุมบน ถ.สุขุมวิทที่เคยนัดหมายไว้ และในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. เวลา 19.00 น. จะนัดผู้ชุมนุมที่สนามหลวงตามเดิม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท