Skip to main content
sharethis
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มอบนโยบายส่วนราชการจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ คสช. เน้นย้ำให้บูรณาการทำงาน เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า ยึดหลักวินัยทางการคลัง
 
 
13 มิ.ย. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบนโยบายให้กับหัวหน้าส่วนราชการในการจัดทำงบประมาณปี 58 จากหลังได้เห็นชอบกรอบงบประมาณประจำปี 58 งบรายจ่าย 2.575 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50,000 ล้านบาท ประมาณการรายได้  2.325 ล้านล้านบาท เป็นประมาณแบบขาดดุล 250,000 ล้านบาท   โดยจัดสรรสำหรับเป็นรายจ่ายลงทุน 450,625 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 17.5  โดยคาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4
 
เพื่อให้ส่วนราชการจัดทำรายละเอียดขอจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ คสช. โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วน 8 ด้าน เช่น การเร่งรัดการช่วยเหลือประชาชน การฟื้นฟูความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ดำเนินการตามกรอบข้อตกลงประชาคมอาเซียน ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เร่งรัดใช้งานวิจัยและพัฒนา และเร่งแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
จากนั้นจะเสนอให้หัวหน้า คสช. เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ในวันที่ 29 ก.ค.57 ก่อนนำเสนอฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณาร่างงบประมาณ เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ในวาระที่ 1จากนั้นในวันที่ 7 ส.ค.- 5 ก.ย.57 คณะกรรมการธิการฯ จะพิจารณาร่างพ.ร.บ. ให้มีผลบังคับใช้ได้ในวันที่ 1 ต.ค.57 โดยในระหว่างการเสนอทูลเกล้าฯ ถวายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จะตั้งรัฐบาลขึ้นมาเพื่อบริหารราชการ โดยเชิญผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมือง เพื่อขับเคลื่อนงบประมาณ และตั้งสภาปฏิรูป เพื่อขับเคลื่อนระบบเบียบทางการเมือง
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ต้องการให้ทุกส่วนราชการช่วยทำความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ให้รับรู้สาเหตุการปฏิวัติ และการใช้งบประมาณยังยึดหลักวินัยทางการคลัง รวมถึงยืนยันว่า มาตรการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชน ทั้งราคาน้ำมัน ราคาสินค้า โดยระบุว่าเป็นนโยบายประชานิยม นั้นยอมรับว่าจำเป็นต้องช่วยเหลือและทำในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนระยะกลาง และระยะยาว คสช.จะกำหนดมาตรการแก้ปัญหาร่วมกับส่วนราชการอีกครั้ง และต้องการให้ทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับภาระหนี้สาธารณะที่ขยับเพิ่มขึ้นร้อยละ 49-53 ว่าเป็นเท่าใด เพื่อให้รับรู้ระยะเวลาการชำระหนี้ให้ชัดเจน
 
นอกจากนี้ ต้องการให้ส่วนราชการยึดหลักในการบริหารงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษกิจและสังคมแห่งชาติฉบับบที่ 11 และตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง ยืนยันยังไม่มีนโยบายยุบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องให้ อทป.ช่วยขับเคลื่อนงานในด้านต่าง ๆ ของรัฐบาลไม่มีการตัดงบหรือลดงบไปจากเดิม
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net