5กวี 5บทกวี ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร รำลึกอภิวัฒน์2475

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

กฤช เหลือลมัย: จนกว่าพวกเราจะพบกันอีก

ณ เบื้องบูรพา โพ้นฟ้าพู้นนั้น – ลมตะวันออก
มองจากข้างใน แลไปข้างนอก ในม่านหมอกหม่น
ผืนดินกว้างใหญ่ หุบเขา แมกไม้ สายน้ำไหลวน
กลับไม่มีที่ให้คนบางคน เหยียบย่างหยัดยืน

....................................

จนกว่าพวกเราจะได้พบกัน – ปวงท่านและข้าฯ
ท่านผู้จากไกลล่วงไปก่อนหน้าข้าฯ ลืมตาตื่น
แสงจากคบไฟที่ท่านจุดไว้ในยามค่ำคืน
ยังคงวาววามท่ามความเป็นอื่น..ของผืนดินนี้
ผืนดินที่แม้ว่ามีเจ้าของครอบครองกรรมสิทธิ์
สายน้ำที่แม้จะถูกกั้นปิดทุกทิศทุกที่
หุบเขา ทุ่งหญ้า ถูกจับจองตีตรามาเนิ่นนานปี
หากทุกแห่งหนบนผืนดินนี้ ยังมี “ผู้คน”
ผู้คนที่ต่างก็มีชีวิตผิดแผกแตกต่าง
ยึดถือปล่อยวาง ดีบ้างชั่วบ้าง มาตั้งแต่ต้น
ถือบุญละบาป ลวงหลอกสร้างภาพ เข็ดหลาบเล่ห์กล
ปะทะสังสรรค์กับความสับสน ที่ตนสร้างไว้
จนกว่าพวกเราจะได้พบกัน – ข้าฯ สัญญาว่า
จะสืบสานเจตนา มโนปณิธานแห่งท่านให้ได้
ข้าฯ จะทบทวน ขบคิดใคร่ครวญ เรื่องราวมากมาย
ด้วยความเชื่อว่ามันจะคลี่คลาย ด้วยมือแห่งผู้คน
ข้าฯ รู้ว่าท่านต่อสู้มานาน ณ กาลครั้งนั้น
การแบ่งชนชั้น ความรังเกียจเดียดฉันท์ อันไร้เหตุผล
ยศช้างขุนนางพระ เพศสภาวะ อัตตา ตัวตน ฯลฯ
เพื่อความผาสุขแห่งมวลมหาชน บนผืนแผ่นดิน

“..ตราบใดที่การข่มเหงกดขี่ ยังคงมีอยู่
การอุทิศตน ดิ้นรนต่อสู้ ย่อมมิรู้สิ้น...”

หรือนี่เป็นวาทกรรมที่เราผลิตซ้ำกันจนชาชิน
จนไม่ได้ยินเสียงความชั่วร้ายภายในตนตัว
ถ้าวันข้างหน้าเราได้พบกัน – ท่านโปรดบอกข้าฯ
ต้องทำเช่นไร จึงปันศรัทธา ไปได้ถ้วนทั่ว
มิใช่เพียงมิตร แต่ต่อศัตรู ที่เราเกลียดกลัว
ต่อคนที่อยู่กันคนละขั้ว..คนละความคิด
ต้องเชื่ออย่างไร จึงจะเข้าใจ ในท้ายที่สุด
มองเห็นความงาม ในความเป็นมนุษย์ ที่มีถูกมีผิด
อ่อนน้อมยอมรับกับความหลากหลายของสรรพชีวิต
เปลี่ยนแปลงศัตรูให้กลายเป็นมิตร ได้ด้วยความรัก..
ต้องคิดอย่างไร จึงมองได้ไกลกว่าความขัดแย้ง
ความล่มสลายในทุกหนแห่ง เราต่างตระหนัก
ต้องพูดอย่างไร ต้องกล้าเพียงใด ที่จะท้วงทัก
ต้องยอมโดดเดี่ยว เพื่อการประจักษ์..นานสักเพียงไร
...........................................
ณ เบื้องบูรพา โพ้นฟ้าพู้นนั้น..ลมตะวันออก
มองจากข้างใน แลไปข้างนอก หมอกจาง..กระจ่าง..ใส
จนกว่าพวกเราจะได้พบกัน – ไม่ว่าวันใด
ข้าฯ จะก่อร่างสร้างผืนดินใหม่ ให้ลูกหลานเราฯ

    

ซะการีย์ยา อมตยา: แสงสว่างในความมืดมิด

คบเพลิงสุดท้าย
พวกคุณขโมยจากเราไป
ดวงไฟส่องทางมืดมน
ยังคงประทับในดวงตา
ไม่มีใครบอกได้ว่า
เราต้องเดินบนเส้นทางนี้
อีกนาน นานเท่าใด

คบไฟสุดท้าย
จะถูกจุดในความมืด
ความคิดจะส่งต่อ
ผ่านความเงียบระงม
สยบยอมก็แต่ความตาย
เมื่อเรายืนยันสิ่งนั้น
สิ่งนั้นจะอยู่กับเรา
ตลอดไปชั่วกาลนาน

คบไฟสุดท้าย
พวกคุณขโมยจากเราไป
เพลิงนั้นจะมอดไหม้
ลุกเริงในความคิดของเรา
โซ่ตรวนแห่งความกลัว
ที่พวกคุณล่ามเราไว้
จักหลอมละลาย
ไม่ใช่ในความฝัน

หากโมงยามหนึ่ง
ในสภาวะพิกลพิการ
ถนนหนทางถูกปิดกั้น
กอปรด้วยความเงียบสงัด
กระป๋องนมหล่นเกลือกกลิ้ง
ปราศจากสุ้มเสียงใดใดสิ้น
คุณหัวเราะไม่มีเสียง
เอากันเสียวเพียงไหน
ไม่มีเสียงครางออกมา
เช้าเย็นคุณยืนตรง
ร้องเพลงเคารพธงชาติ
ด้วยความเงียบสงบ
คุณสดุดีสรรเสริญ
ด้วยความเงียบงัน

หากวันเวลาล่วงผ่าน
สิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต
คือการสะสมความกล้า
ดุจดั่งนักแสวงโชคในเหมือง
ขุดดินด้วยจอบด้วยเสียม
แล้วร่อนแร่เพื่อทำเป็นค้อน
เพื่อทุบทำลายความกลัวในใจตน

ความเงียบของแต่ละคน
ก่อรูปสร้างแนวเป็นกำแพง
ปิดกั้นตัวเองเอาไว้อีกด้าน
จงขจัดความกลัวภายใน
อย่าให้มันกลายเป็นสนิมเกาะกินใจ
กำแพงที่ปกป้องตัวเรา
กลับกลายเป็นกำแพงที่ปิดกั้นผู้อื่น
มันคือที่คุ้มภัย
หรือเพียงสร้างขึ้นเพื่อคุมขังเราไว้

คบไฟสุดท้าย
พวกคุณขโมยจากเราไป

 

รางชาง: พินัยกรรม
 

จะดีร้าย ผมก็ไม่ทันรถไฟเที่ยวนั้นเสียแล้ว
รถไฟบุโรทั่ง...  ที่จะวนกลับมายังจุดเริ่มต้นอยู่ดี
ผมจะยืนรอพี่อยู่ที่นี่

รากหางนกยูงที่ชอนไชหัวใจผมอยู่ตอนนี้
พี่หว่านเพาะมันด้วยอะไร
ผมโตมาด้วยอภิมหานิทานปรัมปรา
สัญญาณโทรเลขของพี่ข้ามกาลเวลามากระท่อนกระแท่น
พี่ต้องกลายเป็นคนพาลในคราบองครักษ์หนุ่ม
ทายาทของพี่กับสมุดปกเหลือง
ไหนเลยจะสั่นคลอนนิยายบนหิ้งบูชา
ไม่ว่าเหรียญตราของผู้แพ้ หรือแอกของผู้ชนะในเวลาถัดมา
ประตูแห่งอิสรภาพก็ยังปิดตายมาถึงตอนนี้มิใช่หรือ

เขาพระสุเมรุกดทับผืนดินที่พี่หว่านไถ
พวกเขาปิดผ้ายันต์สะกดแท่งคอนกรีตกลางราชดำเนิน
การส่งไม้ต่อพลันผิดมือนับแต่สองสี่เก้าศูนย์
หมุดที่ทายาทของพี่ฝังไว้เมื่อย่ำรุ่ง คล้ายจะคลอนโยก...
แล้วพี่ก็ไม่ใช่ผู้แพ้... เพียงลำพังอีกต่อไป....

หนึ่งร้อยปีแล้ว  รถไฟไม่ได้ไปไกลกว่าที่พี่จากมา
นี่คือชะตากรรมที่พี่ไม่เคยรู้
นับแต่การรอมชอมครั้งแล้วครั้งเล่าหลังจากนั้น...
พี่ถูกจองจำ และบ้างก็ตายในคุก
พินัยกรรมมิอาจใช้แทนตั๋วเที่ยวต่อไป...
ผมจะอ่านมันให้พี่ฟังอีกครั้ง

"เพื่อนเอ๋ย กันต้องลาเพื่อนไปเดี๋ยวนี้
ขอฝากลูกของกันไว้ด้วย กันขอฝากไชโย
ถ้าพวกเรายังมีชีวิตได้เห็น”

ร้อยปีแล้วนะครับพี่... ร้อยปีแล้ว
หากพี่ยังอยู่บนรถไฟขบวนนั้นด้วย
ช่วยบอกให้เด็กๆ กระโดดลงมาเถิดครับ
รถไฟบุโรทั่ง...  ที่จะวนกลับมายังจุดเริ่มต้นอยู่ดี
สารถีคือคนของฝ่ายที่พี่เป็นปฏิปักษ์เสียแล้วครับ

สมรภูมิความทรงจำยังเกลื่อนศพ
ความพ่ายแพ้ถีบประตูสู่อรุณรุ่ง
เพื่อจะตะโกนไชโยอย่างขมปากอยู่ซ้ำแล้ว

รถไฟกำลังมาแล้วครับ
ผมจะรอรับร่างของพี่อยู่ที่นี่
ฝังพี่ไว้ที่โคนต้นหางนกยูง
ให้รากของมันได้ดื่มกินความฝันของพี่
ลูกหลานของพี่พร้อมแล้วครับ
พินัยกรรมของพี่มิอาจใช้แทนตั๋วรถไฟ
เราจะเคลื่อนพลเดินเท้าไปพร้อมกัน
 

 

เพียงคำ ประดับความ: ไอแอมเวรี่แฮปปี้: 24 มิถุนา 2557

 

ฉันจะไม่อ่านหนังสือเล่มนั้น
ไม่กินอาหารที่คุณไม่ชอบ
ไม่ชูสามนิ้ว...ไม่ทำตัวนอกกรอบ
ไม่เขียนคำตอบบนกระดาษเอสี่

คุณคืนความสุขฉันอยากขอบคุณ
ท่านผู้นำสมบูรณ์ “ไอแอมเวรี่แฮปปี้”
จะรักชาติยิ่งชีพและจะเป็นคนดี
แต่ขอให้ฉันมี...บ้างได้ไหม “หัวใจ”
(ให้ฉันมีได้ไหม...เศษเสี้ยวความเป็นคน)

ในปีที่ฤดูฝนมาเยือนล่าช้า
บางความฝันถูกฆ่ากลางถนน
ยักษ์ในตะเกียงตะกายออกร่ายมนตร์
เปลี่ยนปืนกลเป็นดอกไม้ในพริบตา

บางนักฝันพร่ำหาผู้มาก่อนกาล
สุกงอมหอมหวานนั้นเกินหวนหา
ชิงสุกก่อนห่ามทำก่อนเวลา
หรือแท้ล่าช้ากว่าปฏิทิน

คุณอยู่ในปีสองสี่เจ็ดห้า
นั่งไทม์แมชีนมาไกลกว่ายุคหิน
สองห้าห้าเจ็ดเผด็จการกัดกิน
ตะโกนไม่ได้ยินอวลกลิ่นความคับแค้น
(ร้องไห้ไม่ได้ยินอวลกลิ่นความแค้นคับ)

เราไม่เคยมีผู้มาก่อนกาล
คุณคือผู้ต้านการหมุนโลกกลับ
ย่ำรุ่งปีนั้นแสงดาวระยับ
ยักษ์ร้ายถูกจับขังในตะเกียง

ในใจคนย่อมมีดอกไม้
ผลิบานอย่างไรในรัตติกาลไร้เสียง
ความสุขกับลูกปืนมิอาจยืนข้างเคียง
ทรงกายอย่างเอียงเอียง...เราเพียงประชาชน

วาด รวี: ลอยฝัน  

 

ขาที่เขาเอาไป สัญญาว่าจะเดินแทน
แขนที่เธอยึดไว้ บอกให้ไว้ใจ
เขาจะเดินแทนฉัน เธอจะแกว่งแขนเรา
สัญญาว่าฉันและเธอจะมีความสุข

ท้องฟ้าไม่ใช่ของเรา
อากาศที่หายใจ มันเบา มันหาย
หาย – ใจ – มัน – หาย – ใจ – มัน – หาย
ตัวของเราหาย หายไปในอากาศ
ฉันและเธอ สิ่งที่ผูกพัน สิ่งที่ผูกเรา
มัน – หาย เธอทำมันหาย ทำมันให้หายไป
มันไม่ใช่การทำร้าย แต่ทำมันให้หายไป
มันทำ มันทำ เธอทำมันหาย
หาย – ใจ, ใจมันหาย อากาศมันเบา
ตัวของฉันหายไปในอากาศ

ลอยฟ้า
ฝันนี้เป็นของฟ้า ท้องฟ้าเป็นของเรา
ไม่มีใครเอาไปได้
เมฆหมอกมืดดำ ทำลายท้องฟ้าไม่ได้

ลอยฟ้า ฝ่าเมฆ
มืดมัวเกลี้ยกล่อมมอมเมา - สัญญา
สิ่งที่ไม่มีใครพรากไปได้
เขาแค่ทำมันหาย
ฉันจะลอยไปหา

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท