4 มิ.ย. 2014 นางอิซาเบล ออร์ทิซ ผู้อำนวยการฝ่ายสวัสดิการสังคมแห่งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เผยผลสำรวจด้านสวัสดิการสังคมทั่วโลก ประจำปี 2014 เมื่อ 3 มิ.ย. พบว่ารัฐบาลอย่างน้อย 122 ประเทศ ได้ประกาศใช้มาตรการประหยัดงบประมาณซึ่งมุ่งเน้นการตัดหรือปรับลดงบประมาณสวัสดิการสังคม รวมถึงในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาราว 82 ประเทศ ส่งผลให้ คนยากจนราว 123 ล้านคนทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข บ่งชี้ว่าแผนตัดงบสวัสดิการสังคมของรัฐบาลทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก

 

นางออร์ทิซระบุว่า รัฐบาลหลายประเทศ โดยเฉพาะสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) บังคับใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเงินกว่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วงปี 2008-2009 เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤติหนี้และวิกฤติการเงิน แต่มิได้ตัดงบด้านสวัสดิการสังคม ทำให้ประชาชนยังมีหลักประกันในด้านต่างๆ แต่นับจากปี 2010 เป็นต้นมา รัฐบาลทั่วโลกต่างมุ่งเน้นแผนประหยัดงบประมาณและตัดงบสนับสนุนด้านสวัสดิการสังคมเป็นอันดับแรก ทำให้ประชาชนไม่ได้รับการคุ้มครองที่จำเป็น โดยเฉพาะในเวลา ที่สถิติผู้ว่างงานทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น และผู้ว่างงานเพียง 12 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังได้รับการคุ้มครองด้านสุขภาพ

 

 

4 มิ.ย. 2014 สื่อท้องถิ่นของจีนรายงาน เมื่อวานนี้ว่า อุบัติเหตุเมืองถ่านหิน "หยานเจียไต๋" ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานด้านพลังงานของรัฐ Chongqing ระเบิดขึ้น เมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ในเหมืองถ่าน อีก 2 คน มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 22 ราย โดยเจ้าหน้าที่บอกเพียงว่า เป็นอุบัติเหตุก๊าซ แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงาน เพิ่มเติมว่า ขณะเกิดเหตุ มีพนักงานปฏิบัติงาน 28 คน พบ 6 คน เตรียมหนีออกจากที่เกิดเหตุ 2 คน ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บ

 

 

4 มิ.ย. 2014 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุ หลังเกิดระเบิดอย่างรุนแรงหลายครั้งและไฟไหม้ที่โรงงานของบริษัทรอยัลดัตช์เชลล์ทางตอนใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่บริษัทชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ว่า ผู้บาดเจ็บอาการไม่สาหัสและว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงพนักงานเปลี่ยนกะ ขณะที่นายจาค คลิจส์ นายกเทศมนตรีเมืองเมอร์ดิจก์ ซึ่งเป็นจุดที่โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่และอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้จากท่าเรือรอตเตอร์ดัม ระบุว่า คนงานทั้งสองรายได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ แต่คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ในเช้าวันนี้ คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากน้ำมันเบนซินรั่ว แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเมธิลเบนซิน หรือเอธิลเบนซิน

 

ด้านสื่อท้องถิ่นอ้างชาวเมืองว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว 2 ครั้งในบริเวณที่ตั้งโรงงานเมื่อเวลา 22.45 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 03.45 น.วันนี้ตามเวลาในไทย พื้นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว สำนักข่าวเอเอ็นพีของทางการเนเธอร์แลนด์รายงานว่า เพลิงขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นจากที่ตั้งโรงงานและเห็นได้ไกลในระยะหลายกิโลเมตร นายกเทศมนตรีเมืองเมอร์ดิคกล่าวว่า ควันจากไฟไหม้ไม่เป็นอันตราย แต่ทางการได้แนะนำให้ประชาชนใกล้เคียงอยู่แต่ในอาคารและปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด

 

โรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ 2,000 ไร่ ผลิตสารเคมีจากน้ำมันเพื่อใช้ผลิตใยสังเคราะห์ สี และสารต้านการเยือกแข็ง และตั้งอยู่ใกล้โรงงานเคมีอีกแห่งหนึ่งซึ่งเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงเมื่อปี 2010

 

 

4 มิ.ย. 2014 ไร่เกษตร 4 แห่งในมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ได้ชดใช้ค่าเสียหาย ในคดีเลือกปฏิบัติอย่างมีอคติลำเอียงต่อเชื้อชาติ เป็นเงินทั้งสิ้น 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 79 ล้านบาท) ภายหลังถูกกล่าวหาว่าเอาเปรียบแรงงานชาวไทยหลายร้อยคน

       

เมื่อปี 2011 คณะกรรมาธิการเพื่อความเท่าเทียมของโอกาสในการจ้างงานแห่งสหรัฐฯ (อีอีโอซี) ได้ยื่นฟ้อง บริษัทจัดหางาน “โกลบัล ฮอริซอนส์” ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และฟาร์มอีก 4 แห่งในมลรัฐฮาวาย ต่อศาลรัฐบาลกลาง ด้วยข้อกล่าวหา เช่น ทำให้แรงงานได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากความมีอคติต่อเชื้อชาติ จัดหาที่พักซึ่งไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จัดหาอาหารไม่เพียงพอ และให้ค่าแรงต่ำกว่ามาตรฐาน ตลอดจนขู่คุกคามจะส่งกลับประเทศ

 

ข้อตกลงระงับคดีที่นำออกเผยแพร่วานนี้ (3 มิ.ย.) ระบุว่า ไร่เกษตร “แม็ค ฟาร์มส์” ของฮาวายจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 52 ล้านบาท), ไร่ “เคเลนา ฟาร์มส์” 275,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9 ล้านบาท), บริษัทกัปตัน คุก คอฟฟี 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 ล้านบาท) และบริษัท เกาไอย์ คอฟฟีจะชดเชยค่าเสียหาย 425,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14 ล้านบาท)

       

เมื่อปีที่แล้ว อีอีโอซีประกาศว่า บริษัท เดล มอนเต เฟรช โพรดิวซ์ ได้ตกลงชดใช้ค่าเสียหาย 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 39 ล้านบาท) ขณะที่แอนนา พัค อัยการเขตลอสแองเจลิส ซึ่งเดินทางไปยังเมืองโฮโนลูลู ในฮาวายพร้อมเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอีกคนหนึ่ง เพื่อประกาศชี้แจงรายละเอียดกรณีการชดใช้ค่าเสียหาย ได้กล่าวว่า บริษัทโกลบัล ฮอริซอนส์ บริษัทเมาอี ไพแนปเพิล และไร่เกษตรแห่งสุดท้ายที่ยังไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายมีกำหนดจะเข้ารับฟังการพิจารณาคดีในเดือนพฤศจิกายนนี้

       

 

5 มิ.ย. 2014 ผลสำรวจล่าสุดโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) ระบุว่า ค่าเฉลี่ยรายได้รายสัปดาห์ของลูกจ้างออสเตรเลียสำหรับงานหลัก อยู่ที่ 950 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (881 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งร่วงลง 2% และเป็นครั้งแรกที่ค่าแรงออสเตรเลียปรับตัวลดลงนับตั้งแต่ปี 2008

 

นายมานพรีท ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่าย Labor Force and Supplementary Surveys ของ ABS กล่าวว่า ผลการสำรวจพิจารณาที่รายได้รายสัปดาห์ของลูกจ้าง สิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับเงินเมื่อลางาน และสมาชิกภาพของสหภาพแรงงาน นายซิงห์กล่าวอีกว่า 24% ของลูกจ้าง ซึ่งไม่รวมผู้จัดการที่เป็นเจ้าของบริษัทนั้น ไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับเงินเมื่อลางานในงานหลัก

 

ผลการสำรวจยังชี้ว่า 17% หรือลูกจ้าง 1.7 ล้านคน เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในงานหลัก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี โดยสัดส่วนนี้เป็นไปตามการปรับตัวลงโดยทั่วไปของการเป็นสมาชิกในสหภาพแรงงานในช่วงหลายปีมานี้ นายซิงห์เสริมว่า "จากจำนวนลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะได้รับเงินเมื่อลางานนั้น จำนวน 6% เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน เมื่อเทียบกับลูกจ้าง 22% ที่มีสิทธิได้รับเงินเมื่อลางาน ขณะที่สมาชิกสหภาพแรงงานในภาครัฐมีจำนวนมากกว่า โดยมีลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหภาพ 42% เมื่อเทียบกับภาคเอกชนที่มีลูกจ้างเป็นสมาชิกสหภาพ 12% สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

6 มิ.ย. 2014 บริษัท General Motors ค่ายผลิตรถชื่อดังของสหรัฐไล่พนักงาน 15 คนพ้นตำแหน่ง พร้อมลงโทษทางวินัยอีก 5 คน โทษฐานไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลความผิดปกติของสวิตช์กุญแจ หลังตรวจสอบกรณีเรียกคืนรถ 2.6 ล้านคัน ปัญหานี้เป็นเหตุให้มีผู้ใช้รถเสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ซึ่งบริษัทจะตั้งโครงการจ่ายเงินชดใช้ให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

 

 

7 มิ.ย. 2014 Softbank ผู้ให้บริการเครือข่ายอันดับ 3 ของญี่ปุ่น เตรียมนำหุ่นยนต์มาใช้เป็นพนักงานต้อนรับลูกค้าหน้าร้าน ดดยหุ่นยนต์ตัวนี้มีชื่อว่า Pepper เป็นหุ่นยนต์รุ่มใหม่ที่พัฒนาโดย Aldebaran บริษัทจากฝรั่งเศส โดย Pepper เป็นหุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่แสดงอารมณ์ได้ โดยมันจะโต้ตอบกับคนโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่เชื่อมต่อกับระบบ cloud ซึ่งข้อดีก็คือ ทุกครั้งที่หุ่นตัวใดตัวนึงปฏิสัมพันธ์กับคนหรือลูกค้า หุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ก็จะเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันด้วย

 

Pepper เป็นหุ่นฮิวแมนนอยด์ขนาดเล็ก มีการติดตั้แท็บเล็ตเอาไว้ตรงอก ซึ่งลูกค้าสามารถจิ้มจอเพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการ รวมถึงให้เจ้า Pepper แสดงสิ่งต่างๆ ให้กับผู้คน มันเอาไว้ต้อนรับและสื่อสารกับคนจึงไม่มีขาสำหรับเคลื่อนที่ แต่ใช้แขนในการแสดงท่าทางและทักทายแทน นอกจากนี้มันยังสามารถร้องเพลงและเต้นรำแบบครึ่งตัวได้ด้วย Pepper จะถูกนำมาใช้ต้อนรับลูกค้าสองสาขาในโตเกียวก่อน โดยจะเริ่มให้บริการวันแรก 6 มิถุนายนนี้ ส่วนใครอยากจับจองเป็นเจ้าของ เขาจะเริ่มขายจริงปีหน้า สนนราคาอยู่ที่ 200,000 เยนหรือประมาณ 66,000 บาทค่ะ

 

นอกจากใช้ต้อนรับแล้ว อีกอุตสาหกรรมที่ใช้ประโยชน์ได้ก็คือการแพทย์ ปัจจุบันญี่ปุ่นมีสัดส่วนของประชากรสูงอายุมากขึ้น หุ่นยนต์จึงเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขาดแคลนพยายาลที่คอยดูแลผู้สูงอายุ  มูลค่าตลาดหุ่นยนต์ของญี่ปุ่นเมื่อปี 2012 อยู่ที่  860,000 ล้านเยน ตลาดจะโตขึ้นสามเท่าภายในปี 2020 โดย Pepper ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดโตขึ้น

 

 

8 มิ.ย. 2014 บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายรถไฟใต้ดินในเมืองเซาเปาโล บราซิล และจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก ยืนยันว่า เส้นทางรถไฟที่รับผิดชอบอยู่ทั้งหมด 5 สายยังสามารถเปิดให้บริการได้ปกติ โดยที่บางส่วนใช้งานได้บางช่วง หลังพนักงานยังคงนัดผละงานประท้วงเพื่อขอขึ้นค่าจ้างเป็นวันที่ 3 แล้ว

 

ด้านโฆษกหญิงสหภาพแรงงานรถไฟใต้ดิน เปิดเผยว่า เส้นทางรถไฟอยู่ในการดูแลของฝ่ายบริหารและพนักงานใหม่ พร้อมระบุชัดว่า การผละงานครั้งนี้จะไม่ยุติจนกว่าจะได้ขึ้นค่าแรงตามที่เรียกร้องร้อยละ 12.2 จากเดิมที่เรียกร้องที่ร้อยละ 16 แต่ทางบริษัทยืนยันว่าสามารถเพิ่มค่าแรงได้เต็มที่ที่ร้อยละ 8.7

 

การผละงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นสภาพปัญหาที่อาจเป็นอุปสรรคต่อวันเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่เมืองเซาเปาโลวันพฤหัสบดี ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ชาวเมืองเซา เปาโลกว่า 3.5 ล้านคนต่างประสบปัญหาชุลมุนวุ่นวายในการใช้บริการที่มีอยู่อย่างจำกัด

 

ศาลแรงงานแห่งเซาเปาโลมีกำหนดจะพิจารณาว่าการผละงานประท้วงครั้งนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่วันนี้  โดยการผละงานประท้วงของพนักงานรถไฟใต้ดิน สร้างความวิตกให้กับทางการบราซิลอย่างมาก เพราะแฟนบอลส่วนใหญ่เดินทางมาสนามด้วยระบบรถไฟใต้ดินเป็นหลัก

 

 

8 มิ.ย. 2014 ภาวะประหลาดภายใต้คำนิยาม "Xenophobia" หรือความเกลียดกลัวคนต่างชาติ ที่กำลังประสบในประเทศเจ้าแห่งทะเลอย่าง "สิงคโปร์" เริ่มขยายความหวาดกลัวท่ามกลางชาวสิงคโปร์ที่มาพร้อมกับความเสี่ยงในการถูกแย่งงาน จากกลุ่มแรงงานต่างชาติที่หลั่งไหลเข้าประเทศในอัตราที่สูงขึ้นปีต่อปี ขณะที่รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ยืนยันภาวะดังกล่าวไร้ผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศพร้อมย้ำว่ายังคงเตรียมความพร้อมรับการเปิดเสรีทางการค้ากับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายเค ชันมูกัม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกฎหมายสิงคโปร์ กล่าวถึงกรณีภาวะการเกลียดกลัวชาวต่างชาติ หรือที่เคยได้ยินว่า "อาการกลัวคนแปลกหน้า" ที่ชาวสิงคโปร์กำลังเผชิญอยู่ ปัจจุบันยังไม่ส่งสัญญาณเชิงลบต่อการลงทุนจากต่างประเทศแต่อย่างใด เนื่องจาก อาการดังกล่าวยังพบเห็นเฉพาะคนกลุ่มน้อยในประเทศเท่านั้น 

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ วัย 55 ปี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทจำนวนมากในสิงคโปร์เริ่มมีการปรับตัวเกี่ยวกับการจ้างงานจากแรงงานต่างชาติมากขึ้น หลังจากที่ผลสำรวจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศแสดงจุดยืนถึงความไม่พอใจเกี่ยวกับการแข่งขันกับชาวต่างชาติที่นับวันยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ล่าสุดนายกรัฐมนตรีแห่งสิงคโปร์ลี เซียน หลุง เปิดเผยว่า การต่อต้านแรงงานต่างชาติจากชาวสิงคโปร์ ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อรองรับแรงงานต่างชาติในประเทศที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นราว 3 เท่า โดยทุ่มงบประมาณกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ แต่กลับต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

 

สิงคโปร์ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดแต่กลับอยู่ในสถานภาพเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มอาเซียน ดังนั้น การบริหารนโยบายของภาครัฐถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญอย่างมากในการจัดการระบบภายใต้กรอบ "ทางสายกลาง" หรือการรักษาความสมดุลระหว่างความต้องการของบริษัท และความกังวลของประชาชนของตนเอง เพราะหากรัฐบาลไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีพอในการสร้างความเข้าใจต่อการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานต่างชาติที่เริ่มส่งผลกระทบร้ายแรงที่สุดต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ได้ รวมถึงตัวเลขการว่างงานในประเทศที่อาจสูงขึ้นด้วย นายชันมูกัมกล่าว

 

ขณะที่หอการค้าต่างประเทศทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป กล่าวแสดงความกังวลเกี่ยวกับการแก้ไขนโยบายทางด้านแรงงานต่างชาติในสิงคโปร์ว่า อาจสร้างความเสียหายและทำร้ายเศรษฐกิจในเอเชียได้ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่น่าดึงดูดสำหรับแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการค่าตอบแทน โดยภายในปีนี้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในเอเชียจะขยายการเติบโตราว 2-4% แต่อัตราการว่างงานของสิงคโปร์มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงราว 2.1% หากเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนอยู่ที่ 1.8%

 

การต่อต้านข้อเสนอของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะเพิ่มประชากรในประเทศจาก 5.4 ล้านคน เป็น 6.9 ล้านคน ภายในปี 2573 เพื่อรองรับความต้องการทางด้านตลาดแรงงานในประเทศ อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการกลัวคนแปลกหน้านั้นเริ่มรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีที่นำเสนอผลสำรวจโดยสถาบันการศึกษานโยบาย (Institute of Policy Studies) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลสิงคโปร์พบว่า พลเมืองและผู้พำนักถาวรเกินกว่า 30% รู้สึกว่าขุ่นเคืองใจกับความเป็นชาตินิยมในสังคมสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูงถึง 55,183 ดอลลาร์สหรัฐ

 

เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า การโจมตีแรงงานชาวเอเชียใต้ในสิงคโปร์ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและก้าวร้าวบนสื่อออนไลน์ เพื่อแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้รัฐบาลสิงคโปร์แก้ไขนโยบายที่ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม และสร้างความคับข้องใจต่อพลเมืองท้องถิ่นด้วยความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมในอนาคต หลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปีหน้า กลุ่มต่อต้านชาวสิงคโปร์กล่าวโทษว่า "ชาวต่างชาติกำลังจะสร้างความเสื่อมโทรมในสังคม" เช่น ความแออัดของแหล่งที่อยู่อาศัย การถูกแย่งงาน รวมถึงการแย่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศด้วย ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหวเชื่อว่า

 

นโยบายที่เปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศได้อย่างเสรี เช่น การให้ใบอนุญาตเข้ามาเป็นแรงงานก่อสร้าง หรือทำงานในภาคส่วนอื่น ๆ จะก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมสำหรับแรงงานที่เป็นเจ้าของประเทศเสียเอง แม้ปัญหาความเกลียดชังชาวต่างชาติในสิงคโปร์จะรุนแรงขึ้นกระทั่งนักลงทุนในประเทศสามารถรับรู้ได้ แต่นายเค ชันมูกัม ยังมั่นใจว่า ศักยภาพด้านการลงทุนว่าด้วยเรื่องของกฎหมายป้องกันทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมายแรงงานที่มีคุณภาพสูง ยังเป็นข้อได้เปรียบของสิงคโปร์ รวมถึงมาตรการการป้องกันของรัฐบาลที่ยังเด็ดขาด

 

 

9 มิ.ย. 2014 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ว่า สหภาพคนงานรถไฟใต้นครเซาเปาลู ประเทศบราซิล มีมติเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะประท้วงผละงานเพื่อเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงต่อไป โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัด ภายหลังศาลแรงงานเรียกร้องให้พวกเขากลับไปทำงาน และสั่งปรับสหภาพคนงานฯ เป็นเงินจำนวนมาก เนื่องจากใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ

 

การประท้วงของคนงานรถไฟใต้ดินเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. โดยเหล่าคนงานเรียกร้องให้บริษัทผู้ให้บริการรถไฟของรัฐ ขึ้นค่าแรงพวกเขา 12.2% แต่ทางบริษัทเสนอจะขึ้นให้เพียง 8.7% เท่านั้น ทำให้ผู้ประท้วงตัดสินใจยืดเวลาการผละงาน ส่งผลให้นครเซาเปาลูต้องเผชิญกับการจราจรติดขัดอย่างหนัก จนนำไปสู่เหตุปะทะระหว่างพนักงานรถไฟใต้ดินกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.)

 

เมื่อวันอาทิตย์ ผู้พิพากษาศาลแรงงานนครเซาเปาลู ตัดสินว่าเหล่าคนงานทำผิดกฎการประท้วงผละงาน โดยไม่ให้บริการขั้นต่ำ คือต้องให้บริการรถไฟอย่างน้อย 70% ช่วงระหว่างวัน และต้องให้บริการเต็ม 100% ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็น และมีคำสั่งให้ปรับเงิน สหภาพคนงานรถไฟใต้นครเซาเปาลู เป็นเงิน 100,000 เรอัล (ราว 1.4 ล้านบาท) ต่อวัน สำหรับการประท้วงในวันที่ 5 - 8 มิ.ย. และจะปรับ 500,000 เรอัล (ราว 7.2 ล้านบาท) ต่อวัน สำหรับการประท้วงตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.เป็นต้นไป

 

หลังจากศาลแรงงานมีคำสั่งไม่กี่ชั่วโมง สหภาพคนงานรถไฟใต้นครเซาเปาลู ก็โหวตลงคะแนนเสียง และมีมติประท้วงผละงานต่อไป จนกว่าบริษัทเจ้าของรถไฟใต้ดินจะทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา โดยนายอัลติโน ปราเซเรส ประธานสหภาพฯ ยืนยันว่า พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะประท้วงจนการแข่งขันฟุตบอลโลกเริ่มการแข่งขัน พวกเขาตั้งใจจะแก้ปัญหา และนั่นน่าจะเป็นเป้าหมายของรัฐบาลเช่นกัน

 

ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ โดยคู่เปิดสนามคือการแข่งขันระหว่างนักฟุตบอลทีมชาติบราซิลกับประเทศโครเอเชีย ที่สนาม 'อิตาเกวราโอ' หรือ 'อารีนา โครินเธียนส์' ซึ่งเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่บริเวณชานเมืองของนครเซาเปาลู และการเดินทางไปสนามแห่งนี้โดยไม่มีระบบขนส่งสาธารณะจะเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับแฟนบอลและผู้เกี่ยวข้อง

 

 

10 มิ.ย. 2014 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าพนักงานรถไฟใต้ดินเมืองเซาเปาโล (Sao Paulo) ของบราซิล โดยการนำของสหภาพแรงงานได้หยุดประท้วงชั่วคราวเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 มิ.ย.) หลังประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แล้วเพื่อเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้น หลังจากหลายฝ่ายเริ่มจับตาและมีความกังวลใจผลกระทบต่อมหกรรมฟุตบอลโลกที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. นี้

 

ทั้งนี้สหภาพแรงงานจะประชุมเพื่อโหวตกันอีกครั้งในวันพุธนี้ (11 มิ.ย.) ว่าจะยังคงดำเนินการนัดหยุดงานประท้วงต่อไปอีกหรือไม่ ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ตำรวจเซาเปาโลได้ปะทะกับกลุ่มสหภาพแรงงาน มีการยิงแก๊สน้ำตาและผลักดันพนักงานที่ประท้วงประมาณ 100 กว่าคน หลังจากศาลระบุว่าการนัดหยุดงานประท้วงครั้งนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย 

 

โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 มิ.ย.) ศาลแรงงานของบราซิลได้ตัดสินว่าการประท้วงของพนักรถไฟใต้ดินนั้นผิดกฎหมาย และได้ลงโทษปรับสหภาพแรงงานเป็นเงิน 175,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการประท้วง 4 วันแรก (วันที่ 5-8 มิ.ย.) และจะเพิ่มค่าปรับขึ้นวันละ 220,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากการประท้วงยังไม่ยุติ รวมทั้งออกคำสั่งให้พนักงานกลับเข้าทำงาน ขณะที่บริษัทรถไฟใต้ดินได้ส่งหนังสือไล่คนงานออกแล้ว 60 คนแล้ว

 

ข้อเรียกร้องของการประท้วงครั้งนี้ของพนักงานรถไฟใต้ดินเซาเปาโลก็คือ ต้องการให้บริษัทรถไฟใต้ดินซึ่งเป็นของรัฐบาลขึ้นค่าแรง 12.2 % หรือเกือบ 2 เท่าของอัตราเงินเฟ้อ แต่บริษัทเสนอที่จะขึ้นค่าแรงให้เพียง 8.7 %

 

อนึ่งเซาเปาโล เป็นเมืองใหญ่อันดับ 1 ของบราซิล มีประชากร 20 ล้านคน ขณะที่ประเมินว่ามีผู้ใช้รถไฟใต้ดินวันละ 5 ล้านคน และในวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) นี้เมืองเซาเปาโลจะจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามระหว่างทีมบราซิลกับโครเอเชียที่สนามกีฬา Arena Corinthians 

 

 

13 มิ.ย. 2014 พนักงานการรถไฟฝรั่งเศส ชุมนุมประท้วงต่อต้านแผนแปรรูปเป็นบริษัทเอกชน และมีการนัดหยุดงานประท้วง ส่งผลกระทบให้ต้องหยุดวิ่งรถไฟทั่วประเทศครึ่งหนึ่ง

 

พนักงานการรถไฟออกมาชุมนุมประท้วงใกล้กระทรวงคมนาคม ในกรุงปารีส หลังรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมฝรั่งเศส ประชุมกับตัวแทนสหภาพแรงงาน เมื่อเช้าวานนี้ แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ และทำให้สหภาพแรงงานตัดสินใจ นัดหยุดงานประท้วงต่ออีก 24 ชั่วโมง ถึง 19.00 น.วันนี้

 

การนัดหยุดงานประท้วงส่งผลทำให้ตารางเดินรถไฟทั่วประเทศฝรั่งเศส ต้องปั่นป่วนหนักที่สุดในรอบหลายปี โดยเหลือรถไฟท้องถิ่นที่ยังให้บริการแค่ 1 ใน 3 ขณะที่รถไฟความเร็วสูง ยูโรสตาร์ และตาลิส กลับมาให้บริการได้ตามปกติ 

 

ทั้งนี้ สหภาพแรงงานต้องการให้รัฐบาลล้มแผนแปรรูปการรถไฟเป็นบริษัทเอกชนโดยแยกหน่วยงานบริหาร ระหว่างผู้ให้บริการเดินรถไฟ กับเครือข่ายทางรถไฟ ซึ่งพนักงานรถไฟไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้รวมกันอย่างเต็มรูปแบบเหมือนช่วงก่อนปี 1997 พร้อมกับขอให้รัฐบาลช่วยรับภาระหนี้สินบางส่วน จากทั้งหมด 40,000 ล้านยูโรไปด้วย ซึ่งรัฐสภาฝรั่งเศส มีกำหนดจะอภิปรายกฎหมายปฏิรูปทางรถไฟในสัปดาห์หน้า

 

 

17 มิ.ย. 2014  พนักงานรถไฟในฝรั่งเศสผละงานเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้วในวันนี้ เป็นการผละงานนานที่สุดในรอบหลายปี ขณะที่สมาชิกรัฐสภาเตรียมอภิปรายมาตรการปฏิรูปเพื่อลดหนี้สินที่เป็นชนวนให้พนักงานรถไฟผละงาน

 

การผละงานมีขึ้นในขณะที่ฤดูท่องเที่ยวในฝรั่งเศสกำลังเข้าสู่ช่วงคึกคักที่สุด การรถไฟได้จ้างพนักงานเพิ่มอีก 10,000 คนเพื่อดูแลผู้โดยสารและผู้สัญจรที่ได้รับผลกระทบ โดยในวันนี้จะมีรถไฟให้บริการเฉลี่ยร้อยละ 60 ถือว่าเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา

 

ด้านรัฐสภาจะเปิดการอภิปรายไปจนถึงวันพฤหัสบดีเรื่องมาตรการปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินของการรถไฟที่สูงกว่า 40,000 ล้านยูโร (กว่า 1.8 ล้านล้านบาท) และจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในปี 2025 หากไม่มีการแก้ไขใด ๆ มาตรการปฏิรูปจะควบรวมบริษัทการรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส (เอสเอ็นซีเอฟ) ซึ่งเป็นผู้บริหารรถไฟ กับเครือข่ายการรถไฟฝรั่งเศส (อาร์เอฟเอฟ) ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายการรถไฟทั่วประเทศและจะเปิดให้มีการแข่งขันบริการรถไฟบางส่วน สหภาพแรงงานบางแห่งยอมลงนามอนุมัติมาตรการปฏิรูปหลังจากรัฐบาลรับปากในหลายเรื่อง แต่ยังมีสหภาพแรงงานสองแห่งที่คัดค้านโดยอ้างว่ามาตรการนี้จะทำให้คนตกงานแต่ไม่สามารถลดหนี้สินลงได้

 

 

23 มิ.ย. 2014  เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เซินจี๊ รายงานว่า ฝ่าม มีง ต่วน ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท FPT-IS บริษัทเทคโนยีสารสนเทศชั้นนำในเวียดนามที่มีสาขาใน 18 ประเทศ และเขตแดนทั่วโลก เพิ่งออกประกาศคำสั่งสำนักงาน ห้ามพนักงานทุกคนนอนกลางวันภายในบริษัท

       

ต่วน อ้างเสียงตอบรับจากลูกค้าของบริษัทในสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ที่ระบุว่า พวกเขารู้สึกตกใจเมื่อเห็นพนักงานชาวเวียดนามนอนกลางวันในสำนักงาน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกสำหรับพวกเขา

       

ต่วน กล่าวว่า ในกระบวนการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศระดับโลก เวียดนามกำลังเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงจากอินเดีย และจีน ทั้งในแง่ของเทคนิคและวัฒนธรรม และเพื่อที่จะชนะสัญญาจากคู่ค้าต่างชาติ พนักงานเวียดนามควรเลิกนิสัยการนอนกลางวัน

       

ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเวียดนามอีกฉบับหนึ่งรายงานอ้างคำกล่าวของซีอีโอบริษัทกรีน สแตนดาร์ด ที่ระบุว่า สนับสนุนการตัดสินใจของบริษัท FPT-IS โดยมองว่าการนอนหลับในสำนักงานไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของบริษัท

       

ชาวเน็ตเวียดนามจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำสั่งห้ามนอนกลางวันในสำนักงานกันอย่างหลากหลาย

       

ชาวเวียดนามคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นสนับสนุนการห้ามนอนกลางวันในที่ทำงาน และเสริมว่าใครที่ต้องการนอนพักช่วงเที่ยงวันสามารถกลับไปพักที่บ้าน หรือเช็กอินโรงแรม หรือไม่ก็ที่สวนสาธารณะ

       

ส่วนอีกด้านหนึ่ง พนักงานของบริษัท FPT-IS บางส่วน กล่าวว่า ควรอนุญาตให้มีการนอนกลางวันเป็นเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเที่ยงวัน ที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะพวกเขารู้สึกสดชื่นขึ้นหลังได้นอนพัก 10-15 นาที

 

 

24 มิ.ย. 2014 เหล่าสายการบินต่างๆ จำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากท่าอากาศยานหลักของกรุงปารีสและทางใต้ของฝรั่งเศสหลายสิบเที่ยวเมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการสัญจรทางอากาศ เริ่มต้นประท้วงยืดเยื้อ 6 วัน คัดค้านการจัดสรรงบระมาณที่ไม่เพียงพอกับความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงขนานใหญ่

       

การหยุดงานครั้งนี้มีขึ้นในช่วงพีกสุดของฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศที่ดึงดูดผู้มาเยือนต่างชาติมากกว่าชาติไหนๆ และมีขึ้นหลังจากการประท้วงของพนักงานการรถไฟที่ก่อผลกระทบต่อการให้บริการทั้งภายในและระหว่างประเทศ และยังคงประท้วงกันอยู่ในบางพื้นที่จนถึงตอนนี้

       

หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินพลเรือนของฝรั่งเศสเปิดเผยว่าราว 1 ใน 5 ของเที่ยวบินจากเมืองใหญ่ๆทางใต้ของประเทศหรือไม่ก็จากกรุงปารีส มุ่งหน้าสู่ทางใต้ อย่างสเปน โปรตุเกส โมร็อกโก ตูนิเซียและแอลจีเรีย ถูกยกเลิก ขณะเดียวกันเหล่าผู้โดยสารก็ต้องประสบปัญหาล่าช้าในด้านบริการอื่นๆ ด้วย

       

หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินพลเรือนแห่งนี้ คาดหมายด้วยว่าจะมีเที่ยวบินราวร้อยละ 20 ของทุกสนามบินข้างต้น ถูกยกเลิกในวันพรุ่งนี้ (วันพุธ 25 มิ.ย.) เนื่องจากเหตุผละงานประท้วงจะดำเนินไปจนถึงวันอาทิตย์ (29) พร้อมเตือนว่าผู้โดยสารไม่ควรเดินทางไปยังท่าอากาศยานหากไม่มีคำรับประกันว่าเที่ยวบินของพวกเขาจะได้ออกเดินทางตามกำหนดเดิม

       

ไรอันแอร์ ที่ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 96 เที่ยวในวันอังคาร (24) ตำหนิการประท้วงและเรียกร้องคณะกรรมาธิการยุโรปถอดถอนสิทธิ์การผละงานของพนักงานควบคุมการสัญจรทางอากาศของยุโรป ที่ครั้งหนึ่งเคยพยายามกระโชกลูกค้าทั่วไปด้วยการประท้วง ขณะที่กลุ่มสายการบินของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ก็ประณามการประท้วงครั้งนี้เช่นกัน

       

อีซีย์เจ็ตยกเลิกเที่ยวบิน 28 เที่ยว ส่วนบริติชแอร์เวย์สบอกว่ามี 8 เที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเที่ยวบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ส่วนใหญ่ ยังคงให้บริการได้ตามปกติ ด้วยมีเที่ยวบินระยะสั้นและระยะกลางเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่ต้องยกเลิก

       

ไม่ใช่พนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศทุกคนที่เข้าร่วมผละงาน แต่พวกที่เข้าร่วมประท้วงได้คัดค้านสิ่งที่พวกเขาบอกว่ามีการจัดสรรงบระมาณที่ไม่เพียงพอสำหรับหอควบคุมการบิน ซึ่งพวกเขาอ้างว่าจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัย

       

พวกเขาต้องการให้สนามบินเก็บค่าบริการจากสายการบินต่างๆเพิ่มอีกร้อยละ 10 แต่ทางบริษัทอยากให้ปรับลดราคาลงมา ทั้งนี้แม้ทางรัฐบาลพยายามเข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ทว่าก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้

       

SNCTA สหภาพหอควบคุมการบินใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ตัดสินใจไม่เข้าร่วมประท้วงตามหลังความพยายามเจรจาครั้งสุดท้ายกับรัฐบาล แต่ก็สะท้อนถึงความกังวลต่อเครื่องไม้เครื่องมือด้านการเดินอากาศอันล้าสมัยของประเทศ ด้วยมีอายุการใช้งานมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 และจำเป็นต้องมีระบบใหม่เข้ามาทดแทน

 

 

26 มิ.ย. 2014 สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างสำนักงานจัดหางานแห่งชาติกัมพูชาว่า ขณะนี้มีตำแหน่งงานว่าง 16,146 ตำแหน่ง สำหรับแรงงานที่เดินทางกลับจากไทยเมื่อเร็วๆ นี้

 

สำนักงานจัดหางานกัมพูชาระบุว่า ตำแหน่งงานว่าง 16,146 ตำแหน่ง อยู่ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและบริการ พร้อมกันนี้ ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับงาน สถานที่ และหมายเลขโทรศัพท์ในการติดต่อ

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายอิธ สัมเฮง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกัมพูชาได้เรียกประชุมกับผู้แทนของบริษัทจัดหางานราว 40 แห่ง เพื่อกำหนดระเบียบขั้นตอนในการส่งแรงงานกลับไปทำงานในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากเมื่อต้นเดือนนี้ มีแรงงานชาวกัมพูชากว่า 232,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ไม่มีเอกสารโดยถูกต้อง พากันเดินทางกลับจากไทย

 

 

26 มิ.ย. 2014 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นางคาเรน วิซินสก้า ได้ซื้อกางเกงขายาวมาจากร้านพรีมาร์ก ในเบลฟาสต์ ไอแลนด์เหนือในปี 2554 แต่เธอไม่เคยนำมาสวมใส่จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงหยิบมาสวมใส่และพบข้อความในกระดาษ ซึ่งเป็นกระดาษประจำตัวของผู้ต้องขัง ด้านในกระเป๋ากางเกงขายาวในข้อความทำนองว่า มีการบังคับใช้แรงงาน 15 ชั่วโมงต่อวันในการตัดเย็บเสื้อ

 

นางวิซินสกี้กล่าวว่า ข้อความทั้งหมดเป็นภาษาจีน แต่สังเกตุจากคำว่า Sos ที่อยู่ด้านบนของกระดาษจึงเกิดความสงสัยจึงถ่ายภาพข้อความดังกล่าวและนำขึ้นบนหน้าเฟซบุ๊ก จากนั้นเธอได้รับการแปลอย่างคร่าว ๆ โดยมีใจความว่า "SOS SOS SOS! เราเป็นนักโทษในเรือนจำเซียงนาน มณฑลเหอเป่ย เราถูกใช้ให้ผลิตเสื้อเพื่อส่งออกมาเป็นเวลานาน เราทำงาน 15 ชั่วโมงต่อวัน อาหารสำหรับพวกเราแย่ยิ่งกว่าอาหารหมูกับหมา เราทำงานหนักเหมือนวัวกับม้า"

 

"รู้สึกตกใจมากที่พบกระดาษข้อความอยู่ในกระเป๋ากางเกงขายาวจากพรีมาร์กและรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าข้อความในกระดาษมาจากการใช้แรงงานทาสในจีน"นางวิซินสกี้กล่าว

 

ทั้งนี้เรื่องอือฉาวที่เกิดขึ้น สร้างความแปลกใจให้กับทางพรีมาร์ก โดยทางด้านโฆษกของร้านขายเสื้อจากอังกฤษ ชี้แจงว่า กางเกงขายาวล็อตสุดท้ายที่ขายในเบลฟาสต์ อยู่ในปี 2552 ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ทางพรีมาร์กจะติดต่อกับลูกค้าเพื่อนำกางเกงตัวดังกล่าวมาสืบหาเบาะแสต่อไป

 

ทั้งนี้พรีมาร์กยืนยันว่าไม่เคยใช้แรงงานเยี่ยงทาสหรือแรงงานในเรือนจำ รวมไปถึงแรงงานเด็ก โดยทางพรีมาร์กได้ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของลูกจ้างที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา

 

 

26 มิ.ย. 2014 เว็บไซด์ของเดอะการ์เดียน ได้ตีพิมพ์ข้อความของ นายเควิน เกรซ ผู้อำนวยการด้านการพาณิชย์และเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติเชิงพาณิชย์ในตในการสรรหาวัตถุดิบจากทั่วโลกของกลุ่มเทสโก้ กล่าวว่า การกดดันร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตให้หยุดสั่งสินค้าจากผู้ผลิตสินค้าที่ฝ่าฝืนกฏหมายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่กลุ่มเทสโก้กลับมองไปข้างหน้าในการหยุดปัญหาแรงงานทาสมากกว่าการทำประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของบริษัทเพียงเพื่อหวังผลระยะสั้นด้วยวิธีการดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเทสโก้ไม่ตัดสินใจเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตรายอื่น ในการหยุดการสั่งซื้อสินค้าและวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสบนเรือประมงไทยที่มีการละเมิดสิทธิของแรงงานต่างด้าวเหล่านั้น เทสโก้มุ่งมั่นที่จะหยุดการใช้แรงงานตามวิถีทางและศักยภาพของกลุ่มที่เป็นแนวทางที่แตกต่างออกไป 

 

นายเควิน กล่าวต่อไปว่า เทสโก้รับทราบเรื่องการละเมิดเงื่อนไขแรงงานสากลและการปฏิบัติกับแรงงานมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากในการที่จะสืบไปจนถึงต้นตอของห่วงโซ่การผลิตสินค้าและวัตถุดิบ การใช้แรงงานบนเรือประมงเพื่อนำปลาที่ได้ไปผลิตปลาป่น เพื่อนำปลาป่นไปเลี้ยงกุ้ง และนำกุ้งไปส่งออก  อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยทำฟาร์มกุ้งซึ่งเป็นการเลี้ยงกุ้งในบ่อดิน และกุ้งจากฟาร์มก็ถูกส่งต่อไปยังโรงงานเพื่อแปรรูปตามลำดับ

 

เทสโก้ ยังได้ยกกรณีตัวอย่างจากเหตุการณ์ตึกรานา พลาซ่า ถล่ม ซึ่งเป็นตึกที่มีการผลิตสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มในบังคลาเทศทำให้คนงานเสียชีวิต คนงานเหล่านั้นเป็นเสาหลักของหลายล้านครอบครัวที่จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการเรียกร้องให้ตัวแทนสรรหาสินค้าจากต่างประเทศถอนตัวจากบังคลาเทศ แม้เทสโก้จะไม่ได้รับสินค้าจากนารา พลาซ่า แต่ทางกลุ่มนับเป็นผู้ค้าปลีกรายแรกของอังกฤษที่ลงนามในสัญญาร่วมกับผู้ค้าปลีกและสหภาพทั่วโลกในการตั้งเกณฑ์มาตรฐานสำหรับความปลอดภัยในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งหุ่มของบังคลาเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อแรงงานและครอบครัวของพวกเขา  เทสโก้มีการพิจารณาหลายด้านไม่ใช่ตัดขาดการทำธุรกิจทันทีหรือทำการประชาสัมพันธ์เพื่อหวังผลระยะสั้น แต่กลุ่มเทสโก้ต้องปฏิบัติตามหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งคนและผู้ผลิตสินค้าวัตถุดิบด้วย

 

นายเควิน กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยเกี่ยวกับแรงงานทาสมีความแตกต่างกันในหลายด้าน แต่หลักการปฏิบัติของกลุ่มเทสโก้ยังคงเหมือนกัน เรามีโอกาสปรับปรุงให้สถานการณ์ดีขึ้นและต้องรับผิดชอบต่อสังคม ในกรณีของประเทศไทยปัญหาที่เราต้องแก้ใขคือจะรวบรวมวัตถุดิบในการทำปลาป่นได้อย่างไร  ปัจจุบันประมาณร้อยละ 10 ของปลาป่นที่ใช้ทำอาหารกุ้งทำมากจากปลา และเราเชื่อว่าประมาณร้อยละ 70 ของปลาพวกนั้นถูกจับในสภาพที่มีการตรวจสอบและได้รับการรับรอง เทสโก้กำลังทำงานร่วมกับผู้ส่งสินค้าวัตถุดิบเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถทำให้ปลาป่นเหล่านั้นได้รับการรับรองทั้งหมดโดยเร็วที่สุด

 

นอกจากนี้ เทสโก้ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานนานาชาติ เช่น NGO, สมาคมผู้ค้าปลีกและองค์กรต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงกดดันร่วมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงการผลิตในอุตสาหกรรมทั้งหมดให้ดีขึ้น

 

 

 

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ประชาไท, ครอบครัวข่าว, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, สำนักข่าวไทย, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐออนไลน์, เดลินิวส์, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์