กรีนพีซค้านขยายทาง 304 ชี้ทำลายคุณค่า ‘ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่’

แถลงการณ์ของกรีนพีซ ‘โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ทำลายคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่’
 
31 ก.ค. 2557 กรีนพีซออกแถลงการณ์ ‘โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ทำลายคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่’ ค้านขยายถนนดังกล่าว หลังการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติครั้งที่ 1/2557 ที่พิจารณาเห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ในรอยต่อผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ รายละเอียดดังนี้
 
 
แถลงการณ์ของกรีนพีซ
โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ทำลายคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
 
สืบเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติครั้งที่ 1/2557 ที่พิจารณาเห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ในรอยต่อผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ช่วงกลางเดือน ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การขยายถนนจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร จะช่วยยกระดับความปลอดภัยบนถนน และเป็นโอกาสในการสร้างแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่าที่ข้ามไปมาระหว่างเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และทับลานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การถกเถียงในทางสาธารณะถึงเหตุผล ความจำเป็น และผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าว
 
กรีนพีซในฐานะองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมมีความเห็นดังต่อไปนี้
 
1. ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่เป็นต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงการดำรงชีวิตของชุมชนต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบทั้งแม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี ลำตะคอง ห้วยมวกเหล็ก และแม่น้ำมูล มีบทบาทสำคัญต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เป็นแหล่งสงวนระบบนิเวศตามธรรมชาติอันหลากหลายตั้งแต่ป่าดงดิบชื้น ป่าดงดิบเขา ป่าดงดิบแล้ง ไปจนถึงป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง รวมถึงทุ่งหญ้าเขตร้อนกระจายตัวอยู่ทั่วไป ตลอดจนป่าบนเขาหินปูนและป่าริมห้วยลำธาร เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ป่าไม่น้อยกว่า 2,500 ชนิด หรือประมาณ 1 ใน 6 ของชนิดพันธุ์ที่ปรากฏในประเทศ โดยมีชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น 16 ชนิด และมีสัตว์ป่ามากถึง 805 ชนิด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม 112 ชนิด นก 392 ชนิด และมีสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ รวมกัน 205 ชนิด โดยมี 9 ชนิด ที่เป็นชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น ได้แก่ ตะพาบหัวกบหรือกราวเขียวหรือกริวดาว  จิ้งจกหินเมืองกาญจน์  ตุ๊กแกเขาหินทราย  กิ้งก่าภูวัว  จิ้งเหลนด้วงตะวันตก  จิ้งเหลนเรียวโคราช งูดินโคราช งูกินทากลายขวั้น และจระเข้น้ำจืด และในจำนวนสัตว์ป่าที่พบทั้งหมดมีหลายชนิดที่มีความสำคัญในระดับโลก และมี 3 ชนิดพันธุ์ที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ (endangered) ได้แก่ ช้างป่า เสือโคร่ง และวัวแดง[1] ดังนั้น ในการดำเนินโครงการพัฒนาใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อระบบนิเวศผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ควรนำเอาหลักการป้องกันไว้ก่อน (Precautionary Principle) มาใช้ แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบอาจยังพิสูจน์ไม่ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
 
2. การอนุมัติรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ในเขตผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มุ่งสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเป็นหลัก โดยอ้างว่าทางหลวงสายนี้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงภาคตะวันออกและภาคกลางเข้ากับภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมีบทบาทสำคัญในการยกระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการผลิตที่สำคัญของประเทศ แต่ประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล (Outstanding Universal Value) ความครบถ้วนสมบูรณ์ (Integrity) และ/หรือความเป็นของแท้ (Authenticity) ที่เป็นหลักในการบริหารจัดการและการคุ้มครองผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ต่ำกว่าความเป็นจริง
 
3. กรมทางหลวงอ้างแผนการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ว่าเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 10 มกราคม 2538 ให้จัดทำแผนการก่อสร้างสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร(ระยะที่ 2) และมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 22 มิถุนายน 2547 ที่อนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงขยายถนน 304 เป็น 4 ช่องจราจร แต่ในเอกสารนำเสนอรายชื่อ (Nomination paper) "ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปางสีดา ทับลาน ตาพระยาและ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่)" ที่รัฐบาลไทยโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยื่นต่อคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมกราคม 2548 เพื่อให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาตินั้น มิได้ระบุข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผนการขยายถนน 304 เป็น 4 ช่องจราจร การชี้แจงของหน่วยงานรัฐอย่างสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวถึงการอนุมัติรายงานอีไอเอของกรมทางหลวงว่า คณะกรรมการชำนาญการ (คชก.) ได้พิจารณามาอย่างยาวนานและอ้างถึงข้อเสนอการสร้างทางเชื่อมผืนป่าว่าจะเป็นรูปแบบผสมผสานที่มีอุโมงค์และสะพานยกระดับเพื่อให้สัตว์ป่าเดินข้ามได้โดยจุดข้ามมีระยะทาง 200-300 เมตร ว่าสอดคล้องกับความเห็นและข้อเสนอของคณะกรรมการมรดกโลกและองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) นั้น ทางกรีนพีซเห็นว่า การชี้แจงดังกล่าวมิได้พิจารณาสถานภาพด้านการอนุรักษ์ (State of Conservation) ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่[2] และขัดต่อเจตนารมณ์และหลักการของการขึ้นทะเบียนผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
 
 
ข้อเรียกร้องของกรีนพีซ
 
1. ให้คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มีมติยกเลิกโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 304 ที่ดำเนินการโดยกรมทางหลวงโดยทันที
 
2. รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนตามแผนการจัดการเชิงบูรณาการ (Dong Phayayen Khao Yai Forest Complex’s Integrated Management Plan) ที่ระบุไว้ในเอกสารนำเสนอรายชื่อ (Nomination Paper) และข้อเสนอแนะที่ระบุไว้ในเอกสารการประเมินทางเทคนิคของ IUCN[3] เพื่อกอบกู้สถานภาพด้านการอนุรักษ์ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ให้พ้นจาก “บัญชีรายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในอันตราย (List of World Heritage in Danger)”
 
3. รัฐบาลโดยกรมทางหลวงปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการมรดกโลกในเรื่องการยุติเปิดเส้นทางอีกครั้งหรือการขยายถนนใดๆ ที่ตัดข้ามผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
 
4. รัฐบาลโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชต้องรับประกันถึงการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นและประชาชน ในการอนุรักษ์ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ในฐานะเป็นแหล่งสงวนความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ ระบบสนับสนุนค้ำจุนชีวิต แหล่งวิจัยและการศึกษาธรรมชาติ แหล่งสันทนาการและการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
 
 

[2] สถานภาพด้านการอนุรักษ์ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่http://www.greenpeace.org/seasia/th/PageFiles/625355/Khaoyai-conservation-status.doc
 
[3] ข้อเสนอแนะที่ระบุไว้ในเอกสารการประเมินทางเทคนิคของ IUCN
1.ให้มีการจัดระบบการจัดผืนป่าทั้งหมดแบบบูรณาการไม่ใช่แยกจัดแบบต่างคนต่างดูแลเหมือนเช่นที่ผ่านมา
2. รัฐบาลต้องสนับสนุนงบประมาณ และทรัพยากรบุคคลเพื่อการบริหารจัดการพื้นป่าอย่างเต็มที่
3. ต้องให้การส่งเสริมการสำรวจและวิจัยสถานภาพของป่าและสัตว์ป่าอย่างจริงจัง
4. ดำเนินมาตรการควบคุมความเร็วยานพาหนะในเส้นทางที่ตัดผ่านผืนป่าก่อนที่จะมีการสร้างแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศ
5. ดำเนินกิจกรรมที่เสริมสร้างความร่วมมือจากชุมชนในการอนุรักษ์ผืนป่าเพื่อเป็นหลักประกันในสถานภาพมรดกโลก
6. หาแนวทางความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาในการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองข้ามพรมแดนโดยเฉพาะพื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติ  Banteay Chmor ตลอดจนประเด็นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติข้ามพรมแดนอื่นๆ ที่จะมีผลกระทบต่อผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
 
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท