Skip to main content
sharethis
 
ตำรวจอ้างยังสอบไม่เสร็จ ศาลให้ฝากขังต่อ ปติวัติ และ ภรณ์ทิพย์ ผู้ต้องหากรณีละครเจ้าสาวหมาป่า แต่ศาลกำชับให้สอบสวนให้เสร็จโดยเร็วไม่เช่นนั้นอาจไม่ให้ฝากขังต่อ 
 
27 สิงหาคม 2557 ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนการคัดค้านการขอฝากขังพลัดที่สอง ของนายปติวัติ (สงวนนามสกุล) และน.ส.ภรณ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) ในข้อกล่าวมาตรา 112 จากกรณีละครเรื่องเจ้าสาวหมาป่าซึ่งจัดแสดงในงานรำลึก 40 ปี 14 ตุลาฯ เมื่อวันที่ 6และ 13 ตุลาคมปีที่แล้ว 
 
พนักงานสอบสวนอ้างว่า ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ เกรงจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและหลบหนี ทั้งคดีก็มีอัตราโทษสูง ทนายของทั้งสองคนได้ยื่นคำแถลงคัดค้านคำร้องฝากขังพร้อมยื่นพยานเอกสารเพิ่มเพื่อให้มีการไต่สวนคำร้อง แต่ท้ายที่สุด ศาลยกคำร้องคัดค้านการฝากขัง
 
คำร้องคัดค้านการฝากขังระบุว่า จำเลยได้ให้การโดยละเอียดแล้วตั้งแต่วันที่ถูกจับกุมในชั้นสอบสวน และจำเลยไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนีหรือยุ่งกับพยานหลักฐาน  แม้พนักงานสอบสวนอ้างว่าคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง แต่การกระทำของจำเลยก็เป็นเพียงการแสดงละครเพื่อหารายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนเท่านั้น นอกจากนี้กฎหมายที่ใช้ดำเนินคดีก็มีลักษณะเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพอีกด้วย
 
ผู้พิพากษาแจ้งว่า ได้นำเอาเพียงประเด็นว่า ยังสอบสวนจำเลยไม่เสร็จ มาเป็นประเด็นพิจารณาเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น 
 
นายปติวัติแถลงเพิ่มว่าพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเขาเสร็จแล้วตั้งแต่วันที่จับกุม และระหว่างที่ถูกคุมขังในเรือนจำยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก
 
ฝ่ายพนักงานสอบสวนแถลงว่ายังมีความจำเป็นในการฝากขังอยู่เนื่องจากยังมีพยานต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก 3 ปาก และยังต้องสอบประวัติอาชญากรรมจากลายนิ้วมือ รวบรวมเอกสารส่งผู้บังคับบัญชาไม่ทัน และเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง 
 
ทนายแถลงว่าการสอบประวัติอาชญากรรม และการส่งเอกสารให้ผู้บังคับบัญชาเป็นเรื่องภายในขององค์กรไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องฝากขังต่อไปอีก
 
พนักงานสอบสวนแถลงเพิ่มว่าถ้าปล่อยไป จะส่งผลต่อการสอบสวนเพราะว่ายิ่งสอบสวนเพิ่มก็จะตามพยานหลักฐานต่อไปอีก ในวันที่จับกุมจำเลยก็ได้ให้การว่าประธานชมรม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย และคดีนี้เป็นคดีนโยบายหากปล่อยไปแล้วไปยุ่งกับพยานหลักฐานจะไม่เป็นผลดีต่อคดีโดยรวม
 
น.ส. ภรณ์ทิพย์ และ นายปติวัติ ที่ศาลระหว่างรอผลการพิจารณา
 
นายปติวัติแถลงว่าเขาไม่มีแรงจูงใจให้ต้องไปยุ่งกับพยานเพราะเขายังต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอีก 3 เดือน 
 
กรณีของน.ส.ภรณ์ทิพย์ ผู้พิพากษาแจ้งว่ายังไม่ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนว่า ยังต้องสืบพยานอีกกี่ปาก ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าได้ส่งไปแล้วแต่อาจจะยังไม่ถูกใส่ในคำร้อง
 
ณรงค์ แก้วเมือง น้าของ น.ส.ภรณ์ทิพย์แถลงว่าในกรณีสอบสวนพยาน กอ.รมน. จังหวัดได้ไปที่บ้านของ น.ส.ภรณ์ทิพย์เพื่อสืบข้อมูลมาแล้ว และ น.ส..ภรณ์ทิพย์ก็ถูกสอบสวนในเรือนจำไปแล้วด้วย
 
พนักงานสอบสวนแจ้งว่ากรรีนี้ยังมีพยานต้องสืบอีกสองถึงสามปาก และยังต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาอีก
 
ทนายจำเลยแถลงว่า น.ส.ภรณ์ทิพย์ ถูกจับกุมที่สนามบินขณะกำลังเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศซึ่งได้ VISA แล้ว ซึ่งแม่ของ น.ส.ภรณ์ทิพย์ก็ได้กู้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในการนี้ ทำให้มีภาระทางการเงินถ้าหากได้รับการปล่อยตัวก็จะได้กลับไปทำงานแบ่งเบาภาระของครอบครัว และพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการสอบปากคำไปแล้วในชั้นสอบสวนและระหว่างถูกคุมขังและมีการเซ็นเอกสารรับทราบการสอบสวนไปแล้วจึงไม่มีความจำเป็นอีก
 
หลังจบการแถลงของทั้งฝ่ายจำเลยและพนักงานสอบสวนแล้ว ผู้พิพากษาได้พิจารณาคำร้องและมีคำสั่งว่าศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าพนักงานสอบยังมีความจำเป็นที่จะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมอยู่จึงยกคำร้องขอคัดค้านการฝากขังของทนายจำเลย แต่พนักงานสอบสวนต้องทำการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว เพราะในการขอฝากขังครั้งหน้าศาลอาจจะไม่อนุญาตให้ฝากขังต่อ
 
ศาลยกคำร้องขอประกันตัว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทนายจำเลยทั้งสองคนได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยวางเงินสดเป็นหลักประกันคนละ 300,000 บาท ต่อมาในช่วงเย็น ศาลยกคำร้อง ไม่ให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า " พิเคราะห์แล้วศาลเคยมีคำสั่งไม่อนุญาต โดยระบุเหตุผลไว้ชัดเจน ไม่มีเหตุเพิ่มเติม ศาลขอยกคำร้อง"
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net