เครือข่ายชาวอาระกันยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยระหว่างเยือนสภาพเมียนมาร์ เรียกร้องทบทวนกระบวนการดำเนินคดี พร้อมชี้มีช่องโหว่ให้สงสัยมากมาย และผู้ต้องสงสัยระบุว่ามีการทำร้ายร่างกายระหว่างสอบสวน

โดยเนื้อหาจดหมายดังกล่าวได้ตั้งข้อสงสัยต่อการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยซึ่งระบุว่า ผู้ต้องหาสองรายใช้จอบในการฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ แต่จากรูปถ่ายปรากฏบาดแผลหลายจุดทั้งที่ใบหน้าและที่ไหล่ของนายเดวิด มิลเลอร์ผู้ตาย เป็นบาดแผลจากมีดพก ซึ่งเป็นบาดแผลคล้ายกับที่ปรากฏที่ตัวของนาย ฌอน แมคแอนนา เพื่อนสนิทของผู้ตาย

ในระหว่างการถูกควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยทั้งสองรายถูกทำร้ายร่างกายโดยตำรวจและล่ามซึ่งไม่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพ

นอกจากนี้ ยังมีช่องโหว่มากมายในการพิสูจน์ความเชื่อมโยงของดีเอ็นเอ ของผู้ต้องหากับดีเอ็นเอที่พบในตัวของ น.ส. ฮันนา
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยต้องทบทวนผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอ

จดหมายดังกล่าวยังระบุด้วยว่าพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของมาเฟีย เป็นพื้นที่ที่กฎหมายเข้าไม่ถึงมาเป็นเวลาหลายสิบปี และเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ติดตามคดีนี้ทั่วโลกก็มีความสงสัยเช่นเดียวกัน

เครือข่ายชาวอาระกันเรียกร้องให้ทางรัฐบาลไทย ทบทวนการดำเนินคดีดังกล่าวตามหลักความโปร่งใสและหลักปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม

หาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงให้ได้เร็วที่สุด เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของผู้มีอิทธิพล ซึ่งประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานข้ามชาติ มีชีวิตอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนเหล่านี้ด้วยความหวาดกลัว

เครือข่ายฯ ยังเรียกร้องให้มีการดำเนินการสืบสวนสอบสวนร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทย เมียนมาร์และสหราชอาณารจักร เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีความสลับซับซ้อน

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดเหตุเมื่อวันที่ 15  ก.ย. ที่ผ่านมา โดยน.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ สองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุม นายซอ ลิน  และนายเวพิว อายุ 21 โดยระบุว่ามีหลักฐานยืนยันจากผลตรวจดีเอ็นเอของชาวเมียนมาร์ทั้งสองรายตรงกับที่พบในตัวของเหยื่อ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยทั้งสองให้การสารภาพ

อย่าไรก็ตาม วานนี้  ผู้ต้องหาทั้งสองราย ได้กลับคำให้การ ภายหลังจากได้พบกับทนาย นาย อ่อง เมียว ถั่น ทนายความที่ทางสถานทูตพม่าประจำประเทศไทยจัดหาให้ โดยทั้งสองระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ระหว่างการสอบสวน

นอกจากจดหมายเปิดผนึกจากเครือข่ายชาวอาระกันแล้ว เครือข่ายประชาสังคมพม่า นำโดยนาย เน เมียว ซิน ได้รวมตัวกันประท้วงที่สวนสาธารณะมหาพันธุละ เมื่อเช้าที่ผ่านมา เรียกร้องให้มีการสวนสวนที่เป็นอิสระในคดีดังกล่าว