Skip to main content
sharethis
เผยข้อมูลในพื้นที่โต้กรณีสื่อรายงานข่าวปิดเขื่อนปากมูลจับปลาบึกขายได้เหยียบแสน ชาวบ้านในพื้นที่ระบุปีที่แล้วก็จับได้ในช่วงเวลาที่เขื่อนปากมูลยังเปิดประตูระบายน้ำอยู่ เผยกำลังรอให้เขื่อนสิรินธรหยุดระบายน้ำเพื่อหาปลา
เขื่อนปากมูล
ที่มา: แฟ้มภาพประชาไท
 
16 ต.ค. 2557 กฤษกร ศิลารักษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ซึ่งรวมขบวนการเคลื่อนไหวกรณีปัญหาต่างๆ รวมทั้งกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล กล่าวภายหลังจากสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าวระบุว่ามีการจับปลาบึกได้จำนวนมากหลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปิดประตูเขื่อนปากมูลเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร ว่า ต่อเรื่องนี้พวกเราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นความจริงในพื้นที่ที่ไม่มีการกล่าวถึง เพื่อแจ้งให้สาธารณะชนทราบ
 
กฤษกร ระบุว่า รายงานสถานการณ์จับปลาเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2557 เวลา 21.00-05.00 นายหนูพร แก้วศรี  อายุ 53 ปี  บ้านเลขที่ 79 หมู่ 14 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี อาชีเกษตรกร ได้จับปลาบึกขนาด 106 กิโลกรัม 1 ตัว 111 กิโลกรัม 1 ตัว 75 กิโลกรัม 2 ตัว และขนาด 30-40 กิโลกรัมอีก 4 ตัว ซึ่งปลาทั้งหมดจับได้บริเวณวังถ้ำใหญ่ในแม่น้ำลำโดมน้อย ห่างจากเขื่อนปากมูลประมาณ 6 กิโลเมตรโดยใช้ตาข่ายขนาด 50-60 เซนติเมตร
 
นายหนูพรกล่าวว่า สามารถจับปลาได้ในบริเวณนี้ทุกปี ซึ่งเชื่อว่าปลาทั้งหมดที่จับได้เป็นปลาที่มาจากเขื่อนสิรินธร เนื่องจากเขื่อนสิรินธรได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำปลาจึงเคลื่อนตัวลงมาเป็นกลุ่ม เมื่อเขื่อนหยุดการระบายน้ำทำให้น้ำลดลงจึงสามารถจับได้ในช่วงที่อพยพกลับจึงสามารถจับปลาได้
 
“เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เนื่องจากปีที่แล้วก็จับได้ในช่วงเวลาที่เขื่อนปากมูลยังเปิดประตูระบายน้ำอยู่” นายหนูพรกล่าว และระบุด้วยว่าตอนนี้กำลังรอให้เขื่อนสิรินธรหยุดทำการระบายน้ำก็จะลงหาปลาในบริเวณดังกล่าว ทันที 
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา มติชนออนไลน์และโพสต์ทูเดย์รายงานว่าที่ จ.อุบลราชธานี บรรยากาศย่านร้านอาหารริมแม่น้ำโขงเต็มไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากชาวบ้านพากันแห่ขายปลาบึก น้ำหนักรวมกว่า 600 กิโลกรัม หลัง กฟผ.ปิดประตูเขื่อนปากมูล รายได้วันละ 2 หมื่น

นางสาวบุญฑริกา จัยสิน อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารแม่น้ำสองสี ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยปิดประตูเขื่อนปากมูล ทำให้มีชาวบ้านในพื้นที่ อ.โขงเจียม และ ใกล้เคียงออกล่าปลาบึกมาขายให้กับร้านอาหารตามริมน้ำโขง สำหรับตนเองได้รับซื้อไว้ ทั้งหมด 4 ตัว น้ำหนักรวมกว่า 600 กิโลกรัม มูลค่า 78,000 บาท

นางสาวบุญฑริกา ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับการจับปลาบึกในช่วงนี้ จะมีระยะเวลาอยู่ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นก็แล้วแต่ตามดวง สาเหตุที่ชาวประมงสามารถจับปลาบึกได้เยอะในช่วงนี้ ก็เป็นเพราะการปิดเขื่อนปากมูลซึ่งทำให้น้ำนิ่งปลาบึกที่เคยว่ายตามกระแสน้ำก็จะเกิดอาการตื่นน้ำ หรืออาการ งง อีกช่วงก็จะเป็นช่วงที่เปิดเขื่อนใหม่น้ำลดปลาบึกจะติดตามซอกหินตามต้นไม้ ชาวบ้านก็จะออกย่ำปลา ซึ่งจะเป็นช่วงที่ชาวประมงในพื้นที่จะรู้และเตรียมตัวกันล่วงหน้า

สำหรับปลาที่จับได้ชุดนี้ ชาวบ้านแจ้งว่าได้มาจากบ้านลาดวารี หมู่ที่ 14 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มีขนาดตั้งแต่ตั้งแต่ 30 -150 กิโลกรัม ราคาที่จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 - 250 บาท ขึ้นอยู่ที่ใครเป็นคนขายหากชาวบ้านขายเองราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท หากซื้อที่ตลาดก็จะอยู่ที่ 250 บาท การจับก็จะใช้มอง หรือ ตาข่ายดังปลาขนาดใหญ่ในการลาก แค่ 2 วันชาวบ้านมีรายได้อย่างน้อยรายละ 2 หมื่นบาทซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองของชาวบ้าน
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net