Skip to main content
sharethis

อดีต ผอ.ศอฉ. แจ้งอัยการไม่ประสงค์มาเบิกความคดีการตาย ‘ฮิโรยูกิ มูราโมโต้-วสันต์ ภู่ทอง-ทศชัย เมฆงามฟ้า’ อ้างส่งปากคำคดีอื่นแทน ขณะที่ทนายญาติผู้ตายแย้งต้องนำตัวมาเบิกให้ได้ ชี้เป็นคนละเหตุการณ์ ศาลกำชับอัยการฯ รีบดำเนินการเพราะได้หมายเรียก ‘สุเทพ’ เป็นเวลานานแล้ว

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดไต่สวนคำร้องชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรพลิกศพนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้(ผู้ตายที่ 1) สัญชาติ ญี่ปุ่น ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช) ที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 รวมทั้ง นายวสันต์ ภู่ทอง(ผู้ตายที่ 2)  อายุ 39 ปี และนายทศชัย เมฆงามฟ้า(ผู้ตายที่ 3) อายุ 44 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิต ในเวลาและบริเวณใกล้เคียงกัน จากการขอคืนพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร

โดยวันนี้ศาลนัดสืบพยาน 3 ปาก ได้แก่ พระสุเทพ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ ผอ.ศอฉ.ในขณะเกิดเหตุ ซึ่งปัจจุบันบวชเป็นพระภิกษุอยู่ ร.ต.อ.อริย์ธัช อธิสุรีย์มาศ และพ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน แต่พยานทั้งสามคนแจ้งว่าไม่สามารถมาตามนัดได้

พนักงานอัยการฯ หรือผู้ร้อง แถลงว่าตามที่ขอให้ศาลหมายเรียกพยานปากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้าเบิกความในวันนี้ ผู้ร้องได้รับแจ้งจากนายสุเทพว่าได้รับหมายเรียกโดยชอบแล้ว แต่ไม่ประสงค์จะมาเบิกความเนื่องจากในคดีนี้เป็นคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 โดยเหตุสืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ตั้งแต่ช่วงปี 2553 ซึ่งนอกจากคดีนี้แล้ว พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องของให้ศาลนี้ทำการไต่สวนชันสูตรพลิกศพอีกหลายคดีด้วยกัน ซึ่งล้วนแต่เป็นคดีที่มีเหตุสืบเนื่องจากเหตุการณ์เดียวกันกับคดีนี้ ตัวนายสุเทพมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในเรื่องการออกคำสั่งในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ผอ.ศอฉ.) ซึ่งนายสุเทพได้เคยเบิกความเป็นพยานต่อศาลนี้ในคดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ระหว่างพนักงานอัยการ ผู้ร้อง ในคดี 6 ศพ วัดปทุมฯ คดีหมายเลขดำที่ ช.6/2555 ระหว่างพนักงานอัยการ ผู้ร้อง ในคดีการตายของนายชาติชาย ชาเหลา และในคดีหมายเลขดำที่ ช.7/2555 ระหว่างพนักงานอัยการ ผู้ร้อง ในคดีการตายของนายบุญมี เริ่มสุข พร้อมทั้งได้ส่งเอกสารประกอบคำเบิกความที่มีการรวบรวมข้อเท็จจริงไว้ครบถ้วนต่อศาลไปแล้ว

โดยนายสุเทพ ไม่ประสงค์จะเข้าเบิกความ ปรากฏตามหนังสือฉบับลงวันที่ 22 ก.ย.2557 ซึ่งอยู่ในสำนวนของศาลแล้ว แต่ผู้ร้องยังคงติดในสืบพยานปากนายสุเทพ เพราะเป็นพยานปากสำคัญ โดยภายหลังผู้ร้องจะทำหนังสือถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขออนุญาตตัดพยานปากนายสุเทพและจะนำมาแถลงอีกครั้งในวันที่ 25 พ.ย.2557 ตามที่นัดไว้เดิม

ทนายญาติผู้ตายทั้ง 3 ในคดีนี้ แถลงร่วมกันว่าเนื่องจากพยานปากนายสุเทพ เป็นพยานปากสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นในคดีโดยตรง และฝ่ายทนายญาติผู้ตายทั้ง 3 ก็อ้างนายสุเทพเป็นพยานร่วมกันกับฝ่ายผู้ร้องไว้ด้วย จึงประสงค์จะนำนายสุเทพเข้าเบิกความ ส่วนตามหนังสือที่นายสุเทพ มีถึงศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2557 โดยอ้างให้นำคำเบิกความทั้ง 3 คดีก่อนหน้ามาแทนการเข้าเบิกความในคดีนั้น ทนายญาติผู้ตามทั้ง 3 แถลงร่วมกันว่าข้อเท็จจริงทั้ง 3 คดีดังกล่าวเป็นคนละเหตุการณ์กับคดีนี้

ผู้ร้องแถลงต่อไปว่า ตามที่ได้มีการประสานงานให้ ร.ต.อ.อริย์รัช อธิสุรีย์มาศ เข้าเบิกความในวันนี้ ตามหนังสือรายงานเจ้าหน้าที่ฉบับลงวันที่ 17 ต.ค.2557 ซึ่งอยู่ในสำนวนคดีนี้ ผู้ร้องได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.อริย์รัช ว่าติดภารกิจเร่งด่วนต้องเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อปฏิบัติภารกิจ ประกอบกับยังไม่มีหมายเรียกจากศาลให้ ร.ต.อ.อริย์รัช เข้าเบิกความในวันนี้ แต่ ร.ต.อ.อริย์รัช แจ้งผู้ร้องว่าไม่ติดขัดที่จะเข้าเบิกความในวันที่ 12 พ.ย.2557 เวลา 9.00 น. และขอให้ศาลออกหมายเรียก ร.ต.อ.อริย์รัช เข้าเบิกความในวันดังกล่าวต่อไป

ในส่วน พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง เนื่องจากพยานปากดังกล่าวเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนและเป็นผู้สรุปข้อเท็จจริงในสำนวนการสอบสวน ผู้ร้องประสงค์จะนำพยานปากดังกล่าวเข้าสืบเป็นปากสุดท้ายเพื่อสรุปข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยจะให้ศาลนัดเข้าสืบในวันที่ 25 พ.ย.2557 ตามที่นัดไว้เดิม

โดยศาลฯ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเพื่อให้การไต่สวนคำร้องเป็นไปโดยรวดเร็ว จึงให้ไต่สวนพยานผู้ร้องเพิ่มอีก 1 นัด คือในวันที่ 12 พ.ย.2557 เวลา 9.00 – 16.30 น. กำชับผู้ร้องให้เร่งดำเนินการมีหนังสือถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาศาลกรุงเทพใต้ หากถึงวันนัดแล้วศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรโดยเคร่งครัดต่อไป เนื่องจากพยานปากนายสุเทพ เป็นพยานที่ศาลได้หมายเรียกเป็นเวลานานแล้ว            

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net