Skip to main content
sharethis

คปต.เห็นชอบตั้งกรมทหารพรานนาวิกฯ งบ 1,700 ล้าน รมว.กลาโหมตั้งเป้าให้เกิดสันติสุขภายใน 1 ปี กำชับแม่ทัพภาค 4 ปรับแผน ด้านเหยื่อกราดยิงที่เทพาตายเพิ่ม นักศึกษา มนร.อาการยังสาหัส

4 พ.ย.2557 วานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ หรือ คปต.โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบแผนการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 2559 พร้อมเห็นชอบให้จัดตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธิน ทหารเรือขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะใช้เวลาในการจัดตั้ง 2 ปี ภายใต้วงเงิน 1,700 ล้านบาทเศษ

ที่ประชุม คปต.ยังรับทราบเรื่อง การสนับสนุนอาวุธปืนสั้นจำนวน 2,700 กระบอกให้แก่ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)ในพื้นที่ โดยกองทัพบกจะมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยนำไปแจกจ่ายให้กับเหล่า อส. และยังรับทราบปัญหาการขาดแคลนกำลังตำรวจ จำนวน 2,000 อัตรา โดยจะสรรหาจากผู้ที่มีภูมิลำเนาใน 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 1,000 อัตรา และ พื้นที่อื่นอีก 1,000 อัตรา คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนปี 2558

ขณะเดียวกันยังเห็นชอบหลักการของแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้เร่งปฏิบัติในไตรมาสแรก ใช้งบประมาณ 7,786 ล้านบาท และให้ประเมินผลอย่างเป็นรูปธรรม

สั่งคุมเข้มใต้ลุยถกสันติสุขใน 1 ปี
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงเหตุรุนแรงในพื้นที่โดยเฉพาะเหตุกราดยิงชาวบ้านที่ อ.เทพา จ.สงขลาว่า คาดว่าเป็นการตอบโต้ฝ่ายรัฐหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุกและมีการจับกุมแกนนำบางส่วน และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเร่งการเจรจากับฝ่ายรัฐ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามทำให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ใน 1 ปี ส่วนเรื่องการพูดคุยสันติสุขนั้น ไม่จำเป็นต้องรอนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานพูดกับกลุ่มต่างๆ

กำชับแม่ทัพภาค 4 ปรับแผน
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวก่อนเข้าประชุมคปต.ว่า ฝ่ายผู้เห็นต่างพยายามสร้างสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อยกระดับและเพิ่มน้ำหนักในการต่อรองของตนเองให้มากขึ้น ซึ่งทางไทยมีความตั้งใจและต้องการแก้ไขปัญหาด้วยการพูดคุยแบบสันติสุข

ทั้งนี้พล.อ.อุดมเดช ได้กำชับไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 ให้สั่งการหน่วยเฉพาะกิจของทุกจังหวัดปรับแผนการดำเนินการให้สอดคล้องกับห้วงเวลา

เหยื่อกราดยิงที่เทพาตายเพิ่ม
วันเดียวกันที่วัดตาแปด ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ นายอำเภอเทพาเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพแก่ชาวบ้านที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงชาวบ้านไทยพุทธที่นั่งอยู่หน้าร้านขายของชำ เลขที่ 57/1 ม.8 บ้านหนองสาหร่าย ต.ท่าม่วง เมื่อคืนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายขิน จันทรัตน์ อายุ 70 ปี นายนิรัตน์ จันทร์แก้ว อายุ 60 ปี และนายอำนวย ไสยผอม อายุ 47 ปี

โดยมีผศ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ให้กำลังใจญาติ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือ สำหรับพิธีฌาปนกิจศพทั้ง 3 รายจะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ที่วัดตาแปด

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน คือนายสุกิจ จันทรัตน์ ส่วนผู้บาดเจ็บ 7 คน สาหัส 3 คน ได้แก่นายอุทัย กิ้มเส้ง และนายถวิล เพชรจำรัส แพทย์ต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลา ส่วนนายวิมล จันทร์แก้ว แพทย์ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ที่เหลืออีกแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว คือ นายเอกพล เพชรจำรัส นายจิรศักดิ์ ไชยศรี นางอารมณ์ จันทรัตน์ และ เด็กหญิงศิริวรรณ จันทรัตน์

สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นทางศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาจังหวัดสงขลา ได้มอบเงินให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 500,000 บาท บาดเจ็บสาหัสจำนวน 50,000 บาท บาดเจ็บปานกลางจำนวน 30,000 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินสมทบช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆ ด้วย

ยิงถล่มรถกำนันตาย 2 เจ็บ 3
ในช่วงเย็นวันเดียวกัน บนถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ม.3 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี เกิดเหตุคนร้ายยิงรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตู สีเทา ทะเบียน กร 2904 สงขลา ด้วยอาวุธสงคราม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 3 คน โดยผู้เสียชีวิตคือนายไซนูดิง เจะมิง และ นายอับดุลรอแม มะลี ทั้งสองเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 รายถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี ชื่อ นายแวดาโอะ เจะเตะ อายุ 32 ปี เป็นกำนันตำบลคลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี นายอับดุลรอมัน เจะเลาะ อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนายนิเฮง หะยีสามะ อายุ 33 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โดยที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า กว่า 50 ปลอก

เหตุเกิดหลังจากนายแวดาโอะ ขับรถคันดังกล่าวกลับจากการประชุมประจำเดือนและการฝึกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งไว้ 2 ประเด็นคือ เรื่องการเมืองและการสร้างสถานการณ์

นักศึกษา มนร.อาการยังสาหัส      
วันเดียวกัน ดร.จงรัก พลาศัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) พร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ น.ส.สุธิดา ตั้งใจ อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 2 คณะวิทยาการจัดการ สาขาบัญชี ซึ่งถูกคนร้ายลอบยิงขณะขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมเพื่อน ระหว่างถนนสายเมือง-เจาะไอร้อง ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อมุ่งหน้ามายังหอพักในเทศบาลเมืองนราธิวาส เมื่อวันที่2 พฤศจิกายน 2557

สำหรับ น.ส.สุธิดา ยังนอนรักษาตัวภายในห้อง ICU อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย กระสุนถูกบริเวณท้ายทอย ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2549 นายประสาน ตั้งใจ บิดาของเธอถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตมาแล้ว และในปี 2556 น.ส.ปรีดาพร เล็กกะสัน ญาติของเธอก็ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้นางสุดาพร ตั้งใจ มารดาของเธอเสียใจอย่างมาก และรู้สึกว่าครอบครัวตกเป็นเป้าของกลุ่มก่อความไม่สงบ ทั้งที่เป็นเพียงเกษตรกรในพื้นที่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกลุ่มก่อความไม่สงบแม้แต่น้อย

อธิการบดี มนร.กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญให้แก่คณะบุคลากร อาจารย์ และนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ล่าสุดได้กำชับให้ผู้บริหารแต่ละคณะเน้นย้ำต่อนักศึกษาให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลตนเองทุกครั้งระหว่างเดินทาง และทางมหาวิทยาลัยจะหารือกับจังหวัดในการจัดมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่กลุ่มนักศึกษาระหว่างเดินทางด้วย เพื่อป้องกันการก่อเหตุต่อกลุ่มนักศึกษาอีกทางหนึ่ง

เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพแถลงการณ์
ด้านเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ออกแถลงการณ์ ถึงกรณีกระทำต่อเป้าหมายที่อ่อนแอ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย และผู้ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยพุทธ หรือคนไทยมุสลิม

พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้นักสิทธิมนุษยชน แสดงจุดยืนอยู่เคียงข้างประชาชนที่เป็นเป้าหมายที่อ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยมุสลิม หรือคนไทยพุทธ และผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ดูรายละเอียด แถลงการณ์)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net