กลุ่มรักษ์บ้านแหง ร้องศาล เพิกถอนใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า บ.เหมืองแร่ลิกไนต์

ชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหง 442 คนรวมตัวยื่นฟ้อง เพิกถอนใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า ใบอนุญาตแผ้วถางป่า และรายงานประชาคมเท็จ กรณีบ.เหมืองลิกไนต์ ล่าสุดศาลปกครองเชียงใหม่ รับเรื่องไว้พิจารณา

 
 

7 พ.ย. 2557 ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มรักษ์บ้านแหง ต.แหง อ.งาว จ.ลำปาง เดินทางไปร้องศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อขอให้ศาลพิจาณาเพิกถอน ใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า กรณีกรมป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกใบอนุญาตดังกล่าวให้บริษัทเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ (บริษัท เขียวเหลือง จำกัด) โดยมิชอบ 

นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความศูนย์ข้อมูลชุมชนให้ข้อมูลว่า มีชาวบ้านทั้งหมด 442 ราย ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ 7 คน ประกอบด้วย อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอำเภองาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านแหง และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.บ้านแหง

โดยการฟ้องครั้งนี้เป็นการร้องให้ศาลพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่า และใบอนุญาตแผ้วถางป่าซึ่งออกโดยกรมป่าไม้ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ในรายงานการทำประชาคมจากชาวบ้านในพื้นที่  ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่าเป็นรายงานเท็จคือ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2553 ได้มีคนของบริษัทเข้ามาชี้แจงให้ชาวบ้านฟังว่า บริษัทจะดำเนินการทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ลิกไนต์ในพื้นที่ โดยได้ถ้าชาวบ้านว่าเข้าใจสิ่งที่บริษัทกำลังจะดำเนินการหรือไม่  โดยชาวบ้านก็ตอบว่าเข้าใจ แต่เมื่อรายงานออกมากลับกลายเป็นว่า บริษัทได้ทำประชาคมกับชาวบ้านแล้วโดยชาวบ้านได้แสดงความยินยอมให้บริษัทเข้าดำเนินกิจการในพื้นที่

ล่าสุด เวลาประมา 16.00 น. ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว โดยรับเอกสารไว้ตรวจสอบข้อเท็จ และจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ความขัดแย้งในพื้นที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากบริษัทเขียวเหลือง เข้าไปซื้อที่ดินของชาวบ้านกว่า 1,500 ไร่ โดยให้เหตุผลว่าจะนำพื้นที่ไปปลูกต้นยูคาลิปตัสเพื่อทำกระดาษแต่ภายหลังกลับ ขอเปิดเหมืองลิกไนต์แทน โดยบริษัทยื่นคำขอประทานบัตรต่อกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2553 ต่อมาสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปางได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ ตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำรายงานการไต่สวนพื้นที่ตามคำขอประทานบัตร ทำให้ชาวบ้านออกมาต่อต้านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยกลุ่มอนุรักษ์ฯ ในพื้นที่ชี้ว่าการอนุญาตให้ใช้ป่าสงวนฯ ในครั้งนี้ยังผิดระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรือ อาศัยอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2548 เนื่องจากการที่บริษัทจะยื่นคำขอและได้รับอนุญาตตามคำขอเพื่อใช้ประโยชน์ ที่ดินในการทำเหมืองแร่ถ่านหินตามคำขอที่ 4-8/2553 ได้  กฎหมายกำหนดว่า “จะต้องเป็นพื้นที่ไม่มีความขัดแย้งกับราษฎร  และต้องได้รับความตกลงยินยอมจากราษฎรในพื้นที่ในการเข้าทำประโยชน์เสีย ก่อน”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท