Skip to main content
sharethis

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ระบุมีผู้เห็นต่างจากรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติ และนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ไปทำความเข้าใจแล้ว แต่ละกลุ่มหากจะเคลื่อนไหวให้ขออนุญาต คสช. ก่อน สำหรับความคิดเห็นเพื่อการปฏิรูปให้มาเสนอผ่านช่องทาง สปช. - ยันมาตรา 44 ยังไม่นำมาใช้ สั่งแม่ทัพ 4 เพิ่มการดูแลกำลังพล หลังเกิดเหตุทำร้ายกันเองจนเสียชีวิต อาจเครียดจากการทำงาน ให้อนุศาสนาจารย์ จิตแพทย์พูดคุย

11 พ.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มเคลื่อนไหว หรือ คลื่นใต้น้ำ ต่อต้านรัฐบาลว่า เป็นเรื่องปกติที่มีผู้เห็นต่างกับการทำงานของรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้พยายามเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนผ่านสื่อต่างๆ โดยได้มอบนโยบายเพิ่มเติมไปยังหน่วยในพื้นที่ให้ทำความเข้าใจเพิ่มเติม ซึ่งมองว่าจะไม่มีปัญหาอะไร

ทั้งนี้ยอมรับว่ามีการเคลื่อนไหวในลักษณะการพูดคุย และเสวนากันในแต่ละกลุ่มในบางพื้นที่ ซึ่งตามกฏหมายขณะนี้ต้องขออนุญาตจาก คสช.ก่อน โดยที่ผ่านมามีการกระทำลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเล็กน้อย แต่ได้ทำความเข้าใจไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องการให้แต่ละกลุ่มเข้ามาให้ความเห็นในการปฏิรูปประเทศร่วมกับสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. มากกว่า แม้จะไม่มีรายชื่ออยู่ในคณะของ สปช. สามารถเสนอได้ เพื่อให้เข้าสู่แนวทางตามกรอบที่ถูกต้อง เพราะการกระทำนอกกรอบ อาจทำให้เกิดสภาพที่ไม่เอื้อต่อการสร้างความสามัคคีได้

รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ.กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น เป็นเพียงการบอกว่า คสช.สามารถทำได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการใช้อำนาจดังกล่าว และให้เน้นทำความเข้าใจกับผู้ที่เห็นต่างมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่พยายามทำมาตลอด ซึ่งส่วนตัวในฐานะเลขาธิการ คสช. ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ปิดกั้นความคิดจากฝ่ายใด เพื่อให้การปฏิรูปประเทศเป็นที่ยอมรับ

 

ระบุทหารใต้ทำร้ายกันเองอาจเครียดจากงาน

จากกรณีเกิดเหตุทหารเหตุยิงกันเองภายในค่ายลูกเสือเดชานุชิต ต.บ่อทอง อ.หนอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย 
 
1. จ.ส.อ.สุมิตร  ปกพันธ์ อายุ 48 ปี สังกัด มทบ.22  
2. ส.ท.ทองมุก พิลออน สังกัด ร.8  
3. ส.ท.โชคนิพัทธ์  ดวงจำปา อายุ 33 ปี สังกัด ทัพน้อย 2 และ
4. จ.ส.อ.เดชาทศ  มาลัยรัตน์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลปัตตานี 
 
ส่วนทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่ ส.ท.กำพล กันหาวาตี อายุ 30 ปี, จ.ส.อ.เดชาทศ วลัยรัตน์ อายุ 33 ปี และพลทหารทวีเวชย์ สิงฆมณี อายุ 21 ปี นั้น วันนี้ (7 พ.ย.) สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าวถึงกรณีเหตุกำลังพลทางภาคใต้ก่อเหตุทำร้ายกันจนเสียชีวิตว่า เป็นเรื่อที่น่าเสียใจ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจมาจากการเผชิญกับงานหนัก และมีปัญหาส่วนตัวรุมเร้า
 
“เมื่อเช้าได้สั่งการเมื่อเช้านี้ไปยังแม่ทัพภาค 4 ให้ดูแลกำลังพล โดยจัดอนุศาสนาจารย์และจิตแพทย์เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจเพิ่มเติม รวมถึงจัดชุดจิตแพทย์จากชุดที่ลงไปดูแแลประชาชนให้มาดูแลทหารด้วย ส่วนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงดังกล่าว ได้สั่งการไปแล้วเช่นกัน” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net