33องค์กรภาคประชาสังคมภาคเหนือเด้งรับการปฏิรูปคู่ขนานไปกับ สปช. เพื่อยกร่างให้รัฐธรรมนูญมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ชูกระจายอำนาจฯจัดการทรัพยากรในท้องถิ่น รัฐสวัสดิการ ฯลฯ วอน สนช.เสนอ คสช.ยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อบรรยากาศอันดีในการปฏิรูป
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 สภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป (สชป.) ภาคเหนือตอนบน ได้เปิดเวที ข้อเสนอต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญภาคประชาชน ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ประมาณ 100 คน จาก 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน พะเยา และร่วมด้วยประชาสังคมจาก จ.ตาก
ผู้เข้าร่วมเวทีสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป (สชป.) ภาคเหนือตอนบน ได้ระดมข้อเสนอต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญภาคประชาชน ในครั้งนี้ โดยนำเสนอในสี่หมวดหลักที่เกี่ยวข้องกับภาคประชาชน ได้แก่ 1) หมวดสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยกับสิทธิชุมชน 2) หมวดการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรงของประชาชน 3) หมวดการปกครองส่วนท้องถิ่นและการกระจายอำนาจ 4) หมวดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ
ซึ่งหลังจากมีการระดมความคิดเห็นในช่วงเช้าและได้ข้อสรุปในช่วงบ่ายแล้ว ทาง สชป. ภาคเหนือตอนบน ก็ได้ส่งมอบข้อเสนอจากภาคประชาชนครั้งนี้ แก่สปช. (สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ) จังหวัดเชียงใหม่ ดร.จุไรรัตน์ กุลจักรวัฒน์ ซึ่งเดินทางมารับฟังช่วงบ่ายและยินดีนำข้อเสนอของ สชป.ภาคเหนือตอนบน ไปมอบแด่ประธาน สปช. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ
โดยสาระหลักของข้อเสนอการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของ สชป.ภาคเหนือตอนบน คือการเน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และให้ประชาชนมีสิทธิ์ มีส่วนร่วม และเป็นกลไกในการตัดสินใจต่อประเด็นสำคัญๆ อาทิ การจัดการทรัพยากร รัฐสวัสดิการ และอีกหลากหลายมิติเพื่อสร้างฐานการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน
และประเด็นสำคัญที่สุดคือ การขอให้ สปช. เสนอต่อ คสช. ให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อจะได้ให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันจะเป็นการสร้างบรรยากาศการรับฟังที่ดี สร้างการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
๐๐๐๐
จดหมายเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)
เรื่อง ข้อเสนอเบื้องต้นเพื่อขจัดปัญหาอุปสรรคการมีส่วนร่วมของประชาชนส่วนใหญ่ในการปฏิรูป
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557
สืบเนื่องจากสถานการณ์ปฏิรูปประเทศในขณะนี้ ที่จำเป็นอย่างยิ่งทุกภาคส่วนต้องเข้ามีส่วนร่วมอย่างจริงจัง ไม่ปล่อยให้สาระสำคัญของการปฏิรูปในครั้งนี้ถูกผูกขาดอยู่แต่เฉพาะส่วนของกลไกที่จัดตั้งขึ้นเพียงเท่านั้น และในปัจจุบันใน 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน ได้มีมติจัดตั้งสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 รวมทั้งเข้าร่วมกับสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูประดับประเทศที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดทำรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปประเทศที่ประชาชนจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม
สภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปที่จัดตั้งขึ้นจะทำงานเชื่อมโยงกันตั้งตั้งแต่ระดับพื้นที่จังหวัด ระดับประเทศ และจะเชื่อมโยงการกับการทำงานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะกรรมาธิการในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้ชัดเจนทั้งนี้โดยมี คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน สภาองค์กรชุมชน คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.)เป็นหน่วยสนับสนุนวิชาการ ประสานการรวบรวมข้อเสนอเพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
ในการประชุมครั้งนี้ ได้พิจารณาต่อยอดสาระสำคัญในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในหมวดสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทยกับสิทธิชุมชน การมีส่วนร่วมทางการเมืองทางตรงของประชาชน การกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่น การกำหนแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ทั้งนี้โดยมีข้อเสนอที่สำคัญที่เกิดขึ้นอย่างมาก รวมทั้งมีข้อเสนอเชิงกระบวนการทำงานร่วมกับ สภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ ให้เป็นระบบที่ชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ที่ประชุมจึงขอเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้พิจารณาจัดทำแผนการรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคประชาชน ในทุกระดับอย่างชัดเจน พัฒนาให้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการมีส่วนร่วมอย่างชัดเจน ในเบื้องต้น ทางสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ขอเสนอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้จัดทำข้อเสนอให้รัฐบาลประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อทำให้เกิดบรรยากาศของกระบวนการรับฟังและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และภาคส่วนต่างๆ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นไปอย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
สำหรับข้อเสนอที่เป็นสาระสำคัญที่ต้องการบรรจุในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทางสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปจะได้นำเสนอกับท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
สภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปภาคเหนือตอนบน
๐๐๐๐
หมายเหตุ : สภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป (สชป.) คือ การรวมกลุ่มของ 33 องค์กร ทั้งจากภาคประชาสังคม นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน เครือข่ายนักธุรกิจ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการปฏิรูปจากภาคประชาชนสู่ สปช. หรือเป็นการตั้งสภาคู่ขนานไปกับ สปช. เพื่อให้การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนด้วย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)