แท็กซี่เขียวเหลืองเรียกร้องขึ้นค่าโดยสารร้อยละ 25-35 ไม่ใช่ร้อยละ 13 ตามที่กระทรวงคมนาคมระบุ กดดันให้ขึ้นในปลายเดือนนี้ ชี้ต้นทุนค่ารถและก๊าซขยับสูง

 

6 ธ.ค. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายปฐวี มีราช ประธานศูนย์วิทยุนภาสยามเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับค่าโดยสารแท็กซี่ขึ้นอีกร้อยละ 25-35 ซึ่งเป็นข้อสรุปจากการประชุมปฏิบัติการเมื่อปี 2551 ไม่ใช่ปรับขึ้นร้อยละ 13 เพราะยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง อีกทั้งปัจจุบันต้นทุนรถทั้งค่าเช่า ค่าซื้อรถและราคาก๊าซปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว ดังนั้น ทางศูนย์ฯจะประสานงานร่วมกันกับสหกรณ์แท็กซี่ต่าง ๆ เพื่อจัดประชุมปฎิบัติการร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปต้นทุนแท็กซี่ในปัจจุบันต่อไป ซึ่งเชื่อว่า หากแท็กซี่ได้รับการปรับค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงแล้ว การปฎิเสธผู้โดยสารก็จะลดน้อยลง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะหมดไปเนื่องจากการให้บริการของรถแท็กซี่มีทั้งรถส่วนบุคคลและรถเช่า

 

นายปฐวี ไม่เชื่อว่า ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ กรมการขนส่งทางบก จะทำได้ตามเป้าหมายที่ว่า จะมีรถแท็กซี่ร้อยละ 85 ของจำนวนรถที่วิ่งให้บริการทั้งหมดกว่า 80,000 คันผ่านการตรวจสภาพและปรับมิเตอร์แล้วเสร็จ และสามารถเริ่มต้นใช้อัตราค่าโดยสารที่ปรับขึ้นใหม่ร้อยละ 8 ได้ ภายในปลายเดือนธันวาคมนี้ แต่น่าจะใช้เวลา 4-5 เดือนนับจากนี้ไปจึงจะได้ตามเป้าหมาย เพราะรถที่เข้ามาตรวจหากมีปัญหาไม่ได้ตามมาตรฐานต้องนำไปปรับปรุงอีก ดังนั้น จึงขอให้กรมการขนส่งทางบกผ่อนผันบ้าง เพราะต้นทุนผู้ประกอบการเกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสาร

 

นอกจากนี้ การที่แท็กซี่ ต้องปรับมิเตอร์แท็กซี่ 2 ครั้ง ตามอัตราค่าโดยสารที่ให้ปรับขึ้นแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ ร้อยละ 8 ช่วงทดลองและระยะต่อไปอีกร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 13 นั้น ต้องการสอบถามว่า การปรับมิเตอร์ครั้งที่ 2 ใครจะเป็นผู้รับภาระต้นทุน กรมการขนส่งทางบกหรือไม่ เพราะการปรับค่าโดยสารครั้งที่ผ่านมา ปรับมิเตอร์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการเป็นผู้รับภาระ