กสทช. สั่ง ISP ปิดเว็บหมิ่นสถาบันทันที ไม่ต้องขอความเห็นชอบ

เฟซบุ๊กไม่มาร่วมประชุม กสทช. เหตุไม่ว่าง ส่วนผลประชุม สำนักงาน กสทช. สั่ง ISP ทุกรายปิดหน้าเว็บที่มีการนำเสนอหมิ่นสถาบันโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบ กสทช.ก่อน ตำรวจสันติบาลลั่น พร้อมดำเนินคดีโดยเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิดทันที

29 ธ.ค. 2557 กรณีสำนักงาน กสทช. ระบุว่าจะเชิญตัวแทนเฟซบุ๊ก ประเทศไทย มาหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันรวมถึงการดำเนินการกับผู้โพสต์ข้อความ หรือเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในวันนี้ ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.27 น. ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าว ไทยพีบีเอส รายงานผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุ เฟซบุ๊กไม่มาและไม่ได้ส่งตัวแทนร่วม โดยให้เหตุผลว่าไม่ว่าง

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) ทวีตข่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @TakornNBTC เปิดเผยผลการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอินเทอร์เน็ต (ISP) รายใหญ่ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) ในวันนี้ (29 ธ.ค.) ว่า ผลจากการประชุมหารือ สำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้ ISP ทุกราย ดำเนินการตรวจสอบและทำการปิดหน้าเพจที่มีเนื้อที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หรือมีเนื้อหาที่หมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทันทีโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงาน กสทช. ในกรณีที่มีข้อสงสัยในเนื้อหา ว่าเข้าข่ายที่ต้องปิดหรือไม่ ให้ติดต่อยังผู้ประสานงาน 5 คนที่สำนักงาน กสทช. ได้ให้รายชื่อไว้ หรือรายงานมาที่อีเมล report.nbtc@gmail.com โดยหลังจากที่ทำการปิดเพจแล้วให้ ISP รายงานมายัง สำนักงาน กสทช. และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กระทรวง ICT) ทราบทันที

อย่างไรก็ตาม พบว่ากระบวนการปิดเว็บนั้น มีการรายงานข่าวในรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป โดยเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นายฐากร ระบุว่า ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายดำเนินการตรวจสอบเพจ หรือเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบัน แล้วให้รายงานข้อมูลทั้งหมดมายัง กสทช. เพื่อนำเข้าระบบโปรแกรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการปิดการเข้าถึงเนื้อหาหมิ่นสถาบันได้ภายใน 30 นาที พร้อมแสดงสัญลักษณ์ คสช. บนหน้าเพจ หรือเว็บไซต์

ขณะที่เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่า สำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้ไอเอสพีทุกราย ดำเนินการตรวจสอบและทำการปิดหน้าเพจที่มีเนื้อที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หรือมีเนื้อหาที่หมิ่นสถาบันทันที โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงาน กสทช. ในกรณีที่มีข้อสงสัยในเนื้อหาว่าเข้าข่ายที่ต้องปิดหรือไม่ ให้ติดต่อยังผู้ประสานงาน 5 คน ที่เป็นคณะทำงานพิเศษของสำนักงาน กสทช. จากนั้นคณะทำงานพิเศษของกสทช. จะส่งต่อเข้าไปยังโปรแกรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะดำเนินการปิดหน้าเพจนั้นทันทีภายใน 30 วินาที

สำหรับประเด็นระยะเวลานั้น มีการรายงานแตกต่างกัน ผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า 30 นาที ส่วนข่าวสดและ NOW26 ระบุว่า 30 วินาที
       
ทั้งนี้ กสทช.คาดว่าจะสามารถดำเนินการปิดเว็บไซต์ และเพจที่หมิ่นได้ทั้งหมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ พร้อมมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังไลน์ ยูทิวบ์ อย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกัน จะเตรียมหารือร่วมกับเฟซบุ๊กอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ม.ค. 58 เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่ยังไม่สามารถติดต่อเฟซบุ๊กให้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

“กรณีนี้ไม่ต้องรอคำสั่งศาลก็สามารถใช้กระบวนการของ กสทช.และ คสช. ได้ทันที จากเดิมที่ผ่านมาต้องรอคำสั่งศาล หรือใช้แนวทางการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ต ซึ่งในปี 57 ได้ปิดเว็บ และเพจที่หมิ่นสถาบันไปแล้ว จำนวน 1,125 ราย ส่วนในปี 56 ปิดจำนวน 1,460 ราย” นายฐากรกล่าว

การดำเนินการในเรื่องนี้ สำนักงาน กสทช. ดำเนินการในภาพใหญ่ทั้งหมดในการใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเฟซบุ๊ก การมอนิเตอร์เนื้อหาจะมีจากทั้ง 2 ส่วนคือจากสำนักงาน กสทช. เองและผู้ประกอบการ ISP ในส่วนของการดำเนินคดีหลังจากนั้น จะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสันติบาลที่จะดำเนินการร่วมกันหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป

“สำนักงาน กสทช. ตระหนักว่า อาจมีประชาชนบางส่วนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โพสต์ข้อความหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน จะขอให้ประชาชนระมัดระวังตรวจสอบเนื้อหาข้อความก่อนทำการโพสต์ หรือแชร์เนื้อหาข้อความใดๆ และหากประชาชนพบเห็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายเป็นภัยต่อความมั่นคง ขอให้แจ้งมายังสำนักงาน กสทช. ที่อีเมล report.nbtc@gmail.com ทันที”

ด้านพล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า สันติบาลพร้อมในการหาตัวผู้กระทำความผิด และพร้อมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในกรณีการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นภัยต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเด็ดขาดทันที

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวของ กสทช.ในครั้งนี้ นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ อำนาจการปิดเว็บไซต์เป็นงานของไอซีที เพราะมีศูนย์ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ที่ ทีโอที แต่ กสทช. สามารถทำได้เพราะเป็นผู้ให้ใบอนุญาตแก่ไอเอสพี โดยในอนาคตไอซีทีต้องให้ กสทช.และไอซีทีทำงานร่วมกันมากกว่านี้เพื่อให้งานชัดเจน ไม่ใช่ต่างคนต่างแยกกันทำ

 

ที่มา:
เฟซบุ๊ก ภัทราพร ตั๊นงาม
ทวิตเตอร์ ฐากร ตัณฑสิทธิ์

ข่าวสด
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท