ที่ประชุม ครม.วันนี้ รับทราบการตัดสิทธิ์พิเศษทางภาษีของสหภาพยุโรปต่อประเทศไทยทุกรายการ โฆษกสำนักนายกฯ เชื่อไม่กระทบผู้ประกอบการไทยมากนัก ชี้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย

6 ม.ค.2558 สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์รายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้รับทราบถึงกรณีที่สหภาพยุโรป หรืออียู ตัดสิทธิทางภาษีศุลกากรตามโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในทุกรายการสินค้าของไทยจำนวน 773 รายการ

ร้อยเอกนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รายงานต่อที่ประชุม ครม.กรณีประเทศไทยถูกตัดสิทธิทางภาษีศุลกากรตามโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในทุกรายการสินค้า จำนวน 773 รายการ จากสหภาพยุโรป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้ไทยถูกตัดสิทธิ์ GSP ว่า เนื่องจากธนาคารโลกได้จัดอันดับให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงติดต่อกันมาเป็นเวลามากกว่า 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2556  นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ ที่เสียสิทธิ์พิเศษทางภาษีดังกล่าว อาทิ จีน เอกวาดอร์ และมัลดีฟส์

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเสียสิทธิ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยมากนัก เนื่องจากประเทศคู่แข่งในตลาดอียูก็โดนตัดสิทธิ์เช่นเดียวกัน อีกทั้งการจัดเก็บภาษีก็จะจัดเก็บในระดับต่ำ และสินค้าไทยในหลายรายการยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดของยุโรป รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทย ให้เข้าใจถึงระเบียบวิธีปฏิบัติใหม่ในการส่งออกไปยังตลาดยุโรปแล้ว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การตัดสิทธิ์ครั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของอียู ซึ่งไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการเมืองของไทยกับประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป

ที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์