ถาวร เสนเนียม ห่วงใยต่อวัตถุประสงค์การทำรัฐประหาร-พร้อมขอให้เร่งปราบทุจริต

อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เขียนถึงคำสั่ง คสช. 127/2557 ตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ สะท้อนความตั้งใจ คสช. ในการปราบทุจริต โดยขอฝาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้ตรวจสอบป้องกัน-ขจัดการทุจริตเร่งด่วนในกรณีถอดถอนยิ่งลักษณ์-สมศักดิ์-นิคม และการแต่งตั้งข้าราชการและจัดซื้อจัดจ้างโดยอ้างชื่อ คสช.

ถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ที่มา: เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย)

9 ม.ค. 2558 - เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ รายงานว่า ถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ค "ส.ส. ถาวร เสนเนียมและคณะทำงานสาขาพรรค" ระบุว่า

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รัฐประหารยึดอำนาจในการบริหารประเทศ ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 ขึ้นบังคับใช้ เหตุผลหลักที่ไม่สามารถปฏิเสธได้สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งของประชาชนจากการต่อต้านปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เช่น นโยบายรับจำนำข้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบการคลังของรัฐหลายแสนล้านบาท การออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำผิดกฎหมายแบบไม่ยกเว้นฐานความผิด จนเป็นเหตุให้เกิดการชุมนุมของประชาชนเป็นจำนวนนับสิบล้านคนเพื่อต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาล"

"คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ตระหนักถึงความสำคัญและเร่งด่วนในการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 127/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างเหมาะสม และสามารถผลักดันนโยบายในเรื่องการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่จะปราบปรามการทุจริตและประพฤติ มิชอบให้หมดไปจากสังคมไทยและถือเป็นการปฏิรูปประเทศให้ก้าวผ่านการทุจริตและประพฤติมิชอบที่กัดกร่อนประเทศไทยเป็นระยะเวลามายาวนาน"

"ที่ผ่านมากระผมได้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเพื่อให้เกิดการปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน แต่กลับถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นที่หนักจนเกินไป ในส่วนนี้กระผมขอเรียนว่า การแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมาเป็นการแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมณ์แห่งมวลมหาประชาชนที่ต้องการให้ประเทศไทยได้มีการปฏิรูปการทุจริตคอรัปชั่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับผู้กระทำความผิด จนตกผลึกในความคิดว่าการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นต้องกระทำอย่างจริงจังและเข้มข้น โดยการเพิ่มระบบตรวจสอบให้ประชาชนเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานทุจริตคอรัปชั่นดังที่ได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไปแล้วนั้น"

"การรับฟังความเห็นของประชาชนจึงถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ร่วมกันปฏิรูปประเทศ กระผมจึงขอฝากไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีให้ตรวจสอบการป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบเร่งด่วนในกรณี"

"1. การทำหน้าที่ถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และนายนิคม ไวยพาณิชย์ ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อันมีมูลเหตุแห่งการถอดถอนจากการส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย จึงขอให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีความตระหนักและความกล้าหาญในการทำหน้าที่ให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปอย่างเข้มข้นและยุติธรรมที่มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติอันเป็นภารกิจหลักในการปฏิรูปประเทศไทย ในการใช้ดุลพินิจถอดถอนบุคคลทั้งสามคน และยังมีการทุจริตในระบบข้าราชการอยู่เหมือนเดิม และบางพื้นที่ทุจริตมากกว่าเดิมเช่น ผู้บริหารในระบบราชการที่อ้างว่าเป็นเพื่อนนายกประยุทธ์หรือเรียน วปอ. รุ่นเดียวกับ คสช. เป็นต้น

2. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในขณะนี้มีการกล่าวกันอย่างหนาหูถึงการแต่งตั้งข้าราชการตามคำร้องขอของคนรอบข้างผู้มีอำนาจคณะรัฐมนตรี คสช. หรือทหาร การใช้ชื่อหรือยอมให้ใช้ชื่อของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี เพื่อหาผลประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายตลอดถึงการจัดจ้างในโครงการของรัฐบาลในหลายโครงการ จึงขอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ตระหนักถึงเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม ความเหมาะสม ความสามารถ เพื่อพัฒนาหน่วยงานให้มีการโยกย้ายอย่างโปร่งใส เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์อีกประการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติอันเป็นภารกิจหลักในการปฏิรูปประเทศไทย มีการวิพากษ์วิจารณ์จากข้าราชการในหลายหน่วยงานว่ามีการวิ่งเต้นในการแต่งตั้งโยกย้าย ใช้เส้นสายมากกว่าเดิม ผมจึงขอให้ท่านนายกตรวจสอบควบคุมให้มากขึ้น"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท