ส. ศิวรักษ์: มอง คสช. ทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

 

การรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ชนชั้นกลางเป็นจำนวนไม่น้อย ที่พอใจ โดยเฉพาะก็พวกที่เกลียดทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และพวกเสื้อแดงเกือบทั้งหมด อย่างน้อยความวุ่นวายบนท้องถนนและตามที่ต่าง ๆ รวมทั้งความรุนแรงทั้งทางกายกรรมและวจีกรรม จะได้ปลาสนาการไป โดยเราจะกล่าวหาว่า กปปส. เป็นเลศของคณะทหาร ที่วางแผนด้านการยึดอำนาจการเมืองการปกครองก็ได้

ก็การยึดอำนาจคราวนั้น คสช. ใช้มาตรการที่ไม่รุนแรงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีอื่น ๆ ก่อนหน้านั้น โดยเฉพาะก็ รสช. ภายใต้การนำของสุจินดา คราประยูร ซึ่งเฉลียวฉลาดมากกว่าประยุทธ์ จันทร์โอชามาก หากทุจริตคิดมิชอบเป็นอย่างมากพร้อม ๆ กันไปในตัว

คสช. “เชิญ” คนไปพบมากมายหลายคน บางคนได้รับการต้อนรับอย่างดี ที่เลวร้ายก็กักตัวไว้ไม่นาน แล้วก็ปล่อยไป แม้จะมีขู่ด้วยเลศนัยบ้างก็ตาม โดยเฉพาะคนก็มีกรณีมาตรา 112 เป็นชนักติดหลังอยู่ เพราะ คสช. จะใช้กฎหมายที่ว่านี้เล่นงานเอาเมื่อไรก็ได้

กฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นเครื่องมือของคนมีอำนาจมาทุกยุคทุกสมัย รวมถึงฝ่ายประชาธิปัตย์ และฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งใช้มาตรานี้เล่นงานฝ่ายตรงกันข้ามอย่างไร้ความละอาย แม้จะมีพระราชดำรัสไว้ชัดเจน ว่าใครทำเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ย่อมเป็นการทำร้ายพระองค์ท่านและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย โดยที่ทุกรัฐบาลอ้างความจงรักภักดี แต่ไม่มีใครดำเนินนโยบายสนองพระราชปณิธานเอาเลย ยิ่งสมัยทักษิณกับบริวารของเขาด้วยบ้าง ได้ใช้กฎหมายนี้ปู้ยี่ปู้ยำประชาชนพลเมืองมากขึ้นทุกที โดยที่ คสช. ก็หาได้เพลามือในเรื่องนี้ไม่

ถ้าผู้นำ คสช. มีความกล้าหาญทางจริยธรรม ต้องยกเลิกมาตรานี้ และนิรโทษกรรมนักโทษที่ถูกมาตรานี้เล่นงานแทบทั้งหมด ถ้าไม่กล้าเลิก ก็ต้องหามาตรการป้องกันไม่ให้ใช้มาตรานี้เพื่อเอาผิดผู้คนได้ง่าย ๆ โดยจะใช้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) หรือคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ตรวจตราดูก่อน หาไม่ตำรวจต้องรับฟ้องคดีพวกนี้อย่างไม่มีเวลาพักเอาเลย แล้วก็ต้องยื่นอัยการ ซึ่งก็ไม่กล้าระงับคดีดังกล่าว จนคดีรกศาลไปหมดแล้ว โดยที่คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับประโยชน์ ทั้งศาลยังมีอคติในทางลบเกี่ยวกับจำเลยในคดีนี้แทบทั้งนั้นอีกด้วย ทั้งหมดนี้ต้องขอกล่าวว่าขบวนการยุติธรรมไม่ช่วยผดุงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ไพร่บ้านพลเมืองก็เดือดร้อนกันตาม ๆ อย่างกว้างขวางยิ่ง ๆ ขึ้น แล้ว คสช. จะคืนความสุขให้ประชาชนได้อย่างไร

นี่คือแง่ลบอันฉกรรจ์เกี่ยวกับ คสช. ว่าไปทำไมมี ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ก็ไม่กล้าแตะเรื่องนี้กันทั้งนั้น เพราะขาดความกล้าหาญทางจริยธรรมตาม ๆ กัน ในแทบทุกชนชั้นปกครอง

ยังกฎอัยการศึกนั้นเล่า ย่อมให้โทษยิ่งกว่าให้คุณ ถ้ามีภาวะวิกฤต เช่นเกิดศึกเสือเหนือใต้ จะใช้กฎอัยการศึก เพื่อรวบรวมผู้คนต่อสู้กับอริราชศัตรูให้ทันกาล ก็ย่อมสมควรอยู่ แต่ถ้าปราศจากสงคราม แล้วใช้กฎอัยการศึก ต้องกำหนดเวลาไว้ให้สั้น เพื่อเผด็จการจะได้ทำอะไร ๆ ได้ทันท่วงที โดยไม่มีฝ่ายค้าน แต่ปล่อยให้นานไป และผู้นำเองไม่ได้คุมกฎอัยการศึกอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง โดยไม่คำนึงสิทธิมนุษยชนเป็นที่ตั้ง แม่ทัพนายกองตามภูมิภาคต่าง ๆ และนายตำรวจตัวโต ๆ ที่หากินใกล้ชิดอยู่กับผู้มีอิทธิพลตามท้องถิ่น ย่อมเอากฎอัยการศึกมารีดนาทาเร้นราษฎร โดยเฉพาะก็พวกที่คัดค้านการพัฒนาเพื่อความหายนะของระบบนิเวศ และเอารัดเอาเปรียบราษฎรตาดำ ๆ ไม่ทราบหรือว่าความเจริญทางเทคโนโลยีมีโทษยิ่งกว่ามีคุณ และผลประโยชน์ที่ได้ก็เพื่อตัวโต ๆ จะได้เขมือบกัน ด้วยความร่วมมือกับบรรษัทข้ามชาติ ไม่ว่าจะการเจาะน้ำมัน การทำเหมืองแร่ทองคำ เหมืองแร่โปแตส โรงไฟฟ้าถ่านหิน รวมถึงที่ทักษิณ ชินวัตรและบริษัทบริวารเอารัฐบาลไทยไปทำโครงการอันยิ่งใหญ่ในทวาย ซึ่งจะมีหายนะยิ่งกว่ามาบตาพุดของเราทางจังหวัดระยองเป็นไหน ๆ

ความข้อนี้ ถ้า คสช. ไม่แก้ไขขั้นพื้นฐาน จะเป็นแง่ลบของ คสช. เป็นอย่างยิ่ง รวมถึงรถไฟอันทันสมัยอย่างยิ่ง ซึ่งจีนจะเข้ามามีอิทธิพลเหนือเรายิ่ง ๆ ขึ้น และคนของเราก็จะโกงกินกับจีน ดังจีนปู้ยี่ปู้ยำแม่น้ำโขง รวมทั้งพม่า และลาวมาอย่างเห็นจะ ๆ มาแล้ว

การที่ผู้แทนของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาบีบบังคับรัฐบาลไทยอย่างอ้อม ๆ ให้เลิกกฎอัยการศึก ทั้งยังแสดงทีท่าอย่างน่าเกลียดกับการแสดงความเห็นใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ถูกถอดออกจากตำแหน่ง แสดงว่ารัฐบาลสหรัฐฯบัดซบแท้ทีเดียว ก็สมัยเผด็จการ ส. ธนะรัชต์ เป็นมากี่ปีต่อกี่ปี ทำไมสหรัฐฯจึงอุดหนุนรัฐบาลไทยอย่างเต็มที่ เฉกเช่นที่อุดหนุนเผด็จการสุฮาโตแห่งอินโดนีเซีย แบบเบ็ดเสร็จฉะนั้น

จะอ้างว่านั่นอเมริกันกลัวคอมมูนิสต์ มิใช่หรือ แม้เวลานี้จีนเกือบจะไม่เป็นคอมมูนิสต์อยู่แล้ว (หากอ้างว่าสมาทานลัทธินั้นในทางทฤษฎีเท่านั้น) แต่จีนก็ยังคงเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ทำไมสหรัฐฯจึงไม่ใช้อุบายอันแยบคายชักชวนรัฐบาลไทยให้ตีตัวออกจากจักรวรรดิจีน

ที่ประธานาธิบดีโอบาม่าไปอินเดียอย่างเป็นทางการนั้น เห็นได้ชัดเจน ว่าสองประเทศนี้จับมือกันเพื่อแสดงให้จีนเห็นว่า จักใช้อิทธิพลอันมิชอบให้ขยายต่อไปในภูมิภาคต่าง ๆ นั้น ทำต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ดังพม่าก็ผละออกจากอาณัติของจีนมากขึ้นแล้ว หากลาวยังได้แต่ส่ายหน้ากับอาณานิคมอย่างใหม่จากจีนแผ่นดินใหญ่

ศรีลังกาเคยเป็นลูกสมุนจีนอย่างเซื่อง ๆ จนตลอดสมัยที่นายราชปักษีเป็นประธานาธิบดี ครั้นเขาแพ้เลือกตั้งไปในเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดีคนใหม่ไปเยือนอินเดียเป็นประเทศแรกเลยนั้น นี่ก็คือสัญญาณของการหันหน้าออกจากจีนนั่นเอง แล้วเมื่อไรไทยจะหันออกนอกอาณัติของจีนบ้าง ไม่รู้ตัวกันเอาเลยหรือว่าจีนเลี้ยงไทยอย่างเซื่อง ๆ ตั้งแต่เจ้าฟ้า มาจนแม่ทัพนายกอง และคนอื่น ๆ ทางชนชั้นปกครอง และพ่อค้าวานิชตัวโต ๆ ในขณะที่ชาวไร่ชาวนาและคนเล็กคนน้อยของเรา ถูกจีนเอาเปรียบด้วยประการต่าง ๆ ดังคนเล็กคนน้อยของจีนก็ถูกปู้ยี่ปู้ยำคล้าย ๆ กัน

ข้าพเจ้ายังมองไม่เห็นเลยว่า ผู้นำ คสช.หรือมันสมองของเขา แลเห็นมหันตภัยจากจีน ทั้ง ๆ ที่สมัยหนึ่งเราเกลียดกลัวจีนคอมมูนิสต์ยิ่งนัก

การเกลียดกลัวมาจากภยาคติและโทสาคติ ส่วนการนิยมยกย่องจนสนิทชิดชอบอย่างเกินเลยไปมาจากฉันทาคติและโมหาคติ ผู้นำทางการเมืองของไทย น่าจะหันมาหาสาระทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นรากเง้าของเราบ้างแล้วละกระมัง

ว่าไปทำไมมี การพระศาสนาในเมืองไทยสมัยนี้ถูกไสยเวทวิทยา และศักดินาขัตติยาธิปไตยมอมเมา ทั้งยังสยบไปกับลัทธิทุนนิยม บริโภคนิยม ตลอดจนอำนาจนิยม จนพระสงฆ์เราหมดสิ้นสภาพความเป็นศากยบุตร พุทธชิโนรสในทางสาระ คือสมณะผู้มีความเรียบง่ายและโปร่งใส หากกลายเป็นพราหมณ์ ซึ่งประกอบแต่พิธีกรรม ซึ่งเป็นไปในทางมอมเมา ยิ่งกว่าปลุกให้ตัวเองตื่น และให้ญาติโยมตื่นจากความโลภโกรธหลง ให้ลดความเห็นแก่ตัวเพื่อประโยชน์สุขของสรรพสัตว์ ยิ่งจะให้เจ้ากูหรือฆราวาสชั้นนำเข้าใจโครงสร้างทางสังคมอันอยุติธรรมและรุนแรง เพื่อนำไตรสิกขามาประยุกต์ใช้กับอุบายโกศลด้วยแล้ว มองไม่เห็นเอาเลย

ความข้อนี้ก็เห็นจะเกินสติปัญญาและความสามารถของคณะ คสช. แล้วละกระมัง แต่ถ้ารู้จักมองให้เห็นปัญหา ก็น่าจะหากัลยาณมิตรมาแก้ปัญหาให้ได้

ข้อที่ว่า คสช. จะนำประชาธิปไตยมาให้เมืองไทยนั้น ข้าพเจ้าได้เขียนมาก่อนแล้ว จึงไม่ต้องการจะเอ่ยถึงไว้ในที่นี้อีก

ที่จริง ก็มีข้อที่ควรปรารภมาถึง คสช. ได้อีกหลายอย่างหลายประการ แต่เกรงว่าบทความนี้จะยาวเกินไป ชวนให้คนอ่านเบื่อได้ โดยที่ทาง คสช. ก็คงไม่อ่านกัน

ก่อนจบ ขอพูดว่าทุกเย็น มีรายการ คสช. หลังเคารพธงชาตินั้น นี่ก็น่าเลิกไปทั้งสองประการ คือการเคารพธงชาตินั้นก็เป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้ คสช. ด้วย แต่อย่างน้อยการโฆษณาชวนเชื่อนั้น ๆ ก็บางทีมีคนดี ๆ มาพูดให้ฟังบ้างเหมือนกัน เช่น นายอัมมาร์ สยามวาลานั้น พูดเตือนสติรัฐบาลอย่างน่ารับฟังทีเดียว ถ้า คสช. กล้าพอน่าจะเชิญนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ให้มาพูดออกความเห็นทางด้านการแก้ไขการเมืองการปกครอง เพราะเขาคนนี้ก็มีความซื่อสัตย์สุจริตและฉลาดเฉลียวไม่แพ้นายอัมมาร์ สยามวาลา แม้เขาจะหัวรุนแรงไปบ้าง ก็ไม่ควรที่เขาจะต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปต่างประเทศ

ถ้า คสช. เปิดกว้างได้มากเท่าไร เขาจะอยู่ในอำนาจตามกระแสของธรรม ยิ่งกว่าอธรรม แล้วเขาก็จะชนะใจของสาธุชนได้ โดยไม่ต้องประกาศในเรื่องคืนความสุขให้ประชาชนเอาเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าจะยังมีเพลงคืนความสุขให้ประชาชนแล้วไซร้ น่าจะหาคีตกวีที่สามารถมาร่วมบรรเลงให้ไพเราะ อย่าให้ซ้ำซากอย่างน่าเบื่อ สมัยเผด็จการ ป. พิบูลสงคราม และ ส. ธนะรัชต์ เราเบื่อเพลงของหลวงวิจิตรวาทการมาแล้ว อย่าให้ต้องมาเบื่อกับเพลงของประยุทธ์ จันทร์โอชาอีกเลย แต่เพลงของเขายังไม่เลวร้ายเท่าสุนทรพจน์ของเขา ซึ่งแสดงออกอย่างยืดยาวทุกสัปดาห์ แม้จะไม่ยาวเท่าของใครบางคน ที่พูดทีละ 4 ชั่วโมง แต่นั่นปีละหนเดียว หากถูกบังคับให้ฟังกันทุกคืนวันศุกร์ในบัดนี้ไม่น่าเบื่อดอกหรือ

คนที่เบื่อข่าวในพระราชสำนักทุกคืนแล้ว ยังมาโดนโฆษณาชวนเชื่อของ คสช. ทุกคืนอีกด้วย จะปิดโทรทัศน์เสียเลยทีเดียวน่าจะดีที่สุด เพราะรายการนอกจากนี้ก็เป็นเรื่องละครน้ำเน่า และโฆษณาชวนเชื่อ ให้หันไปในทางทุนนิยม บริโภคนิยม และอำนาจนิยมด้วยกันทั้งนั้น

ถ้า คสช. ไม่กล้าปรับปรุงสื่อมวลชนให้มีสาระ ดังที่ไม่กล้าจัดการศึกษาให้มีสาระ นั่นจะเป็นความล้มเหลวที่ฉกรรจ์ยิ่งกว่าอะไรอื่น

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: แฟนเพจ Sulak Sivaraksa

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท