กระทรวงคมนาคมมีมติปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก.โดยรถธรรมดาปรับขึ้น 1 บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ระยะละ 1 บาท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2558 ขณะที่ตั๋วโดยสารต้องใช้ 8 บาทก่อน หลังราคาใหม่ยังพิมพ์ไม่ทัน ด้าน ขสมก.เตรียมรถสำรองหากรถร่วมหยุดวิ่ง

 

6 ก.พ. 2558 สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางเปิดเผยว่าผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะร่วมบริการ ขสมก.เข้ารับฟังผลสรุปจากกระทรวงคมนาคม กรณียื่นหนังสือต่อกระทรวงคมนาคมให้พิจารณาการขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถร้อนจากอัตราเดิม 8 บาท เป็น 11 บาทและรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ปรับขึ้นอีกระยะละ 3 บาท เนื่องจากต้องแบกรับภาระต้นทุนจากการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมและมีแนวโน้มที่จะปรับราคาขึ้นไปอยู่ที่ 16 บาทต่อกิโลกรัม

 

โดยกระทรวงคมนาคมมีมติปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก.โดยรถธรรมดาปรับขึ้น 1 บาท และรถปรับอากาศอยู่ที่ระยะละ 1 บาท ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2558 ส่วนจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ กระทรวงคมนาคมขอพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการก่อน หากมีต้นทุนที่สูงขึ้นจะพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นให้อีกครั้ง

 

นอกจากนี้สมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางจะประชุมร่วมกันก่อนสรุปผลอีกครั้งก่อนจะสรุปผลว่าผู้ประกอบการยอมรับผลการอนุมัติของกระทรวงคมนาคมหรือไม่เนื่องจากการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท ไม่เสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการ และเงินอุดหนุนของภาครัฐ 30,000 บาทต่อคัน ไม่เพียงพอเพราะเป็นอัตราอุดหนุนที่ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 8.50 บาท ผู้ประกอบการจึงต้องการให้รัฐมาอุดหนุนอัตรา 80,000 บาทต่อคัน เนื่องจากเป็นอัตราที่เหมาะสมกับราคาก๊าซที่กิโลกรัมละ 13 บาท อย่างไรก็ตามในระยะแรกอาจต้องใช้ตั๋วโดยสารในราคา 8 บาท ไปก่อน เนื่องจากไม่สามารถพิมพ์ตั๋วราคาใหม่ 9 บาท ได้ทัน

 

ด้านนางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ขสมก.ได้เตรียมรถประจำทางไว้ให้บริการกับประชาชนในทุกเส้นทาง ในกรณีที่ผู้ประกอบการรถร่วมบริการขสมก.ต้องการที่จะหยุดเดินรถ และเตรียมประสานงานไปยังรถตู้ขสมก.และรถมินิบัสเพื่อขอให้มาช่วยวิ่งเสริม ซึ่งแม้ว่าจะไม่เพียงพอเท่าเดิมแต่ก็คาดว่าน่าจะช่วยบรรเทาและแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง