ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 3 ปี 4 เดือน ‘อดิสรณ์’ คดีลักทรัพย์ในรถบัสกลุ่มนปช.ที่ถูกเผา เหตุปะทะหน้ารามฯ 1 ธ.ค. 56 ขณะที่ยกฟ้องข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและก่อวุ่นวายแก่บ้านเมือง

16 ก.พ.2558 ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดฟังคำพิษากษาคดีดำ อ.542/57 ที่พนักงานอัยการ6 เป็นโจทก์ฟ้องนายอดิสรณ์ หรือดำ สีจันทร์ผ่อง อายุ 30 ปี จำเลยก่อความวุ่นวาย เผารถทัวร์ ลักทรัพย์ ในเหตุการณ์ความวุ่นวายหน้า ม.รามคำแหง ปี 2556

โดย มติชนออนไลน์ รายงานว่า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 และ 336 เนื่องจากปรากฎภาพจำเลยขณะยกทรัพย์จริง ศาลจึงพิพากษาจำคุก 5 ปี แต่จำเลยให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จึงลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน และคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับผู้เสียหายตามกฎหมาย

ส่วนข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและใช้กำลังขู่เข็ญประทุษร้าย และกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายแก่บ้านเมือง และข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หลักฐานยังไม่ชัดเจน เนื่องจากภาพที่ปรากฎไม่บ่งชี้ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ จึงพิพากษายกฟ้อง

คดีดังกล่างสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 พฤษจิกายน 2556 เวลาประมาณ 23.30 น. นายสมพงษ์ จันทร์งาม ได้ขับรถบัสโดยสารทะเบียน 30-0170 กำแพงเพชร พาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. จำนวน 16 คน จากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อมาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งขณะนั้นมีการปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช. กับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้เข้ามาทุบรถบัสโดยสาร และพยายามทำร้ายผู้โดยสารบนรถ จากนั้นแนวร่วม นปช. ได้ลงจากรถเข้าไปหลบในสนามกีฬา นายสมพงษ์จึงจอดรถไว้บริเวณทางเข้าประตู 1 สนามกีฬา จนวันที่ 1 ธันวาคม 2556 เวลาประมาณ 15.15 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปทุบทำลายและวางเพลิงเผารถบัสโดยสารคันดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งคัน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ต่อมามี นสพ.รายวันฉบับหนึ่งลงภาพคนร้าย 3 คนร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์รถบัสโดยสาร และภาพขนย้ายทรัพย์สินที่ลักมาได้จากบนรถด้วย

สำหรับผู้เสียชีวิตที่อยู่ในซากรถบัสที่ถฏเผานั้นคือ สุรเดช คำแปงใจ อายุ 17 ปี (อ่านรายละเอียด)