Skip to main content
sharethis

สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจพบว่าไทยมีกำลังแรงงาน 38.01 ล้านคน ผู้ว่างงานเดือนมกราคม 4.04 แสนคน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อนมีผู้ว่างงาน 3.61 แสนคน

3 มี.ค. 2558 - ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (3 มี.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนมกราคม พ.ศ. 2558 โดยมีรายละเอียดดังนี้

000

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเป็นประจำทุกเดือน โดยสอบถามประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศมีครัวเรือนตกเป็นตัวอย่าง 27,960 ครัวเรือนต่อเดือน คิดเป็นจำนวนประชากรที่ตกเป็นตัวอย่างทั้งสิ้นประมาณ 97,860 คน ซึ่งขนาดตัวอย่างดังกล่าวนำเสนอข้อมูลในระดับ ภาค และยอดรวมทั้งประเทศ  สำหรับแนวคิดและคำนิยามที่ใช้ในการสำรวจใช้ตามสภาพที่เหมาะสมกับประเทศไทย และตามข้อเสนอแนะขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และหน่วยงานสหประชาชาติ (UN) ซึ่งเป็นมาตรฐานทางสถิติที่ประเทศต่าง ๆ นำไปใช้ในการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเพื่อให้ได้ข้อมูลการทำงาน การว่างงาน และการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของประชากร ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ในระหว่างประเทศ

สำหรับในเดือนมกราคม พ.ศ. 2558 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงานมีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นคน (จาก 3.61 แสนคน เป็น 4.04 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557  หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.84 แสนคน (จาก 2.20 แสนคน เป็น 4.04 แสนคน) สำหรับสาระสำคัญการสำรวจสรุปได้ ดังนี้

1. ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน

ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 38.01 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 37.36 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.04 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 2.47 แสนคน ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน  มีจำนวนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวน 4.2 แสนคน (จาก 38.43 ล้านคน เป็น 38.01 ล้านคน)

2. ผู้มีงานทำ

ผู้มีงานทำ 37.36 ล้านคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 จำนวน 4.3 แสนคน (จาก 37.79   ล้านคน เป็น 37.36 ล้านคน) หรือลดลงร้อยละ 1.1 ซึ่งมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้นและลดลง ในสาขาต่างๆ ได้ดังนี้

2.1 ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น  ได้แก่ สาขาการผลิต 3.5 แสนคน (จาก 6.30 ล้านคน เป็น 6.65   ล้านคน) สาขาการก่อสร้าง 1.0 แสนคน (จาก 2.18 ล้านคน เป็น 2.28 ล้านคน) สาขากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ 4.0 หมื่นคน   (จาก 0.17 ล้านคน เป็น 0.21 ล้านคน) สาขากิจกรรมด้านสุขภาพ และงานสังคมสงเคราะห์ 3.0 หมื่นคน (จาก 0.64 ล้านคน เป็น 0.67 ล้านคน)

2.2 ผู้ทำงานลดลง ได้แก่ ผู้ทำงานสาขาภาคเกษตรกรรม 4.8 แสนคน (จาก 11.71 ล้านคน เป็น 11.23 ล้านคน) สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และรถจักรยานยนต์ 4.2 แสนคน (จาก 6.71 ล้านคน เป็น 6.29 ล้านคน) สาขาการขนส่ง และสถานที่เก็บสินค้า 7.0 หมื่นคน (จาก 1.28 ล้านคน เป็น 1.21 ล้านคน) สาขากิจกรรมทางการเงิน และการประกันภัย 6.0 หมื่นคน (จาก 0.59 ล้านคน เป็น 0.53 ล้านคน) สาขาที่พักแรมและการบริการด้านอาหาร 5.0 หมื่นคน (จาก 2.69 ล้านคน เป็น 2.64 ล้านคน)

3. ผู้ว่างงาน

3.1 ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 4.04 แสนคน  คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม (เพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557) ประกอบด้วย  ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.64 แสนคน  อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.40 แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคบริการและการค้า 1.19 แสนคน ภาคการผลิต 7.8 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 4.3   หมื่นคน

3.2 ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา 1.44 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 9.5 หมื่นคน ผู้ที่ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 6.6 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 5.0 หมื่นคน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4.9 หมื่นคน  

3.3 ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 1.41 แสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8.7 หมื่นคน ภาคเหนือ 6.2 หมื่นคน กรุงเทพมหานคร 5.8 หมื่นคน และภาคใต้ 5.6 หมื่นคน หากคิดเป็นอัตราการว่างงาน ภาคกลางมีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 1.2 รองลงมาเป็น กรุงเทพมหานครและภาคใต้ มีอัตราการว่างงานเท่ากันคือ ร้อยละ 1.1 ภาคเหนือ ร้อยละ 1.0  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 0.9

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net