Skip to main content
sharethis

ประธานสลัม 4 ภาค ยื่นจดหมายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ บอกให้ชุมชนริมรถไฟทางคู่ย้ายไปเช่าแฟลตที่รัฐจัดให้ - ชี้แนวคิดย้ายคนจนขึ้นแฟลต 'การเคหะ' ทำแล้ว 30 ปีไม่สำเร็จ ขณะที่ตั้งแต่สมัย ทักษิณ-สุรยุทธ์-อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์ คนจนนับหมื่นได้ร่วมกับภาครัฐพัฒนา "บ้านมั่นคง" ปรับปรุงไม่ให้ชุมชนกลายเป็นสลัม พร้อมเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ สานต่อนโยบายนี้ดีกว่า

จำนงค์ หนูพันธ์ (กลาง) ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค เมื่อครั้งเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 23 มกราคม 2558 (แฟ้มภาพ/ประชาไท)

24 มี.ค. 2558 - ตามที่เมื่อวันที่  20 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ขอให้ชุมชนริมเส้นทางรถไฟทางคู่ ย้ายไปเช่าอพาร์ทเม้นท์ที่รัฐจัดให้ โดยตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ทำอย่างไรก็ต้องร่วมมือกัน อย่ามาอยู่กันเลยแบบสลัม แบบชุมชนที่ๆ ผมเข้าใจว่า ท่านก็ไม่มีสตางค์ รัฐก็ต้องดูแลแต่ท่านก็ต้องมาเช่า มีทั้งเช่า มีทั้งผ่อนชำระ ผ่อนส่ง เช่าซื้อก็ไปว่ากันมา ถ้าไม่เริ่มคิดอย่างนี้เป็นไปไม่ได้วันหน้าก็รกรุงรังไปหมด ริมคลองก็ทำอะไรไม่ได้ แน่นคลอง ชุมชนก็แออัดไฟไหม้อีกอะไรอีก วุ่นวาย เราจะได้มาใช้พื้นที่ในการทำสวนสาธารณะในการทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกมากมาย สนามกีฬาแล้วคนเหล่านี้ก็มาขึ้นอยู่บนแฟลตหรือบนอพาร์ทเม้นท์ที่พอสมควร ก็ดี อย่างน้อยก็ดีกว่าเพิงสังกะสี หรือบ้านที่ผุพัง หน้าฝน หน้าร้อนก็ไม่สบาย ลูกหลานก็ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดี" (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. เครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้แถลงข่าวชี้แจง ยืนยันว่าชุมชนริมทางรถไฟ สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยไม่เป็นสลัมได้ โดยนายจำนงค์  หนูพันธ์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวข้อ "ขอคัดค้านการนำคนสลัมขึ้นแฟลต" โดยระบุว่า แนวคิดเรื่องให้ผู้มีรายได้น้อยย้ายไปอยู่แฟลต ไม่ใช่สิ่งใหม่ โดยการเคหะแห่งชาติได้ดำเนินโครงการลักษณะนี้มาไม่ต่ำกว่า 30 ปี "แต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดได้เพราะวิถีชีวิตคนจนเมืองส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นแรงงานนอกระบบ ที่ต้องใช้พื้นที่บ้านในการประกอบอาชีพด้วย เช่นเป็นที่ค้าขาย เป็นที่เก็บของเก่า เป็นที่ตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น ดังนั้นรูปแบบการอยู่อาศัยแบบแฟลตจึงไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพวกเขา"

"เครือข่ายสลัม 4 ภาค ขอยืนยันว่า คนจนเมืองไม่ต้องการอยู่อาศัยในลักษณะของสลัม" จดหมายตอนหนึ่งระบุ และยืนยันว่าในรอบหลายรัฐบาล ตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์,  อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนจนเมืองนับหมื่นครัวเรือนก็ได้ริเริ่มทำโครงการที่อยู่อาศัยแบบบ้านมั่นคง โดยร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานของชุมชนและปรับปรุงพัฒนาที่อยู่อาศัยไม่ให้มีลักษณะของการเป็นสลัม

ในท้ายจดหมาย เครือข่ายสลัม 4 ภาค ยังยืนยันให้ พล.อ.ประยุทธ์ "สานต่อในนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในลักษณะบ้านมั่นคง ที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวชุมชนในการปรับปรุงพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณที่ดินเดิมหรือพื้นที่ใกล้เคียง โดยการเช่าที่ดินระยะยาวจากรัฐ" โดยจดหมายเปิดผนึกของประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค มีดังนี้

000

เรื่อง ขอคัดค้านการนำคนสลัมขึ้นแฟลต
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

ตามที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเห็นในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เครือข่ายสลัม 4 ภาค เข้าใจว่าแนวความคิดดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นไปที่การสร้างแฟลต เพื่อรองรับการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชุมชนแออัด ที่จะโดนผลกระทบจากโครงการพัฒนาระบบราง โครงการพัฒนาริมคูคลอง อย่างไรก็ตามแนวความคิดเรื่องแฟลต ไม่ใช่สิ่งใหม่ การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินโครงการที่อยู่อาศัยในลักษณะนี้มาไม่ต่ำกว่า 30 ปี แต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดได้เพราะ วิถีชีวิตคนจนเมืองส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นแรงงานนอกระบบ ที่ต้องใช้พื้นที่บ้านในการประกอบอาชีพด้วย เช่นเป็นที่ค้าขาย เป็นที่เก็บของเก่า เป็นที่ตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น ดังนั้นรูปแบบการอยู่อาศัยแบบแฟลตจึงไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของพวกเขา

เครือข่ายสลัม 4 ภาค ขอยืนยันว่า คนจนเมืองไม่ต้องการอยู่อาศัยในลักษณะของสลัม และในรอบหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ไปจนถึงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนจนเมืองนับหมื่นครัวเรือนก็ได้ริเริ่มทำโครงการที่อยู่อาศัยแบบบ้านมั่นคง โดยร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานของชุมชนและปรับปรุงพัฒนาที่อยู่อาศัยไม่ให้มีลักษณะของการเป็นสลัม

สำหรับการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยสองข้างทางรางรถไฟ ที่ผ่านมาเครือข่ายสลัม 4 ภาคได้มีแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคม ในการสร้างความมั่นคงในที่ดินโดยการเช่าที่การรถไฟฯแล้วพัฒนาที่อยู่อาศัยตามนโยบายโครงการบ้านมั่นคง   ขณะนี้มีชุมชนหลายแห่งได้สิทธิ์การเช่าตามมติคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย 13 กันยายน 2543 แล้วปรับปรุงชุมชนสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ไม่มีสภาพเป็นสลัมอย่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้าง

โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วง จิระ-ขอนแก่น และ โครงการก่อสร้างรถไฟรางมาตรฐาน กรุงเทพฯ – หนองคาย ที่จะต้องผ่านตัวเมืองจังหวัดขอนแก่นนั้น  เครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้หารือแนวทางการพัฒนาทั้ง 2 โครงการ ร่วมกับทาง สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)  กระทั่งได้มีความเห็นเรื่องการใช้พื้นที่สองข้างทางรางรถไฟคือ ในระยะ 20 เมตรแรก จากกึ่งกลางรางออกไปทั้งสองฝั่ง ซ้ายขวา จะเป็นระยะทางการก่อสร้างของทั้ง 2 โครงการ ส่วนพื้นที่เมตรที่ 20 หลังของฝั่งซ้ายและฝั่งขวาจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวชุมชนที่จะปรับขยับบ้านให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้ปรับปรุงที่อยู่อาศัยในลักษณะโครงการบ้านมั่นคง และสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ไม่ให้มีสภาพเป็นชุมชนแออัด

ดังนั้นเครือข่ายสลัม 4 ภาค ใคร่ขอให้ ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีได้ทบทวนแนวความคิดในการแก้ปัญหาชุมชนที่อาศัยอยู่สองข้างทางรถไฟ โดยเครือข่ายสลัม 4 ภาค ขอยืนยันให้ให้ ท่านสานต่อในนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยในลักษณะบ้านมั่นคง ที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวชุมชนในการปรับปรุงพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณที่ดินเดิมหรือพื้นที่ใกล้เคียง โดยการเช่าที่ดินระยะยาวจากรัฐ

จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถือ

นายจำนงค์  หนูพันธ์
ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net