Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558 ณ สำนักงาน กสทช. กลุ่มตัวแทนภาคประชาชน 4 องค์กร ประกอบไปด้วย กลุ่มเครือข่ายรอบครัว กลุ่มเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายสื่อเพื่อเด็ก เครือข่ายชุมชน ได้ยืนจดหมายต่อ กสท. เพื่อขอให้ยกเลิกมติ กรณีบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) ถือหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมัเดีย จำกัด (มหาชน) เกินกำหนดไม่ผิดกติกา

เนื้อหาในจดหมายระบุว่า การเข้ามาถือหุ้นของ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998)หรือ SLC เข้ามาถือหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมัเดีย จำกัด (มหาชน) ถึง 12.27% ถือว่าไม่ผิดกติการนั้นเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ เปิดทางให้เกิดการควบรวมสื่ออย่างกว้างขวาง ละเมิดวลสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ที่ถูกต้องเป็นธรรม ปราศจากการครอบงำ จึงเสนอให้ กสท. ยึดมั่นเจตจำนงการปฏิรูปกฎหมายเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ยกเลิกมติคำตัดสินโดยด่วน และเคารพมติหลักเกณฑ์ก่อนการประมูลิจิตอล ที่ห้ามถือหุ้นไขว้ในสื่อดิจิตอล เกิน 10% และนำมาปฏิบัติหลังการประมูล 

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เป็นคนรับเรื่อง ส่วนทางกลุ่มเครือข่ายยังย้อีกว่าหาก กสท. ยังยืนยันมติเดิมจะนำประชาชนออกมาเดินขบวนเรียกร้องเพื่อนำมาสู่การถอดทอน กสท.

สุภิญญา กล่าวว่า การประชุมครั้งที่ผ่านมาเป็นความเห็นของกรรมการแต่ละคนเท่านั้น ยังไม่ใช่มติของบอร์ด เพราะหากเป็นมติต้องมีการฟันธงว่า " กรณี SLC ถือหุ้น เกิน 10% ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งในการประชุม กสท. ครั้งหน้า (วันจันทร์ที่ 30 มี.ค. 58) จะสอบถามในที่ประชุมว่า จะรับรองเรื่องนี้ว่าเป็นมติตามระเบียบการประชุมได้หรือไม่ ทั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ กสทช. เพื่อสอบถามถึงระเบียบ กสทช. และแนวปฏิบัติของการประชุม กสทช. ที่ผ่านมาหรือกรณีเทียบเคียง ในการพิจารณาการลงมติเสียงข้างมากและการวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในการลงมติวาระที่แตกต่างกันของคณะกรรมการแต่ละท่าน ส่วนกรณีที่ภาคประชาชน จะยื่นถอดถอนนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ยื่นถอดถอนได้ หากเห็นว่า กสทช. ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ

รายละเอียดมีดังนี้ 

เรื่อง ขอให้ยกเลิกมติ กสท.กรณีบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998)จำกัด (มหาชน)  ถือหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) เกินกำหนดไม่ผิดกติกา 

ตามที่ ความในมาตรา 31ของพ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจน ห้ามมิให้มีการครองสิทธิข้ามสื่อหรือควบรวมกิจการสื่อ ซึ่งเป็นไปเพื่อปกป้องรักษาสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนให้ได้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นธรรมหลากหลาย โดยปราศจากการครอบงำจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พวกเราพลเมืองมีความกังวลอย่างสูงว่า มติ กสท. เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ที่เป็นมติ 2:2:1 ซึ่งสรุปใจความได้ว่าการที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC   เข้ามาถือหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ถึง 12.27% ถือว่าไม่ผิดกติกานั้น กำลังเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ เปิดทางให้เกิดการควบรวมสื่ออย่างกว้างขวาง โดยไม่คำนึงว่ามติดังกล่าวขัดต่อ มาตรา 31 ของ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 และละเมิดสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจองประชาชน ที่ถูกต้อง เป็นธรรม ปราศจากการครอบงำ

ซึ่งการลงมติของ กรรมการ กสทช. 3 ท่านคือ พ.อ.ดร. นที ศุกลรัตน์ พล.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า ผู้ที่งดออกเสียง และ พลโท  ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ ผู้ที่ออกเสียงว่าไม่ผิด เป็นการกระทำที่เห็นได้ชัดว่าเพิกเฉยต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของกสทช. และถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนที่ได้รับการรับรองในรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงเสนอให้ กสท.ดำเนินการดังนี้ 1. ให้ยึดมั่นเจตนารมณ์ของกฎหมาย และเจตนารมณ์ของการปฏิรูปสื่อเป็นสำคัญ ทั้งนี้ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ 2. ยกเลิกมติดังกล่าวโดยด่วน 3. มีมติที่เคารพต่อหลักเกณฑ์ก่อนการประมูลดิจิตัล ที่ห้ามการถึอหุ้นไขว้ในสื่อดิจิตัลเกิน 10% และนำมาปฏิบัติอย่างต่อเนื่องภายหลังการประมูล หาก กสท.จะยืนยันมติเดิม กลุ่มประชาชนจะดำเนินการร้องเรียนเพื่อนำมาสู่การถอดถอนกสทช.ที่ได้รับมอบอำนาจจากประชาชนให้มาเป็นกรรมการในองค์กรกำกับดูแล แต่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญยิ่งต่ออนาคตประเทศ

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net