สื่อต่างประเทศมองกรณีศาลตัดสินจำคุก อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านของมาเลเซีย 5 ปี ในคดีมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันโดยไม่อนุญาตให้สืบสวนใหม่ เป็นการจงใจทำลายผู้นำฝ่ายค้านในช่วงเวลาที่พรรคกำลังมีความขัดแย้งภายใน ทำให้ขาดคนจัดการความขัดแย้งนั้น

2 เม.ย. 2558 ประสันธ์ ปรเมศวรัน ผู้ช่วยบรรณาธิการและนักวิเคราะห์เกี่ยวกับความมั่นคงเอเชียเขียนบทความลงในเดอะดิพโพลแมต เกี่ยวกับการลงโทษจำคุกอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านของมาเลเซียซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกัน โดยศาลสูงสุดของมาเลเซียปฏิเสธไม่ยอมรับคำอุทธรณ์จนกลายเป็นการคุกคามอาชีพสายการเมืองของเขา

ประสันธ์ ปรเมศวรันระบุว่าถึงแม้คำตัดสินลงโทษอันวาร์จะไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ก็ชวนให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับทิศทางของประเทศมาเลเซียหลังจากนี้

บทความในเดอะดิพโพลแมตตั้งข้อสังเกตว่าการนำข้อหามีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันมาดำเนินคดีกับอันวาร์อีกครั้งเป็นการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง อีกทั้งยังมีการตัดสินลงโทษด้วยหลักฐานที่ชวนตั้งคำถามและมีกระบวนการดำเนินคดีที่ไม่คงเส้นคงวาทำให้ถูกวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่ม โดยฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่ามีการนำข้อหานี้มาใช้กับอันวาร์หลายครั้งมาก แม้รัฐบาลมาเลเซียจะปฏิเสธว่าไม่มีการเล่นตุกติกในกรณีนี้ แต่ผู้สังเกตการณ์การเมืองในมาเลเซียก็มักจะไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของรัฐบาล

อันวาร์ อิบราฮิม เป็นนักการเมืองที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2536-2541 เขาเติบโตมาจากพรรคองค์การสหชาติมาเลย์หรือ 'อัมโน' (UMNO) ก่อนที่จะเริ่มมีความเห็นขัดแย้งกับมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีในยุคนั้นทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งและสั่งจำคุกด้วยข้อหาทุจริตคอร์รัปชันซึ่งคดีในตอนนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยองค์กรสิทธิมนุษยชนและรัฐบาลตะวันตกหลายประเทศ หลังจากพ้นโทษแล้วอันวาร์ก็กลับมาเป็นผู้นำคนสำคัญของฝ่ายค้านมาเลเซีย

ประสันธ์ ระบุในบทความว่า การสั่งจำคุกอันวาร์ในกรณีล่าสุดเป็นการบ่อนทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองซึ่งจะให้ผลประโยชน์แก่พรรคอัมโนและ นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของมาเลเซีย โดยที่ฝ่ายค้านของมาเลเซียก็มีการต่อสู้ขัดแย้งกันภายในอยู่แล้วแม้ว่าพรรคปากาตัน รักยัตซึ่งเป็นพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านจะสามารถชนะคะแนนเสียงโดยรวมจากประชาชนได้ในการเลือกตั้งปี 2556 (แต่มีที่นั่งในสภาน้อยกว่าพรรคอัมโน)

อันวาร์ถูกลงโทษให้จำคุก 5 ปี ในคดีล่าสุด ซึ่งประสันธ์มองว่าจะเป็นการทำให้เขาสูญเสียโอกาสทางการเมืองและทำให้ไม่มีผู้นำที่จัดการปัญหาในพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านได้

พรรคปากาตัน รักยัตเป็นพรรคแนวร่วมที่มาจากพรรคฝ่ายค้านร่วมกัน 3 พรรค ได้แก่ พรรคอิสลามสายอนุรักษ์นิยม, พรรคชนกลุ่มน้อยชาวจีน และพรรคของอันวาร์ซึ่งเป็นสายคนหลากเชื้อชาติที่ไม่ฝักใฝ่ศาสนา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งในพรรคถึงบทบาทของศาสนาในสังคมที่แยกรัฐจากศาสนาและอยู่ในประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่แต่ก็มีคนเชื้อสายจีนและเชื้อสายอินเดียซึ่งมีบทบาทสำคัญ เมื่อไม่มีอันวาร์อยู่ทำให้คนกังวลว่าพรรคแนวร่วมที่ขัดแย้งกันนี้จะมีอนาคตอย่างไร

ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์พรรคของอันวาร์ให้สัมภาษณ์ต่อเดอะดิพโพลแมตว่าพรรคแนวร่วมฝ่ายค้านจะดำเนินต่อไปได้เพราะการสนับสนุนจากประชาชนรากหญ้าและการนำของผู้ที่อยู่ระดับรองลงมา แต่เขาก็ยอมรับว่าพรรคแนวร่วมเองก็ต้องอยู่รอดให้ได้ก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก

เรียบเรียงจาก

Post-Anwar: Malaysia’s Gloomy Future, The Diplomat, 01-04-2015
http://thediplomat.com/2015/04/post-anwar-malaysias-gloomy-future/

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Anwar_Ibrahim