จับตาจีน 'วางเดิมพัน' แถบละตินอเมริกามากขึ้น

เว็บไซต์วิเคราะห์นโยบายการต่างประเทศ CIP America เปิดเผยถึงการที่จีนมีแผนลงทุนในประเทศแถบละตินอเมริกามากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการขุดเจาะวัตถุดิบ ขณะเดียวกันเหล่าผู้นำละตินอเมริกาก็อ้าแขนรับโดยหวังเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ แต่การเข้าไปของจีนก็เสี่ยงสร้างความขัดแย้งด้วย

4 เม.ย. 2558 เว็บไซต์โครงการศูนย์เพื่อนโยบายนานาชาติทวีปอเมริกาหรือซีไอพีอเมริกา (CIP America) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคละตินอเมริการายงานว่า ทางการจีนกำลังมีท่าทีหันไปจับมือกับเหล่าประเทศในละตินอเมริกาในหลายด้านมากขึ้น

ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกันระหว่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนกับประชาคมแห่งรัฐละตินอเมริกันและแคริบเบียน (CELAC) ในกรุงปักกิ่ง ที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนกล่าวในการเปิดการประชุมว่า ทางการจีนมีความเต็มใจจะร่วมมือกับ CELAC ในระยะยาวและมีการวางยุทธศาสตร์ในอนาคตเพื่อเป็นการสร้างพื้นที่ใหม่สำหรับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย

คำประกาศของผู้นำจีนดูเหมือนจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าผู้นำ CELAC มีการร่วมลงนามปฏิญญาปักกิ่งโดย รมต. ต่างประเทศ 33 คนจาก CELAC ซึ่งมีการระบุถึงแผนความร่วมมือ 5 ปี และตกลงจัดประชุมร่วมกันครั้งที่ 2 ในปี 2561

ริคาร์โด ปาตินโญ รัฐมนตรีต่างประเทศของเอกวาดอร์กล่าวไว้ในที่ประชุมใหญ่ของ CELAC เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ในคอสตาริกาว่าพวกเขาหันไปร่วมมือกับจีนแทนสหรัฐฯ แล้ว

รัฐบาลจีนประกาศเจตนาว่าจะมีการส่งเสริมการค้าแบบทวิภาคีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเขตภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียนเป็นมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 ซึ่งซีไอพีระบุว่าเป็นจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับการเพิ่มมูลค่าการค้าแบบทวิภาคีเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 22 เท่าเทียบตั้งแต่ปี 2543-2556 จนทำให้จีนกลายเป็นผู้เล่นหลักในด้านการค้าต่างประเทศในภูมิภาคนี้ ประธานาธิบดีจีนกล่าวในที่ประชุมอีกว่าจีนจะลงทุนเพิ่มอีก 250,000 ล้านดอลลาร์สำหรับภูมิภาคนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยไม่เพียงเน้นเรื่องการนำทรัพยากรออกมาเท่านั้น ยังรวมถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโครงการด้านเทคโนโลยี การวิจัยและการพัฒนาด้วย

อลิเซีย บาร์เซนา ผู้อำนวยการบริหารของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจละตินอเมริกาและแคริบเบียน (CEPAL) กล่าวเน้นย้ำว่าจีนจะเป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับภูมิภาคละตินอเมริกาและแถบแคริบเบียนในปีนี้ ประเมินจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงและมีอัตราการเติบโตร้อยละ 2 ซึ่งเป็นการอ้างอิงจากสำนักข่าวซินหัวของจีน ซึ่งบาร์เซนามองว่าจีนเป็นประเทศที่กำลังเปลี่ยนแปลงรูปแบบเพื่อสร้างโอกาสให้กับภูมิภาคของพวกเขา เธอมองว่าก่อนหน้านี้จีนมีการลงทุนภายนอกลดลงกว่าแต่ก่อนและเน้นการบริโภคภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้จีนน่าจะเลือกสถานที่ลงทุนมากขึ้นและบาร์เซน่าก็มองว่าจีนเลือกละตินอเมริกาเป็นหนึ่งในพื้นที่ลงทุนสำคัญ

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานอีกว่า ออสวัลโด โรซาเลส ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าและบูรณาการของ CEPAL ยังได้ย้ำถึงความที่จีนมีความต้องการดำเนินความสัมพันธ์กับภูมิภาคพวกเขาด้วยความเท่าเทียม การมีผลประโยชน์ร่วมกันและเปิดการมีส่วนร่วม ซึ่งทำให้ประเทศละตินอเมริกามองเห็นโอกาสของการพัฒนาและส่งออกสินค้าที่หลากหลายขึ้น

การค้นหาวัตถุดิบใหม่

ซีไอพีระบุว่าก่อนหน้านี้จีนและละตินอเมริกามีความสัมพันธ์ในแง่ที่ละตินอเมริกาเป็นผู้ส่งออกน้ำมัน, ไฮโดรคาร์บอน และแร่อื่นๆ ให้กับทวีปเอเชีย ในบางกรณีจีนก็เป็นผู้นำเข้าน้ำมันจำนวนมากจากประเทศละตินอเมริกาโดยเฉพาะจากเวเนซุเอลาทำให้การส่งออกเปลี่ยนข้างจากสหรัฐฯ มาอยู่ที่จีน โดยเวเนซุเอลาได้รับ 50,000 ล้านดอลลาร์เป็นเครดิตในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการเคหะโดยแลกกับน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการซื้อขายน้ำมันและแร่จากเอกวาดอร์โดยตรงจนทำให้ผู้นำเอกวาดอร์สามารถซื้อเครื่องจักรให้ประเทศได้

นอกจากนี้รองประธานาธิบดีของเอกวาดอร์ยังระบุอีกว่าจีนให้กู้ยืมได้โดยไม่ตั้งเงื่อนไขแบบไอเอ็มเอฟ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนโรงกลั่นน้ำมันหรือโรงสกัดแร่ในแถบแปซิฟิกทำให้จีนมีแร่วัตถุดิบได้อย่างไม่ขาดสายซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตทางอุตสาหกรรมและความต้องการของประชากร ผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวในจีนเพิ่มขึ้นจาก 205 ดอลลาร์ในปี 2523 เป็น 4289 ดอลลาร์ในปี 2553 ซึ่งจีดีพีร้อยละ 46 มาจากอุตสาหกรรม

ด้วยเหตุนี้เองบริษัทในจีนถึงมีความต้องการหลักๆ อยู่ที่พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติราวร้อยละ 83 จีนยังเป็นผู้บริโภครายใหญ่ของแร่อย่างอะลูมิเนียม, ทองแดง, ดีบุก, สังกะสี รวมถึงวัตถุดิบอย่างถั่วเหลือง รองลงมาคือน้ำตาลและน้ำมัน การบริโภคเหล่านี้เองที่ทำให้จีนปรับการนำเข้าและมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับละตินอเมริกา ขณะเดียวกันการเติบโตทางอุตสาหกรรมก็ทำให้จีนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนา

ซีไอพีระบุว่าการค้าขายแลกเปลี่ยนระหว่างละตินอเมริกากับจีนที่มีลักษณะการค้าวัตถุดิบแลกกับสินค้าแปรรูปจากจีนทำให้เกิดความไม่สมดุลในภูมิภาค จากการสำรวจปี 2556 พบว่าละตินอเมริกาส่งออกวัตถุดิบร้อยละ 73 ไปให้จีนเทียบกับการส่งออกให้ทั่วโลกร้อยละ 41 ขณะเดียวกันก็ส่งออกสินค้าแปรรูปให้จีนเพียงร้อยละ 6 เทียบกับส่งออกให้ทั่วโลกร้อยละ 42 ในแง่การนำเข้าละตินอเมริกานำเข้าสินค้าแปรรูปจากจีนมากถึงร้อยละ 92 เทียบกับการนำเข้าจากทั่วโลกร้อยละ 69 นอกจากนี้ประเทศต่างๆ ในละตินอเมริกายังส่งออกสินค้าแปรรูปให้จีนน้อยกว่าที่อื่นๆ ในความเป็นจริงคือความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองประเทศหลักอย่างเอกวาดอร์และเวเนซุเอลากับจีนมีการเปลี่ยนแปลงจากลักษณะการค้าในช่วงยุคอาณานิคมน้อยมาก

พันธมิตรทางการค้าที่หลากหลายขึ้น

ซีไอพียังระบุถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงด้านสถาบันทางการเงินโดยยกตัวอย่างในกรณีอาร์เจนตินาที่ธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน (ICBC) มาแทนที่ธนาคารสแตนดาร์ดของสหรัฐฯ ในปี 2554 จากที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและละตินอเมริกามีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนหน้าที่จีนจะวางเงินลงทุนโดยตรงลงในภูมิภาคนี้แล้ว ในปี 2553 จีนยังได้ทุ่มเงิน 14,000 ล้านดอลลาร์เพื่อตั้งอุตสาหกรรมน้ำมัน SINOPEC ในบราซิล และ CNOOC ในอาร์เจนตินา

ซีไอพีประเมินแนวโน้มท่าทีของจีนว่าจากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจีนเน้นเรื่องการขุดเหมืองแร่และการซื้อไฮโดรคาร์บอนแต่หลังจากนี้จะเริ่มมีการลงทุนที่หลากหลายขึ้น โดยในปีนี้มีการให้เงินกู้แก่อาร์เจนตินาเพื่อซื้อรถไฟ มีการลงทุนด้านการผลิตแปรรูปในบราซิลโดยมีแผนการตั้งโรงงานเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดการนำเข้า เช่นแผนการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ เฌอรี่ ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนในบราซิลภายในไตรมาสหน้า ซึ่งมีแผนการผลิตรถยนต์จำนวนมากเพื่อส่งออกในภูมิภาคและยังมีแผนการเปิดศูนย์วิจัยเทคโนโลยีในบราซิลอีกด้วย

นอกจากในบราซิลแล้ว จีนยังวางแผนลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน บริการและการผลิตโดยแลกกับข้อตกลงความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข ด้านสวัสดิภาพ ความปลอดภัยทางท้องถนนและทรัพยากรน้ำในเอกวาดอร์ เช่นมีการตั้งกล้องวงจรปิดตามถนนโดยบริษัทจากจีน แผนการสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 4 แห่งโดยบริษัทก่อสร้างจากจีนรวมถึงการจัดหารถพยาบาลไว้อีกราว 200 คัน นอกจากนี้ยังมีแผนการเกี่ยวกับรถไฟฟ้าและแผนการสร้างโรงเรียนมากกว่า 200 แห่ง

ทั้งนี้ยังมีกรณีการส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบเดียวกันนี้กับประเทศอาร์เจนตินา เพื่อแลกกับการที่จีนมีสิทธิได้เปรียบในด้านพลังงาน การทำเหมืองแร่ การเกษตร และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม รวมถึงมีสิทธิในโครงการสาธารณะโดยไม่ต้องประมูล เพื่อแลกกับการให้ทุนอาร์เจนตินาตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำและการพัฒนาด้านระบบราง นอกจากนี้ผู้นำอาร์เจนตินายังตกลงกับจีนว่าจะมีการสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์แหล่งที่ 4 และ 5 โดยเน้นอาศัยส่วนประกอบวัตถุดิบจากอาร์เจนตินา อีกทั้งประธานาธิบดีอาร์เจนตินายังแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าต้องการค้าขายกับจีนเพื่อแลกเปลี่ยนสินแร่ในประเทศกับการสร้างโรงงาน

ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ

อย่างไรก็ตามมีข้อขัดแย้งกันบางส่วนระหว่างกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ในเรื่องที่อาร์เจนตินาตกลงกับจีนทำให้บราซิลวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาอย่างหนักเพราะอาร์เจนตินาเป็นตลาดหลักของอุตสาหกรรมบราซิล ทำให้สมาคมเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุตสาหกรรมของบราซิลมองว่าเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ของบราซิล ซึ่งก็เป็นการประเมินที่ตรงตามคาดคืออาร์เจนตินาลดการน้ำเข้าจากบราซิลลงในปี 2557 ร้อยละ 25 แต่มีการนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น

ซีไอพีระบุว่าการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นของจีนตามที่ได้รับการส่งเสริมโดย CEPAL จะต้องเกิดความขัดแย้งตามมาแน่นอน เช่นการที่ทั้งอาร์เจนตินาและบราซิลต่างก็เป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองมากกว่าร้อยละ 70 ให้กับจีน การจะเปลี่ยนแปลงอัตราการส่งออกนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ซีไอพีระบุว่า เรื่องสำคัญจริงๆ ระหว่างกลุ่มประเทศละตินอเมริกากับจีนคือความร่วมมือในเชิงการป้องกันประเทศ ประเทศจีนมีการสร้างโรงงานผลิตดาวเทียมร่วมกับเวเนซุเอลา โดยเวเนซุเอลาปล่อยดาวเทียมไปแล้ว 3 ดวงนับตั้งแต่ปี 2551-2557 ซึ่งมีดาวเทียมสอดแนม 2 ดวง นอกจากนี้จีนยังได้พัฒนาระบบการป้องกันประเทศร่วมกับบราซิลรวมถึงขายเรือตรวจตราแก่อาร์เจนตินาและอุรุกวัยในราคาที่ต่ำกว่าขายให้ประเทศตะวันตก ส่วนประเทศโบลิเวีย เวเนซุเอลา และเอกวาดอร์ก็ได้รับการฝึกฝนด้านการรบทางอากาศยานจากจีน

กลุ่มประเทศละตินอเมริกามีความทะเยอทะยานต้องการร่วมมือกับจีนเนื่องจากเห็นว่าจีนมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่พึ่งพาได้อย่างมาก ต่างจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่อื่นๆ ซึ่งมองเห็นละตินอเมริกาเป็นตลาดสินค้าของพวกเขา ซึ่งซีไอพีมองว่าความสามารถในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของจีนในเวลานี้คล้ายกับสหรัฐฯ ช่วงก่อนจะเป็นมหาอำนาจ

 

เรียบเรียงจาก

China Stakes Its Claim in Latin America, Raul Zibechi, CIP America, 13-03-2015
http://www.cipamericas.org/archives/14692

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท