กรมการจัดหางานเผยคนไทยโดนหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มกว่าปีก่อน กำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวังนายหน้าเถื่อน ด้านยอดส่งส่งเงินกลับประเทศไทยโดยผ่านระบบธนาคารเมื่อปี 2557 มีถึง 90,634 ล้านบาท
กระทรวงแรงงานระบุคนงานไทยไปทำงานต่างประเทศส่งเงินกลับไทยผ่านธนาคาร 90,634 ล้านบาท ส่วนธนาคารโลกระบุส่งเงินกลับมารวม 1.93...
Posted by Workazine on 19 เมษายน 2015
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2558 ที่ผ่านมานายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) เปิดเผยว่าปัญหาการหลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศยังคงมีอยู่เป็นระยะและมีแนวโน้มจะสูงกว่าปีที่แล้ว โดยในปี 2557 ได้ดำเนินคดีกับนายหน้าเถื่อน 134 คดี มีผู้กระทำผิด 156 คน ขณะที่ในปี 2558 ตั้งแต่เดือนม.ค.และก.พ. ดำเนินคดีกับนายหน้าเถื่อนไป 41 คดี ผู้กระทำผิด 82 คน ทั้งนี้มีข้อน่าสังเกตว่า ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้กระทำผิดเกินกว่าร้อยละ 50 ของปี 2557 แสดงให้เห็นว่าการหลอกลวงมีเพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีนายหน้าเถื่อนที่มีพฤติกรรมหลอกลวงจะมีโทษตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 จำคุก 3 - 10 ปี ปรับไม่เกิน 60,000-200,000 บาท ต่อการหลอกลวงแรงงาน 1 คน
ทั้งนี้การหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศยังคงมีอยู่และมากขึ้นโดยช่วงนี้แรงงานไทยที่ถูกหลอกลวงส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยากไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และลาว ขณะที่นายหน้าเถื่อนมีเครือข่ายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ จึงได้กำชับสำนักงานจัดหางานจังหวัดในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่คนไทยนิยมไปทำงานต่างประเทศ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น ลำปาง สุโขทัย นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี คอยเฝ้าระวังนายหน้าเถื่อน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนในพื้นที่เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง"นายสุเมธกล่าว
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2557 มีแรงงานไทยที่ได้รับอนุญาตเดินทางไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด 68,802 คน โดยในจำนวนนี้เป็นแรงงานที่เคยไปทำงานและกลับไปใหม่ 50,727 คน ส่วนประเทศที่แรงงานไทยนิยมไปทำงานได้แก่ ไต้หวัน 30,047 คน ญี่ปุ่น 6,508 คน อิสราเอล 5,015 คน เกาหลีใต้ 4,482 คน สวีเดน 2,897 คนและฟินแลนด์ 2,787 คน และมีการส่งเงินกลับประเทศไทยโดยผ่านระบบธนาคาร 90,634 ล้านบาท หากคิดเป็นรายเดือนอยู่ที่กว่า 6,000-8,000 ล้านบาท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)