กรุงกาฐมาณฑุ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 องค์การยูนิเซฟได้ออกมาเตือนว่า เด็กในประเทศเนปาลกำลังพบกับการสูญเสียทางจิตใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ต้องเผชิญกับความเสียหายรุนแรงจากแผ่นดินไหวใหญ่ถึง 2 ครั้งภายใน 2 สัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมา

 

เด็กหลายพันคนและครอบครัวต้องกลับไปอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราวทั่วประเทศอีกครั้ง หลังจากที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งที่สองเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ทำให้ประชาชนกลัวการกลับบ้าน

 

นายโรนัค ข่าน รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟประจำประเทศเนปาล กล่าวว่า “เราไม่ควรประเมินผลกระทบทางจิตใจจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าที่มีต่อเด็กๆ ต่ำเกินไป”

 

“ผมอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางขณะเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเด็กๆ ต่างกอดกันร้องไห้เป็นชั่วโมงๆ ขณะที่ผู้คนวิ่งหนีออกจากบ้านตนเอง เราทราบว่าเด็กหลายคนต้องทนทุกข์กับการฝันร้าย เด็กส่วนหนึ่งมีความเครียดอย่างรุนแรงและนอนไม่หลับ ส่วนเด็กคนอื่นๆ ก็อยู่ติดกับพ่อแม่ตลอดเวลา”

 

องค์การยูนิเซฟเร่งเสริมการปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อันรวมถึงเขตโดลาคา และเขตสินธุปาโชค ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามากที่สุด นอกจากการจัดหาน้ำสะอาด สุขอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์จำเป็นแล้ว ยูนิเซฟยังให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือทางด้านจิตใจแก่เด็กที่เผชิญกับความเครียดอย่างรุนแรงด้วย

 

นายข่าน กล่าวอีกว่า “เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่สุดเพื่อปฐมพยาบาลทางจิตใจแก่เด็กๆ เมื่อพวกเขาต้องการและในพื้นที่ที่มีความต้องการ”

 

“สภาวการณ์ที่เด็กไม่มีอาหาร ที่พักอาศัย หรือน้ำสะอาด เป็นสภาวะที่พบเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่บ่งถึงความเครียดทางจิตใจ อาทิ ความวิตกกังวล อาจไม่สามารถเห็นได้ด้วยตา และก่อให้เกิดความเสียหายระยะยาวอย่างรุนแรงหากเด็กไม่ได้รับการบำบัด”

 

องค์การยูนิเซฟได้ช่วยเหลือเด็กให้สามารถจัดการกับประสบการณ์เหล่านี้โดย

 

· สนับสนุนให้มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดของประเทศ ซึ่งจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นมืออาชีพแก่เด็ก

· การบริหารจัดการพื้นที่เป็นมิตรต่อเด็กมากมายหลายแห่งในแหล่งที่พักอาศัยชั่วคราวที่ซึ่งเด็กๆ สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางจิตใจ

· การสนับสนุนการใช้ศิลปะบำบัดให้แก่เด็กๆ

· การจัดให้มีรายการพิเศษทางวิทยุเนปาลชื่อ “บานได ซันได” ที่มีบริการให้คำปรึกษาแก่เด็กที่โทรศัพท์เข้ามาในพื้นที่ห่างไกลของประเทศ รายการได้เริ่มออกอากาศภายใน 10 นาทีหลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม

· การจัดทีมทำงานระบุหาและช่วยเหลือเด็กที่ต้องแยกจากครอบครัว

· การช่วยเปิดให้มีการเรียนการสอนในโรงเรียนและจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชั่วคราว เพื่อช่วยเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา และจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก และสร้างบรรยากาศที่พวกเขาคุ้นชิน

 

นายข่านกล่าวอีกว่า “เราต้องทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางจิตใจแก่เด็ก และให้เด็กได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย รวมทั้งการใช้ชีวิตตามกิจวัตรประจำวันปกติและประสบการณ์ของเด็ก”

 

“เด็กในประเทศเนปาลได้ผ่านอะไรมามากมาย และเราต้องทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ เพื่อให้เด็กได้กลับคืนสู่วัยเด็กอีกครั้ง”

 

องค์การยูนิเซฟได้ประกาศระดมทุนจำนวน 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,500 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมต่อแผ่นดินไหวในประเทศเนปาลภายใน 3 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในระยะเวลาจำกัด