25 พ.ค.2558 ที่ศาลอาญา รัชดา มีนัดสอบปากคำ ตรวจพยานหลักฐานคดีที่นายปิยะ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี อดีตโบรกเกอร์ตกเป็นจำเลย ถูกฟ้องในข้อหาความผิดตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา 14 (3), 14 (5) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีโพสต์เฟซบุ๊กเข้าข่ายหมิ่นสถาบันในบัญชีชื่อ พงศธร บันทอน จำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันต่อสู้คดี

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ทนายความจำเลยระบุว่า ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 17 ส.ค.นี้ และนัดสืบพยานโจทก์จำนวน 20 ปากในวันที่ 17-20 พ.ย. สืบพยานจำเลยวันที่ 24 พ.ย.

ทั้งนี้จนถึงขณะนี้จำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้ว

เว็บไซต์โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ระบุว่า กรณีนี้ถูกกล่าวหาว่า ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-28 พ.ย.2556 มีการโพสต์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเผยแพร่ข้อความในลักษณะหมิ่นประมาทในบัญชีเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า พงศธร บันทอน และใช้รูปโปรไฟล์เป็นรูปของปิยะ มีผู้พบเห็นข้อความดังกล่าวแล้วนำเรื่องไปร้องทุกข์กล่าวโทษปิยะต่อพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และในท้องที่อื่น เช่น จังหวัดนครปฐม จังหวัดน่าน

ต่อมาวันที่ 11 ธ.ค.2557 ปิยะถูกจับกุมตัว เขาปฏิเสธว่าไม่ใช่พงศธร บันทอน แต่ภาพโปรไฟล์เป็นรูปของเขาจริง โดยเป็นรูปที่เขาใช้ในทวิตเตอร์และกูเกิลพลัส พนักงานสอบสวนนำตัวเขาไปฝากขัง เขาถูกคุมขังเรื่อยมาจนปัจจุบัน นอกจากนี้อัยการคดีนี้ยังได้ร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีเป็นการลับด้วย

อัยการระบุเหตุผลว่า “เพื่อป้องกันความลับอันเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศไม่ให้ล่วงรู้ถึงประชาชน เนื่องจากคดีนี้มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชน การเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อประชาชนในระหว่างการพิจารณาคดีเป็นการกระทำที่ไม่บังควรเพราะอาจกระทบกระเทือนต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนได้” และในวันนี้ศาลสั่งให้พิจารณาคดีเป็นการลับ แต่อนุญาตให้บิดาของจำเลยและทีมงานของทหนายจำเลยเข้ารับฟังได้