เปิดเวทีวิสัยทัศน์ ‘Wawasan Patani 2020’ จุดเริ่มต้นร่วมกำหนดทิศทางปาตานี/ชายแดนใต้โดยคนใน

เริ่มเวที ‘Wawasan Patani’ วันแรกเข้มข้น นักเคลื่อนไหวสันติภาพเข้าร่วมคับคั่ง ฟังวิสัยทัศน์แหลมคม ทิศทางปาตานี/ชายแดนใต้จะไปทางไหน ผู้จัดเผยเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดทิศทางอนาคตร่วมกันของชาวภูมิบุตรที่คู่ขัดแย้งต้องฟัง
 
 
 
เมื่อเวลา 09.00 น. วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2558 ที่หอประชุมสานักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) งานเสวนาวิสัยทัศน์ปาตานี/ชายแดนใต้ 2020 ครั้งที่ 3 : ทิศทางปาตานี/ชายแดนใต้ Wawasan Patani 2020 3rd : Arah Tuju Patani เริ่มต้นขึ้นแล้ว จัดโดยวิทยาลัยประชาชน โดยมีผู้ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษและผู้กล่าวสุนทรพจน์ “ทิศทางสังคมปาตานี/ชายแดนใต้” รวม 12 คน และมีตัวแทนภาคประชาสังคมและกลุ่มชาติพันธ์ต่างๆในพื้นที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และบรรยากาศบนเวทีเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยมีการใช้ทั้งภาษาไทยและภาษามลายูในการสื่อสาร
 
 
นายแวอิสมาแอล์ แนแซ ผู้อำนวยการวิทยาลัยประชาชน
 
นายแวอิสมาแอล์ แนแซ ผู้อำนวยการวิทยาลัยประชาชน เปิดเผยว่า การจัดเวทีครั้งนี้ เพื่อเป็นพื้นที่ในการสานเสวนาระหว่างกลุ่มคนที่หลากหลายในพื้นที่ปาตาน/ชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม จุดประสงค์เพื่อต้องการลดความรู้สึกที่ไม่ดีระหว่างกัน ลดความหวาดระแวงระหว่างคนชาติพันธ์อื่นหรือศาสนาอื่นกับคนมลายูมุสลิม เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปาตานี/ชายแดนใต้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางชาติพันธ์และศาสนา แต่เป็นความขัดแย้งที่มาจากเรื่องอื่นๆ ซึ่งมองโดยรวมคือความขัดแย้งระหว่างโครงสร้างอำนาจกับประชาชน
 
นายแวอิสมาแอล์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อเข้าใจปัญหาตรงกันแล้ว หมายถึงทุกคนมองว่ามันคือปัญหาในเชิงโครงสร้างเหมือนกันแล้ว ทุกคนในฐานะที่เป็นลูกหลายคนในพื้นที่ คือความเป็นภูมิบุตร ไม่ว่าจะเป็นคนมลายูมุสลิม คนพุทธหรือคนจีน ก็ต้องมามองร่วมกันว่าจะไปข้างหน้าด้วยกันอย่างไร ดังนั้นเวทีนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะให้คนแต่ละกลุ่มได้มาสะท้อนมุมมองร่วมกันในนามของกลุ่มชาติพันธ์ ไม่ใช่ในนามบุคคล เพราะแต่ละกลุ่มคือภูมิบุตร
 
“เราไม่รู้ว่าปลายทางของสันติภาพจะเป็นอย่างไร เราบอกไม่ได้ว่าเราจะไปไหน แต่ในระหว่างนี้เราจะมาร่วมเดินไปด้วยได้ไหม จะเดินไปด้วยกันอย่างไร วันนี้คือจุดเริ่มต้น” นายแวอิสมาแอล์ กล่าว
 
นายแวอิสมาแอล์ กล่าวด้วยว่า จริงๆแล้ว ปลายทางของสันติภาพนั้นเป็นเรื่องของคู่ขัดแย้งหลัก ไม่ใช่เรื่องของภาคประชาสังคม แต่ภาคประชาสังคมต้องทำหน้าที่หนุนเสริมในการสร้างสันติภาพ ต้องหนุนเสริมหรือค้นหาแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ภาคประชาสังคมต้องไม่แคร์คู่ขัดแย้งหลักว่าต้องการอะไร แต่ต้องมาคุยกันว่า จะหาทางลงให้คู่ขัดแย้งหลักทั้งสองฝ่ายอย่างไร
 
“เพราะฉะนั้นเวทีวันนี้คือจุดเริ่มต้นหนึ่งที่จะให้หลายฝ่ายหลายภาคส่วนได้มากหาทางออกหรือแสดงให้เห็นแนวทางที่จะได้ด้วยกัน ภาคประชาสังคมปาตานีต้องมาสร้างแนวทางแบบนี้ เพื่อให้เห็นจุดประสงค์ร่วม ไม่ใช่จุดประสงค์ของใครคนใดคนหนึ่งเท่านั้น”
 
นายแวอิสมาแอล์ กล่าวว่า การแสวงหาสันติภาพในที่นี้ ไม่ใช่แค่การมีความยุติธรรมอย่างเดียว ไม่ใช่แค่การมีความสงบอย่างเดียว แต่ต้องมีศักดิ์ศรีของคนในพื้นที่ด้วยทั้งในระดับโลกมลายูและในระดับนานาชาติด้วย
 
นายแวอิสมาแอล์ กล่าวด้วยว่า ส่วนทำไมต้องกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ปาตานี/ชายแดนใต้ 2020 หรือ Wawasan Patani 2020 เพราะจะเป็นตัวเชื่อมสิ่งแต่ละคนกำลังจะไปได้มาอยู่ที่เดียวกัน เพื่อให้ทุกคนได้เห็นเป็นความหวังร่วมกัน และความหวังนั้นยังเป็นการเยียวยาสังคมที่เสียหายไปมากแล้วด้วย
 
“การกำหนดวิสัยทัศน์ปาตานี/ชายแดนใต้ 2020 หรือ Wawasan Patani 2020 เพื่อต้องการให้เห็นว่าเราจะไปร่วมกันอย่างไร เมื่อเห็นทิศทางที่จะไปร่วมกันแล้ว ทางคู่ขัดแย้งหลักก็ต้องหามาดูด้วยว่าเราต้องการอะไร ขณะเดียวกันเราก็ต้องดูด้วยว่า คู่ขัดแย้งหลักต้องการอะไรด้วยเช่นกัน เพื่อร่วมกันมาหาสิ่งที่ทำได้ว่ามีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อำนาจ ความยุติธรรม วัฒนธรรม เป็นต้น” นายแวอิสมาแอล์ กล่าว
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท