ไทยทีวียังไม่ตัดสินใจจ่ายค่าธรรมเนียมกว่า 1,600 ล้านบาท และฟ้องคดีหรือไม่ แม้ใกล้ครบคำสั่ง กสทช.กำหนด 14 มิถุนายน ย้ำยังอยู่ระหว่างเจรจา กสทช.
12 มิ.ย. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายสุชาติ ชมกุล ฝ่ายกฎหมาย บริษัท ไทยทีวี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังจากนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า หากไทยทีวี ไม่จ่ายค่าธรรมเนียมประกอบกิจการทีวีดิจิตอลอีก 5 งวดที่เหลือ กว่า 1,600 ล้านบาท ภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2558 ทาง กสทช.จะทำหนังสือแจ้งธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เพื่อขอริบหลักทรัพย์ ค้ำประกัน (แบงค์การันตี) ที่ไทยทีวี วางค้ำประกันไว้ในช่วงก่อนประมูลทีวีดิจิตอล โดยขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่อยู่ระหว่างการทำหนังสือโต้แย้งกับ กสทช.
ทั้งนี้ ไทยทีวีเป็นผู้ชนะการประมูลและเจ้าของใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลช่องข่าว “ไทยทีวี” และช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว “โลก้า” ได้ทำหนังหนังสือแจ้ง กสทช. ว่าขอยกเลิกใบอนุญาตฯ ทั้ง 2 ช่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขั้นตอนการเลิกใบอนุญาตนั้น คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เห็นว่าทางบริษัทต้องส่งแผนเยียวยาผู้ชมทั้ง 2 ช่อง ให้คณะกรรมการพิจารณา ซึ่งบริษัทส่งไปแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่าจะนำผังรายการไปออกอากาศในโครงข่ายในช่องทางดาวเทียมแทน แต่การจ่ายเงินประมูลที่ค้างอีก 5 งวด กว่า 1,600 ล้านบาท บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร และมีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องคดี เนื่องจากหนึ่งในเหตุผลหลักที่บริษัทแจ้ง กสทช. เพื่อขอยกเลิกประกอบกิจการ เนื่องจาก กสทช.ไม่ได้กำกับดูแลการเปลี่ยนผ่านการรับชมโทรทัศน์จากระบบอนาล็อกไปสู่ดิจิตอลตามแผนงานที่กำหนดไว้ เช่น การแจกคูปองส่วนลด 690 บาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนนำไปแลกซื้ออุปกรณ์ เพื่อเปลี่ยนผ่านการรับชมสัญญาณทีวีในระบบดิจิตอล, การวางเสาโครงข่ายสัญญาณดิจิทัล (MUX) ของผู้ให้บริการบางรายล่าช้ากว่าแผนงาน นอกเหนือไปจากเหตุผลว่าบริษัทขาดทุนจากการทำธุรกิจช่องดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง เป็นเงิน 320 ล้านบาท
สำหรับเงื่อนไขการชำระค่าธรรมเนียมเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556″ ข้อ 10 โดยบริษัท ไทยทีวี จำกัด ต้องชำระเงินให้กับ กสทช. จนครบจำนวนตามงวด โดยช่องไทยทีวี ประมูลราคา 1,328 ล้านบาท ยังค้างชำระ 1,107 ล้านบาท ส่วนช่องโลก้าประมูลราคา 648 ล้านบาท ค้างชำระ 527 ล้านบาท ส่วนการยกเลิกใบอนุญาตฯ เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง “หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555″ ข้อ 18 ได้กำหนดขั้นตอนไว้ว่า เมื่อผู้รับใบอนุญาตแจ้งยกเลิกการประกอบกิจการ ต้องส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) พิจารณา การขอยกเลิกใบอนุญาตฯ ของบริษัท ไทยทีวี จำกัด และจะมีผลก็ต่อเมื่อ กสท. เห็นชอบแล้วเท่านั้น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)