24 มิ.ย.2558 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่วันนี้(24 มิ.ย.) ตรงกับวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ว่า จะรักษาเจตนารมณ์คณะราษฎรเพื่อรักษาประชาธิปไตยและทำให้ประเทศเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อป้องกันความขัดแย้ง เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาล้วนเกิดจากความขัดแย้ง ทำให้ทหารต้องเข้ามารักษาเสถียรภาพของประเทศและประชาชนไว้ ยืนยันว่ารัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่ได้เป็นเผด็จการ ยังคงยึดหลักการด้านสิทธิมนุษยชนและดำเนินการตามโรดแมปที่วางไว้

ส่วนกระเเสข่าวรัฐประหารซ้อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้จับกุมผู้ที่ปล่อยข่าวได้แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ ยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำให้ประชาธิปไตยสะดุด แต่มีหน้าที่รักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมทั้งรักษาความสงบของประเทศเท่านั้น เพราะในครั้งที่มีเหตุการณ์รุนแรง ถ้าทหารไม่เข้ามาประเทศก็จะไม่สงบ แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดสื่อยังโจมตีการทำงานของรัฐบาลและคสช. จึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจการทำงานและเป็นกำลังใจให้รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อความสงบสุขมั่นคงด้วย

‘ประยุทธ์’ ย้ำเชิญธงชาติขึ้นเสาธงใหม่ทำเนียบฯ วันนี้ไม่มีความนัย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ ถึงการเชิญธงชาติไทย ขึ้นสู่ยอดเสาธงใหม่ ที่หน้าตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย.) ไม่มีนัยใดๆ เกี่ยวกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เกี่ยวกับการเสริมดวง ตามความเชื่อโหราศาสตร์แต่อย่างใด

“แต่พิธีเชิญธงชาติในครั้งนี้ เพราะต้องการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่า ทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์รวมของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ด้าน พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ยืนยันเช่นกันว่า ไม่เกี่ยวกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แต่ที่ผ่านมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่เร่งตั้งเสาธง  และคาดว่าจะแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน แต่เสร็จไม่ทัน ที่สำคัญก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี- เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 6 ที่กรุงเนปิดอว์ เมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ว่า เมื่อเดินทางกลับจากพม่า เสาธงต้องแล้วเสร็จ   และอย่างน้อยต้องทำพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงได้ร่วมคารพธงชาติ ในพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่เสาธงของทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก

ที่มา : สำนักข่าวไทย, มติชนออนไลน์ และสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.