Skip to main content
sharethis
เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.  2558 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ เป็นประธานในการประชุม มีวาระการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เป็นวันที่ 2 ที่พิจารณาไปได้ 15 มาตรา โดยเริ่มตั้งแต่มาตรา 34 - 48 โดยในช่วงเช้าเป็นการพิจารณาในภาค 1 พระมหากษัตริย์ และประชาชน หมวด 2 ประชาชน ส่วนที่ 2 สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ตอนที่ 2 สิทธิมนุษยชน  เริ่มที่มาตรา 38 สิทธิของบุคคลในการสมรสและในครอบครัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง กมธ.ยกร่างฯได้ตัด “สิทธิในการสมรสออก”ตามคำขอของ ครม.ที่เสนอให้ตัดออก เพราะกังวลว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสิทธิในการสมรสระหว่างบุคคลเพศเดียวกันที่สังคมและวัฒนธรรมไทย ยังไม่เป็นไปตามการให้สิทธิไว้อย่างบางประเทศ และวรรคสองว่าด้วยสิทธิในเกียรติยศ ชื่อเสียง ข้อมูลส่วนบุคคล ความเป็นอยู่ส่วนตัวที่ไม่สามารถจำกัดสิทธิได้ กมธ.ยกร่างฯได้ตัดคำว่า “ในกรณีที่เป็นบุคคลสาธารณะออก”เพื่อให้บุคคลได้รับความคุมครองเสมอกัน“
 
มาตรา 28 ว่าด้วยสมัชชาคุณธรรม สมัชชาพลเมืององค์กรตรวจสอบภาคประชาชน และองค์กรอื่นที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่กมธ.ยกร่างฯได้ตัดและปรับถ้อยคำใหม่ โดยมีข้อสรุป คือ “เพื่อประโยชน์การสร้างและมีส่วนร่วมความเป็นพลเมืองให้มีกระบวนการที่ประชาชนมารวมกันเป็นสมัชชาพลเมืองในระดับพื้นที่ และระดับอื่น เพื่อมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการจัดการชุมชน การบริหารท้องถิ่น และการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
 
สำหรับการประชุมในช่วงบ่าย มีมาตราที่น่าสนใจ อาทิ มีการยก มาตรา 35 เกี่ยวกับทหาร ตำรวจ และข้าราชการ และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐย่อมมีสิทธิและเสรีภาพเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป เว้นแต่จำกัดไว้ในกฎหมาย หรือกฎเฉพาะที่เกี่ยวกับการเมืองสมรรถภาพ วินัย หรือจริยธรรม ไปไว้ มาตรา 64/1 นอกจากนี้ยังมีการปรับแก้ถ้อยคำ ชื่อ ตอนที่ 3 สิทธิพลเมือง ปรับเป็น “สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย” นอกจากนั้นยังมีการปรับแก้ถ้อยคำในมาตรา 47 โดยการตัดถ้อยคำในวรรคสามออกไป ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ “การถอนสัญชาติไทยจากบุคคลที่มีสัญชาติไทยโดยการเกิด จะกระทำมิได้ สัญชาติไทยจะสิ้นสุดลงได้ตามกฎหมายบัญญัติ และจะขัดต่อเจตจำนงของพลเมืองนั้นได้ต่อเมื่อไม่ทำให้พลเมืองนั้นเป็นบุคคลไร้สัญชาติ” เนื่องจากเนื้อหาดังกล่าวมีบัญญัติไว้ในกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยแล้ว“
 
ขณะที่มาตรา 48 เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและการอุดหนุนกิจการสื่อมวลชนโดยรัฐ กมธ.ยกร่างฯได้มีการบัญญัติเพิ่มเติมให้มีการเปิดเผยงบประมาณของรัฐที่ใช้ในการอุดหนุนอีกด้วย   สำหรับการประชุมของกมธ.ยกร่างฯ ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ จะเริ่มเวลา 09.00 น.ซึ่งจะเริ่มพิจารณาที่มาตรา 49 เกี่ยวกับพนักงาน ลูกจ้าง ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนย่อมมีเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวสาร ภายใต้ข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญ.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net